แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 283

บทที่ 283 ความมีน้ำใจในครั้งนี้ วันหลังฉันจะต้องคืนให้คุณแน่

นลินเองก็เห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว เธอแทบจะเข้าไปในเต็นท์ในชั่ววินาทีแรกเลย

นรมนมองดูเธอทีหนึ่ง แล้วทั้งสองคนต่างก็ไม่พูดอะไร

แต่ว่าท่าทีของบุริศร์กลับเคร่งขรึมขึ้นมา

เสียงของข้างนอกยิ่งอยู่ก็ยิ่งเสียงดังมากขึ้น บุริศร์เองก็รีบร้อนเดินกลับมา ในตอนที่เห็นโดรนนั้นก็อยากจะเอาก้อนหินโยนให้มันตกลงมา แต่ว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้เริ่มขยับมือ โดรนก็บินต่ำลงมาถึงตรงหน้าบุริศร์ ข้างบนมีกระดาษแผ่นหนึ่งติดเองไว้

“คุณบุริศร์ รอผมมาช่วยพวกคุณนะ”

ตัวหนังสือที่อ่อนโยนแบบนี้ บุริศร์อ่านแล้วที่มุมปากก็ค่อย ๆ คลี่ออก

เจ้าเด็กตัวเหม็นนี้นี่!

บุริศร์ดีดโดรนนั้นทีหนึ่งเลย แล้วโดรนก็บินไปในทางที่ไกลออกไปอย่างรวดเร็วทันทีเลย

พอนลินเห็นภาพภาพนี้แล้วก็รู้สึกตกใจอยู่ไม่มากก็น้อย ส่วนนรมนก็พอเดาออกได้แล้ว

เธอเปิดผ้าเต็นท์ออกแล้วเดินออกมา

“คือกานต์เหรอ?”

“อืม ดูท่าเวลาที่เราจะอยู่ที่นี่ต่อคงไม่นานแล้ว”

สามารถดูออกได้ว่าอารมณ์ของบุริศร์นั้นดูไม่เลวเลย

“กานต์คือใคร?”

ไม่รู้ว่านลินออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง จากที่เธอดูแล้ว สามารถอยู่กับบุริศร์ได้อีกสักพักหนึ่ง หรือว่าได้พูดคุยมากขึ้นอีกประโยคหนึ่งก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น

สีหน้าของนรมนดูไม่ค่อยดีนัก

คำพูดก็พูดไปหมดเปลือกแล้ว นลินยังไม่รู้จักหลบหลีกไปอีก และกลับรุกหน้าขึ้นมาอย่างนี้ เธอรู้สึกว่าใกล้จะอดทนไม่ไหวแล้ว

บุริศร์เห็นนรมนเป็นแบบนี้ ก็คว้าเอวของนรมนมาโอบไว้แล้วพูดว่า “เจ้าเด็กตัวเหม็นนั่นบอกว่าให้เรารอเขา คาดว่าน่าจะมาถึงเร็ว ๆ นี้แล้วล่ะ”

ระหว่างที่พูดอยู่เขาก็พานรมนเดินไปอีกข้าง เหมือนอย่างกับว่าไม่ได้มีความอยากจะสนใจนลินเลยแม้แต่น้อย

นลินขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในดวงตามีปฏิกิริยาเสี้ยวหนึ่งกะพริบขึ้น แต่ว่ากลับกะพริบแล้วก็ผ่านไป

เธอกลับขึ้นหน้ามาพูดอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “ปลาตัวนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

บุริศร์เองก็ไม่เกรงใจ แล้วก็เอาปลาโยนไปให้นลิน

นลินรับไว้ไม่อยู่ แล้วปลาก็ตกลงไปบนพื้น ดิ้นกระแด่ว ๆ อยู่ นลินมองไปที่บุริศร์อย่างต้องการความช่วยเหลือ แต่ว่าบุริศร์กลับกับโอบกอดนรมนแล้วเดินเข้าไปในเต็นท์

จากข้างในเต็นท์ พอนรมนมองเห็นนลินวุ่นวายจนมือเท้าเป็นระวิงเพื่อต้องการจับปลาแล้ว ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ไม่สบายใจเหรอ? รู้สึกว่าผมทำเกินไปเหรอ?”

ทำไมบุริศร์จะไม่รู้ล่ะว่านรมนกำลังคิดอะไรอยู่ ก็เลยเปิดปากถามออกไปตรง ๆ เลย

นรมนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ฉันกับเธอเปิดอกพูดกันไปแล้ว จะทำยังไงต่อ ก็ต้องดูที่ตัวเธอเองแล้วจะเลือกยังไง”

“รอเดี๋ยวตอนที่กานต์มาถึงแล้วนั้น ก็ทิ้งเธอไว้ที่นี่ให้เธอเอาตัวรอดหรือตายไปเองคนเดียวเลย”

บุริศร์กลับเลือดเย็นกว่านรมนเยอะเลย

นรมนนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คงไม่ดีมั้ง? ที่นี่ไม่มีอะไรให้กินให้ดื่ม ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นมา นั่นมันก็ชีวิตคนชีวิตหนึ่งเลยนะ ฉันแค่หวังแต่เพียงว่าเธอจะไม่มาเกาะแกะคุณก็พอแล้ว แต่ไม่ได้คิดว่าจะทำให้ชีวิตคนต้องมาแปดเปื้อนไปด้วย”

“ตามใจคุณละกัน”

แน่นอนว่าบุริศร์จะต้องรู้นิสัยของนรมนอยู่แล้ว ในเมื่อเธอไม่เห็นด้วย บุริศร์เองก็จะไม่ฝืนแล้ว

เขาลากนรมนมาอีกข้างหนึ่ง แล้วก็หยิบเอาคุกกี้บีบอัดออกมาจากหน้าอก แล้วยื่นให้กับนรมนโดยตรงแล้วพูดขึ้นว่า “อดทนกินไปก่อนนะ อีกเดี๋ยวจะได้มีแรงเดินไป”

“คุณกำลังให้นลินทำปลาอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

นรมนรู้สึกคิดไม่ตกอยู่บ้าง

บุริศร์ยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “เธอจะกินเอง ในเมื่อจะกิน ผมก็จัดการเอาปลากลับมาให้เธอได้ก็ไม่เลวแล้ว หรือยังจะให้ผมไปช่วยเธอทำด้วยเหรอ? เธอไม่ได้เป็นอะไรกับผมสักหน่อย และที่สำคัญเวลานี้มาทำปลาก็ไม่มีเครื่องปรุงสักหน่อย ยังสู้กินคุกกี้บีบอัดไม่ได้เลย”

นี่นรมนถึงเพิ่งจะรู้ว่าทำไมบุริศร์ถึงได้เอาปลาโยนให้นลินไปง่าย ๆ แบบนั้น รู้สึกว่าเขาไม่ได้กะว่าจะกินปลาตัวนั้นจริง ๆ ตั้งแต่แรกแล้ว

“คุณจะทำให้คนเขาเสียใจได้นะ”

“ถ้าเธอไม่เสียใจ คุณก็ต้องเสียใจเองซะแล้ว ผมทนไม่ได้หรอกนะ รีบกินเถอะ”

คำพูดของบุริศร์ทำให้ในใจของนรมนรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย

แล้วอยู่ ๆ เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้

“อ๋อใช่แล้ว ในกระเป๋าของฉันยังมีคุกกี้บีบอัดอีกนะ เจอที่ถ้ำของป้าโอแห่งนั้นน่ะ”

พูดถึงถ้ำนั้นแล้ว คิ้วของนรมนก็ค่อยขมวดกันขึ้นเล็กน้อยแล้ว

“ผมรู้สึกว่าที่แห่งนั้นน่าจะยังมีของอย่างอื่นอีกแน่ ไม่งั้นป้าโอก็คงจะไม่ซ่อนตัวอยู่ที่นั่นหรอก”

“หมายความว่าไงคะ?”

นรมนรู้สึกว่าตัวเองสามารถหาผู้หญิงพวกนั้นเจอได้ ก็ถือได้ว่าเป็นผลเก็บเกี่ยวได้แล้ว หรือว่ายังจะมีของอย่างอื่นอีกเหรอ?

บุริศร์มองเธอเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นว่า “ยังจำสินค้าบนเรือชุดนั้นที่คุณเคยพูดได้ไหม? นั่นจะต้องไม่ใช่ผู้หญิงแน่ ถ้าหากว่าเป็นผู้หญิงแล้วละก็ พวกลูกเรือและกัปตันเรือไม่มีทางที่จะไม่รู้เรื่องหรอก การเคลื่อนย้ายสิ่งมีชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ผู้หญิงพวกนั้นไม่รู้ว่าเธอไปรวบรวมมาจากไหน แต่ว่าสินค้าชุดนั้นก็จะต้องอยู่ที่นี่ด้วยแน่ ๆ”

พอบุริศร์พูดแบบนี้แล้ว คิ้วของนรมนเองก็ค่อย ๆ ขมวดกันขึ้นมาแล้ว

“งั้นพวกเราก็ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ในเมื่อพวกกานต์และกิมจิจะมาแล้ว พวกเราก็จะออกไปได้แล้วใช่ไหม?”

“รออีกหน่อย ที่ข้างนอกตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มวุ่นวายขึ้นมาจริง ๆ รออีกพักหนึ่งเราก็จะออกไป พอออกไปแล้วก็แยกย้ายกับนลินเลย จะให้เธอตามพวกเราต่อไปอีกไม่ได้แล้ว เรื่องต่อไปนี้จะต้องเป็นความลับ และที่สำคัญผู้หญิงอย่างนลินคนนี้ดูไปแล้วช่างวุ่นวายจริง ๆ”

บุริศร์พูดแบบนี้ แน่นอนว่านรมนจะต้องไม่มีความคิดเห็นแน่ ๆ

ถ้าหากไม่ใช่ว่าตัวเองรับรู้ถึงนลินมีความรู้สึกต่อบุริศร์แล้วละก็ บางทีเธออาจจะใจดีจัดแจงทางไปให้นลิน แต่ว่าตอนนี้เธอเองก็ไม่อยากจะสนใจอะไรมากมายแล้ว

ทั้งสองคนกินคุกกี้บีบอัดไปกับน้ำกันไปหลายชิ้น พอรู้สึกว่าในกระเพาะมีอาหารขึ้นมาบ้าง ร่างกายก็เริ่มมีแรงขึ้นมาบ้างเหมือนกัน

ในเวลานี้ที่ข้างนอกมีเสียงสัญญาณกระสุนลอยมา บุริศร์เปิดเต็นท์ออกมาดู ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มีควันลอยสูงพุ่งสู่ท้องฟ้าขึ้นมา

“พวกเขามาแล้ว”

ในตอนที่บุริศร์และนรมนออกมานั้น นลินยังรูดปลาอยู่เลย พอเห็นพวกเขาออกมา ก็รีบพูดขึ้นว่า “อีกแป๊บหนึ่งฉันก็จะทำเสร็จแล้ว”

นรมนมองเขาทีหนึ่ง เวลาแค่ครู่เดียวนี้ นลินก็จัดการกับปลาได้เรียบร้อยแล้ว ปลาที่ดิ้นกระแด่ว ๆ ตอนนี้ได้ตายไปจนไม่รู้ว่าจะตายยังไงอีกแล้ว

ในที่สุดเธอก็ยอมรับคำพูดที่บุริศร์เคยพูดไว้แล้วว่าถูกต้อง นลินคนนี้มีความสามารถในการดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางดินทรายได้ดีกว่าเธอแน่นอน

ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำไมเธอยังจะต้องคอยมาตามตัวเองไม่หยุดอีกล่ะ?

นรมนคิดไม่ตก และในเมื่อจะแยกกับเธอแล้ว ตัวเองก็ขี้เกียจที่จะคิดแล้ว

“นลิน เธอทำเองเถอะ พวกเราจะออกไปแล้ว ต่อจากนี้ไปเรื่องของเราจะเก็บเป็นความลับ เธอก็ไม่ต้องตามพวกเราไปแล้วนะ ตอนนี้ถือได้ว่าเธอปลอดภัยแล้ว เธอทำปลาเสร็จแล้ว ก็กินเองเลยนะ เริ่มตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเราก็ต่างคนต่างเดิน ต่อไปก็ไม่ต้องรู้จักกันแล้วนะ ”

พอคำพูดพวกนี้ของนรมนถูกพูดออกไป นลินก็อึ้งไปเลย

เธอคงจะคิดไม่ถึงว่า คนที่จะทิ้งตัวเองไว้ในครั้งนี้กลับเป็นนรมน

บุริศร์ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ก็ไม่เคยมองนลินเลยสักครั้ง และสำหรับคำพูดของนรมนเองก็ยิ่งไม่มีความคิดเห็นอะไร

นลินกัดริมฝีปากล่างเอาไว้ มองไปแล้วก็ดูน่าสงสารทุกอย่าง มีอยู่ชั่วขณะหนึ่ง นรมนเกือบจะใจอ่อนแล้ว

เธอก็คิดถึงกมลอีก

ในตอนที่กมลน้อยใจก็เป็นแบบนี้ กัดริมฝีปากล่างเอาไว้ ท่าทางเหมือนกับว่าให้คนรักและเอ็นดูแบบนั้น

แต่ว่าไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ใช่กมล

กลมไม่มีทางคิดร้ายกับเธอ แต่ว่าคนที่อยู่หน้าเธอคนนี้มีทางทำได้

นรมนบีบบังคับให้ตัวเองจิตใจโหดเหี้ยมลง และเอาคุกกี้บีบอัดที่อยู่บนตัวออกมาและยื่นให้กับนลิน

“เก็บไว้กินระหว่างทาง ถึงแม้ว่าจะไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่ว่าก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรกิน ข้างในยังมีน้ำ ยังมีเสื้อผ้า เธอไปดูเอาเองว่าต้องการอะไร แล้วก็เอาติดตัวไปด้วย”

พอนรมนพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว นลินก็ไม่ได้พยายามพูดอะไรที่ดึงรั้งเอาไว้อีกแล้ว จ้องมองคุกกี้บีบอัดที่อยู่ในมือของนรมน และกำลังลังเลอยู่ว่าจะเอาหรือไม่เอาดี

คิดไปประมาณสามวินาที ในที่สุดเธอก็รับคุกกี้บีบอัดมา และพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ขอบคุณค่ะ พี่สาว”

“พี่สาว” คำนี้กลับเรียกได้อย่างจริงใจ แต่ว่านรมนจะให้ตัวเองใจอ่อนอีกไม่ได้แล้ว

เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นตัวเลขที่หาค่าไม่ได้มาตลอด แล้วก็มีความคาดหวังกับบุริศร์ด้วย เธอจะเอามาเก็บไว้ข้างกายไม่ได้เด็ดขาด

ถึงแม้ว่าจะทนทำใจไม่ได้อยู่บ้าง แต่ว่านรมนก็ยังกุมมือของบุริศร์เอาไว้ ราวกับว่าพอทำแบบนี้แล้วจะสามารถทำให้ได้รับความกล้าหาญมาจากบุริศร์ได้ยังไงอย่างงั้น

บุริศร์ก็รู้ว่านรมนเป็นคนที่ปากร้ายแต่ว่าใจอ่อน และก็มองนลินเล็กน้อย แล้วก็หยิบเอาเงินที่มีติดตัวอยู่ออกมาแล้วยื่นให้นรมน

นรมนมองเล็กน้อย แล้วก็รับเงินมา จากนั้นก็ส่งต่อไปให้นลิน

“สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ก็มีเพียงเท่านี้แล้ว เงินพวกนี้มีไม่เยอะ แต่ก็มากพอให้เธอใช้กินใช้อยู่ได้สักพักหนึ่งแล้ว หางานดี ๆ สักงานหนึ่ง หรือว่าหาที่ดี ๆ สักแห่งที่เหมาะสมกับตัวเอง แล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยตัวเองเถอะ”

นลินจ้องมองดูเงิน แล้วก็ดูคุกกี้บีบอัดที่อยู่ในมือ แล้วพอหันไปมองบุริศร์อีกครั้งนั้น บุริศร์ยังคงเย็นชาอยู่เช่นเดิมและไม่มองเธอ

ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ในสายตาของบุริศร์นั้นไม่เคยมีเธออยู่แม้แต่นิดเดียวเลย

นลินกัดริมฝีปากล่างเอาไว้แล้วรับเงินมา และพูดเสียงต่ำกับนรมนว่า “ขอโทษด้วยนะพี่สาว น้ำใจของคุณนี้ฉันจะจำเอาไว้ วันหลังฉันจะต้องคืนให้คุณแน่ ๆ”

“ไม่ต้องหรอก เธอมีชีวิตอยู่ดี ๆ ก็พอแล้ว”

สำหรับนลินแล้ว นรมนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี แต่ว่าตอนนี้ในใจกลับรู้สึกซับซ้อนมาก

เด็กคนหนึ่งแบบนี้ โอกาสที่จะก้าวร้าวนั้นสูงมาก และไม่ใช่จะพูดว่าเขาจะต้องแย่งบุริศร์กับตัวเองแน่นอน แต่ว่า ในเมื่อเธอมีความคิดแบบนี้แล้ว นรมนก็รู้สึกว่าไม่สบายใจ

ในเมื่อไม่สบายใจ งั้นก็ไม่ต้องฝืนตัวเองแล้ว ในเมื่อบุริศร์เป็นคนที่เธอห่วงใยที่สุดและให้ความสำคัญที่สุด

หลังจากที่ทำทุกอย่างนี้เสร็จแล้ว นรมนก็ไม่คิดถึงเธออีก และพูดกับบุริศร์เสียงต่ำขึ้นว่า “พวกเราไปเถอะ”

“อืม”

บุริศร์พยักหน้า แล้วก็ถอดเสื้อนอกออกและเอามาคลุมไว้บนตัวนรมน และพูดขึ้นว่า “คุณใส่เสื้อเยอะ ๆ หน่อย อย่าให้เป็นหวัดไปล่ะ”

“คุณไม่หนาวเหรอ?”

“ผมเป็นผู้ชาย ไม่หนาวหรอก”

เสียงของบุริศร์และนรมนยิ่งอยู่ก็ยิ่งไกลออกไป พวกเขาทั้งสองคนสิบนิ้วประสานกับไว้ แล้วก็เดินออกไปจากขอบเขตการมองเห็นของนลิน

นลินกัดริมฝีปากล่างไว้และมองดูแผ่นหลังของพวกเขาไป แววตาสั่นไหวเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่าในดวงตากลับมีแววน้ำตาสว่างไสวอยู่

เธอจ้องมองไปทางนรมน แล้วสาบานว่าจะเป็นผู้หญิงแบบนรมนให้ได้ ไม่จำเป็นจะต้องประสบความสำเร็จมากมาย เพียงแต่ว่าขอแค่มีผู้ชายคนหนึ่งที่สามารถดีกับเธอได้อย่างบุริศร์ก็พอแล้ว

นรมนสามารถรู้สึกถึงสายตาของนลินที่ข้างหลังได้ตลอด แต่เธอเพียงแค่อดทนไว้ไม่ให้เหลียวหลังกลับไปมอง

บุริศร์ทอดถอนใจและพูดขึ้นว่า “จิตใจที่อ่อนขนาดนี้ จะสามารถดูแลอาณาจักรรัตติกาลให้ดีได้เหรอ?”

“ไม่มีคนพูดสักหน่อยว่าดูแลอาณาจักรรัตติกาลจะต้องจิตใจโหดเหี้ยม”

นรมนเถียงกลับไปอย่างไม่พอใจคำหนึ่ง จากนั้นก็เดินออกไปจากหุบเขานี้กับบุริศร์

เธอไม่รู้ว่าที่นี่สามารถตรงทะลุออกไปข้างนอกได้

ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะว่าบุริศร์นำทางเธออยู่ เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกนานแค่ไหน

หลังจากที่ทั้งสองคนเดินออกมาได้แล้วนั้น ก็โดนภาพตรงหน้าทำให้ตะลึงงันไปแล้ว

โดรนหลายเครื่องบินอยู่บนท้องฟ้า และบนโดรนก็มีระเบิดควันมัดอยู่ด้วย กำลังปล่อยควันออกมาอยู่ตลอด จนข้างล่างกลายเป็นเหมือนกับสนามรบที่เต็มไปด้วยหมอกควัน และทำให้คนมองไม่ชัดว่าใครเป็นใคร

บุริศร์รีบปิดปากของนรมนเอาไว้ กลัวว่าเธอจะสำลักเข้า และในเวลานี้ โดรนลำหนึ่งก็บินมาทางพวกเขา ระเบิดควันบนโดรนลำนั้นเหมือนกับว่าจะมีประโยชน์ทำให้แสบตาอยู่ด้วย และบินมาหาพวกเขาโดยตรงเลย

“ระวัง!”

ระหว่างที่บุริศร์พูดไปก็เตะไปที่โดรนนั้นทีหนึ่ง เสียง“ปัง”ดังขึ้นทีหนึ่ง ระเบิดควันและแก๊สน้ำตาก็ระเบิดออก และก็ปกคลุมนรมนและบุริศร์ไว้ภายในโดยตรงเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย