บทที่ 291กมลจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด
น้ำหนักมือในการใช้มีดของธิดานั้นแรงมาก บุริศร์ขึ้นเครื่องบินได้ไม่นานก็สลบไป
มือของนรมนได้จับมือของบุริศร์ไว้ตลอด รับรู้ได้ถึงของร่างกายของเขาที่ค่อยๆลดระดับลงมา หัวใจดวงนี้มีความรู้สึกที่ทรมานอย่างอธิบายไม่ถูก
เขาได้ช่วยเธอไว้อีกครั้ง
ทำไมต้นถึงเป็นภาระให้เขาทุกครั้ง?
ถ้าฝีมือของตนเองสามารถดีขึ้นได้อีก ถ้าเธอสามารถระวังกว่านี้อีกหน่อย มันก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นใช่ไหม?
พูดอยู่ตลอดว่าจะอยู่ข้างกายบุริศร์ตลอด ต้องเทียบเคียงกับเขาให้ได้ แต่ทุกครั้งที่เจอเรื่องอันตราย ก็จะเป็นเขาที่ช่วยเธอไว้
ทำไมตนเองถึงเชื่อฟังขนาดนี้เนี่ย?
นรมนโทษตัวเองไม่หยุด
กิมจิอยากจะพูดอะไรสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร รีบขับเครื่องบินบินไปยังเมืองชลธี
กานต์สงบมากเป็นพิเศษ ถึงขนาดดูไม่เหมือนเด็กเลย
ดวงตาของเธอประกายไปด้วยน้ำตา มองคุณบุริศร์ด้วยตาไม่กะพริบ ถึงขั้นจับเสื้อของบุริศร์ไว้ ท่าทีที่กังวลแบบนั้นทำให้คนเห็นแล้วสงสารยิ่งนัก
นรมนยังจำคำพูดก่อนที่บุริศร์จะหลับตาลงได้
ทำเพื่อกมล
แต่เธอจะเพื่อลูกสาวของเธอแล้วไม่สนใจในความเป็นความตายของเขาได้ยังไงกัน?
ไม่นานเครื่องบินก็ขับไปยังโรงพยาบาลเขตทหาร ทางนี้มีคนจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วล่ะ
ตอนที่ธรณีเห็นนรมนในใจก็รู้สึกสับสนมาก คุณนายทวีทรัพย์ธาดากำลังจะพูดอะไรบางอย่างกับนรมน แต่นรมนไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้
เธอเข้าไปในโรงพยาบาลพร้อมกับปัญหาผู้ป่วย
เมื่อคิมเห็นสภาพของนรมน ก็ไปห้ามคุณนายทวีทรัพย์ธาดาไว้
“เรากลับไปก่อนเถอะ ในเวลานี้ เกรงว่าเธอจะไม่มีเวลาและไม่มีอารมณ์คุยอะไรกับพวกเราหรอกสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือคุณบุริศร์ต้องไม่เป็นอะไร เมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัยไม่เป็นอะไร ฉันก็สบายใจแล้ว”
ครั้งแรกคุณนายทวีทรัพย์ธาดาจะไม่อยากยอมสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีอะไรน่าพูด อีกอย่างคนอายุมากแล้ว ก็จะเหนื่อยง่ายมาก
ธรณีอยู่ตรงนี้ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น แต่กิมจิกลับมอบป้าโอกับธิดาให้กับธรณี
“คุณชายธรณี นายหญิงบ้านเราบอกแล้วว่า เมืองชลธีในตอนนี้คนของตระกูลโตเล็กยังไม่ถูกจัดการให้สิ้นซาก ครั้งนี้ต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ หวังว่าครั้งนี้จะไม่ปล่อยให้พวกเขาหนีไปอีกล่ะ”
“วางใจได้ครับ”
ความจริงธรณีอยากเฝ้าดูแลนรมนต่อ เขาเป็นห่วงว่าเรื่องใหญ่นรมนจะไม่สามารถจัดการได้ด้วยตนเอง แต่ตอนนี้เรื่องเกี่ยวกับป้าโอกับธิดา ธรณีก็ไม่กล้าให้คนอื่นไปจากการง่ายๆ
เขาพาป้าโอกับธิดากลับไปที่บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา
ภายในโรงพยาบาลสงบลงอีกครั้ง
นรมนเห็นว่าดวงไฟในห้องผ่าตัดสว่างแล้ว ใจก็ตื่นเต้นกังวลมาก
เลือดที่ต้องการก็นำมาส่งถึงแล้ว ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าบุริศร์ที่อยู่ด้านในเป็นยังไงบ้างแล้ว
นรมนเดินไปเดินมาไม่หยุด แต่ในใจก็ยังรู้สึกร้อนใจมาก
ภาพในสมองของเธอมีแต่ตอนที่บุริศร์บังมีดนั้นให้เธอ
เสียงดัง“ปั้ง” นรมนตีไปที่กำแพงทีนึง ทำกานต์ตกใจหมดเลย
“หม่ามี้?”
กานต์เรียกเธอทีนึงด้วยความไม่สบายใจ
นรมนดึงสติกลับมาได้
“แม่ไม่เป็นไร แค่ร้อนใจนิดหน่อย”
นรมนไม่ได้อยากพูดกับลูกชายแบบนี้ แต่เธอควบคุมไม่ได้จริงๆ ทั้งตัวเธอสั่นไปหมด
เวลาในการผ่าตัดนานมาก ไปด้านในสว่างตลอด
นรมนไม่รู้ว่าด้านในอยู่ในสถานการณ์ไหนแล้ว แต่ในใจนั้นมันเป็นอะไรที่เกินกว่าที่ตนจะรับได้
ในขณะนี้เอง เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
“แม่!”
นรมนเห็นว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของคุณนายโตเล็ก
เธอจึงได้รับสายโทรศัพท์ นึกว่าคุณนายโตเล็กกำลังเป็นห่วงและกังวลเรื่องของบุริศร์
คุณนายโตเล็กกลับกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า:“นรมน มีข่าวร้ายเรื่องนึงคนต้องรับให้ได้นะ”
“เชิญว่ามาเลยค่ะคุณแม่”
“จู่ๆกมลก็สลบไป สุขภาพร่างกายมีปัญหา เริ่มตัวร้อนไข้สูงไม่ลดสักที หมอบอกว่าทางที่ดีที่สุดคือต้องทำการผ่าตัดรักษาทันทีเลย คุณกับบุริศร์จะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะ?”
เป็นเพราะคุณนายโตเล็กได้แต่เป็นห่วงเรื่องกมล ก็เลยไม่รู้ว่าตอนนี้บุริศร์เกิดเรื่องแล้ว เมื่อได้ฟังคำพูดนี้แล้ว มือของนรมนเกือบจะถือโทรศัพท์ไม่อยู่
“กมลรอก่อนไม่ได้เหรอคะ?”
“รอไม่ได้แล้ว ไข้ของกมลสูงมากเลยตอนนี้ ขนาดให้น้ำเกลือไข้ยังไม่ลดเลย คุณกับบุริศร์ไม่ต้องสนใจเรื่องทางนั้นแล้ว รีบกลับมาเถอะ หมอบอกว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคือต้องผ่าตัดภายใน 2 ชั่วโมง ไม่งั้นเด็กอาจจะ……”
คุณนายโตเล็กยังพูดไม่จบ แต่นรมนก็รู้ ว่าหลายปีมานี้ ร่างกายของกมลไม่สามารถยื้อไว้อย่างนี้ได้อีกแล้ว
เอายังไงดี?
การผ่าตัดของบุริศร์ยังกำลังดำเนินการอยู่ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะออกมาแล้ว ก็ไม่สามารถทำการผ่าตัดให้กมลได้ทันทีหรอก
แบบนี้ควรทำยังไงดีล่ะ?
สามีกับลูกสาวเธอจะไม่สามารถปกป้องรักษาไว้ได้สักคนเดียวเลยเหรอ?
เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงการหัวเราะเยาะเย้ยของธิดา
เธอบอกว่าเธอจะไม่ยอมให้พวกเขาอยู่สบายสักคน จะทำให้พวกเขาทั้งครอบครัวไม่สามารถอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาอีก!
นรมนชักอยากจะไปฆ่าธิดาที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาซะเลย ถึงจะทำเช่นนั้นก็ยังทำให้ใจเธอสงบลงไม่ได้ แต่เธอรู้ว่า เวลานี้เธอทำอะไรไม่ได้เลยทั้งนั้น
เรื่องที่ทำให้คนรู้สึกจนปัญญามากที่สุดในโลกก็คือการที่คุณเห็นคนสำคัญในชีวิตของตนเองนอนอยู่ในห้องผ่าตัด แต่ตนกลับช่วยทำอะไรไม่ได้
ถ้าเป็นไปได้ นรมนอยากจะนำอวัยวะทุกส่วนของร่างกายมอบให้กับกมล เพราะนั่นมันเป็นชีวิตจิตใจของเธอเลยล่ะ!
แต่ว่าการจับคู่อวัยวะของเธอมันไม่ตรงกัน!
นรมนร้อนใจจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
เวลานี้จะไปหาไตที่ตรงกันกับกมลได้ที่ไหนล่ะ?
คุณนายโตเล็กบอกแล้ว คุณหมอบอกว่าทางที่ดีที่สุดคือต้องทำการผ่าตัดภายใน 2 ชั่วโมง
2 ชั่วโมง?
ถึงจะเป็น 2 วัน เธอก็ไม่สามารถคิดวิธีที่ดีสมบูรณ์แบบได้หรอก
ดวงตาของนรมนแดงหมดแล้ว
เธอโดนตีกลับไปที่หน้าประตูห้องผ่าตัด
ไฟในห้องผ่าตัดยังคงสว่าง ไม่รู้ว่าบุริศร์ที่อยู่ด้านในกำลังต่อสู้กับเทพเจ้าแห่งความตายหรือเปล่า ถ้าหากว่าตอนนี้เขายังมีสติอยู่ คาดว่าคงจะต้องสู้ตายนำไตของตนเองให้กับกมลโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
แต่ว่าเขาจะทำยังไงดี?
อีกอย่างเขาเสียเลือดมากแล้ว อาจจะทำการผ่าตัดไม่ได้แล้ว
นรมนรู้สึกใจตนเองแทบสลาย
พระเจ้าช่วย!
นี่ท่านจะเอาชีวิตคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของดิฉันไปจริงๆหรอ?
นรมนตะโกนพูดในใจ ร่างกายเซล้มลงกับพื้น
“หม่ามี้!หม่ามี้เป็นอะไร?”
กานต์เห็นนรมนสภาพแบบนี้ ตกใจจนรีบไปพยุงเธอ
นรมนเห็นสภาพลูกชายของตนแบบนี้แล้ว ก็น้ำตาคลอโดยไม่รู้ตัว
“กานต์ แม่เสียใจจังเลย”
เธอกอดร่างกายน้อยๆของกานต์ ถึงแม้จะไม่มีประโยชน์อะไรมาก แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกมีที่พึ่งพาในชั่วขณะ
ขณะนี้เธออยากร้องไห้มาก แต่การร้องไห้ไม่ได้ช่วยอะไร
ภาพต่างๆของกมลว่า 5 ปีมานี้ได้ผุดขึ้นมาในใจ ถ้าให้กานต์รู้ว่า พ่อของตนเองเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ กมลกำลังจะจากโลกไป เขาจะรู้สึกยังไง?
นรมนไม่กล้าพูด ยิ่งพูดไม่ได้ แต่เธอกลับไม่มีทางแก้
นี่ก็เป็นปัญหาที่ทำให้คนเป็นห่วงมากที่สุด
กานต์นึกว่านรมนกำลังเป็นห่วงบุริศร์ เขาตบไหล่นรมนเบาๆพร้อมกล่าวว่า:“หม่ามี้ ผมก็เสียใจเหมือนกัน แต่ว่าหม่ามี้สบายใจได้ แด๊ดดี้ต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆ เขาเก่งขนาดนั้น แข็งแกร่งขนาดนั้น ยังไงก็จะสู้ฝ่าฟันมาได้เพื่อพวกเราใช่ไหมล่ะครับ?”
“ใช่จ้ะ!”
นรมนพยักหน้า พูดด้วยเสียงแหบ
เขาจะบอกกานต์ยังไงดี ถึงแม้บุริศร์จะสามารถสู้มาได้ พวกเขาก็อาจจะต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดที่ทรมานกว่านี้
ฝั่งกมลไม่มีวิธีช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย
นรมนเจ็บปวดทรมานจนใจแทบสลาย ชักอยากจะกลับไปดูว่าตอนนี้กมลเป็นยังไงบ้างแล้ว แต่ว่าเธอจะไปไม่ได้ เธอไปไม่ได้!
ความสิ้นหวังที่ไร้ขอบเขตล้อมรอบนรมนอย่างแน่นหนา เหมือนกับเถาวัลย์ที่รัดแน่น รัดแน่นขึ้นอีก รัดจนเธอแทบหายใจไม่ออกแล้ว
ในเวลานี้เอง กิมจิก็เข้ามาจากด้านนอก แล้วรีบมาที่ด้านข้างของนรมน กล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “นายหญิง ด้านนอกมีคนมาหาคุณ ”
“ใคร?”
นรมนในตอนนี้ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น เธอแค่อยากเฝ้าอยู่ที่นี่ เฝ้าดูบุริศร์ อยู่กับความเจ็บปวดของเธอ รับรู้ความรู้สึกเจ็บนี้อยู่เพียงลำพัง
กิมจิกลับกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “คนที่มาเป็นผู้หญิง บอกว่าสามารถแก้ปัญหาในตอนนี้ของคุณนายได้ ”
“ปัญหาของฉันคืออะไร? ฉันก็แค่......"
คำพูดของนรมนยังพูดไม่จบ ทันใดที่เงยหน้าขึ้น
“เธอพูดว่าอะไร?”
“เธอบอกว่าเธอสามารถแก้ปัญหาปัจจุบันของนายหญิงได้”
กิมจิพูดในสิ่งที่พูดเมื่อกี้อีกรอบ
นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย
ความยากลำบากในปัจจุบันของเธอไม่มีอะไรมากไปกว่าบุริศร์และกมล
บุริศร์กำลังได้รับการช่วยเหลืออย่างฉุกเฉิน ไม่ว่ายังไง ก็ต้องได้ผลลัพธ์แน่นอน แต่ฝั่งกมลยังเป็นอะไรที่ไม่แน่ใจในผลลัพธ์ ถึงขนาดมีร่องรอยของความสิ้นหวังเล็กน้อย
หรือว่าคนที่มาจะมาเพื่อช่วยกมล?
ทันใดนั้นหัวใจของนรมนก็เอ่ยขึ้น รีบถามว่า “เป็นผู้หญิงแบบไหน?”
“อายุไม่มาก บอบบางและน่ารักดี บอกว่ารู้จักคุณ คุณแค่ออกไปก็รู้แล้ว”
กิมจิรู้สึกไม่ไว้ใจ แล้วพูดอีกว่า “นายหญิง ต้องการคนไปพร้อมกับคุณมั้ย?”
“ไม่เป็นไร ฉันออกไปเอง!”
นรมนสงบอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ให้คนอื่นดูออกได้ง่าย
กานต์กล่าวอย่างไม่ไว้ใจว่า “หม่ามี้ ให้ผมไปกับหม่ามี้ดีกว่าไหม”
“ลูกต้องอยู่ที่นี่และเฝ้าดูแด๊ดดี้ของลูก การผ่าตัดของแด๊ดดี้ของลูกยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่เลย หม่ามี้ออกแป๊บเดียว จะรีบกลับมา ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหม่ามี้หรอก ”
นรมนจับศีรษะของกานต์ รู้สึกว่าลูกชายฉลาดและเป็นเด็กดีเชื่อฟังมาก
กานต์ยังคงกังวลเล็กน้อย
กิมจิก็กล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ถ้าไม่งั้นให้ผมไปกับคุณมั้ยล่ะ?”
“ไม่ต้องแล้ว คนนี้เรียกหาฉันเป็นการเฉพาะ น่าจะไม่ต้องการจะให้คนอื่นเห็น ฉันไปคนเดียวก็พอ วางใจได้เลย ฉันไม่ไปไกลแน่นอน จะให้พวกคุณรู้ว่าฉันอยู่ตรงไหนแน่นอน ”
นรมนรู้ดี ถึงป้าโอและธิดาจะถูกจับ แต่ยังมีอำนาจอยู่ข้างนอก ตอนนี้เธอไม่ได้ปลอดภัยมากเท่าไหร่
แต่เพื่อสภาพร่างกายของกมลแล้ว ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรแล้ว
คนที่มาเป็นใครก็ไม่รู้ จะป้องกันยังไง?
แล้วไม่แน่ถ้าคนเขามาเจรจาเงื่อนไข มาช่วยเหลือพวกเขาล่ะ?
นรมนคิดแล้วคิดอีก
ถึงแม้ กิมจิ ยังอยากพูดอะไรอยู่ แต่ว่าสีหน้านรมนเฉียบขาดในตอนนี้ ก็เลยต้องยอม
“ คุณและ กานต์อยู่เฝ้าบุริศร์ไว้ดีๆ ถ้ามีเรื่องอะไรโทรหาฉันได้ตลอดเวลา”
นรมนมองดวงไฟในห้องผ่าตัดแล้วพูดกับกิมจิ
“โอเค ฉันรู้แล้ว ”
กิมจิ พยักหน้า
นรมนค่อยหันหลังกลับเล้วเดินไปข้างนอกของโรงพยาบาล
เธอไม่รู้ว่าคนที่มาหาเธอเป็นใคร แต่ในเมื่อสามารถมาหามาถึงที่นี่ได้ ก็นับว่ามีความสามารถอยู่เหมือนกัน
นรมนเตรียมพร้อมจิตใจแล้วเดินออกไปข้างนอก แต่กลับตะลึงในตอนที่เห็นคนที่มาโดยอัตโนมัติ
ทำไมถึงเป็นเธอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย