บทที่ 292 ฉันขอเอาคุณบุริศร์
นรมนนึกไม่ถึงเลยว่าจะเจอนลินที่นี่
ในเวลาที่นลินหันไปมองเธอ นรมนคิดว่าตัวเองมีภาพหลอน
“นลิน?”
นรมนเดินไปอย่างสงสัย
นลินไม่ค่อยเหมือนกัน กับลักษณะท่าทางเมื่อไม่นานมานี้
เธอสวมชุดยีนทั้งตัว สวมเสื้อผ้ามีรูโพรงขาดๆ ดูดื้อรั้นเป็นพิเศษ และดูมีแฟชั่นที่อ่อนเยาว์ดูสดใส
เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของนรมน เธอยิ้มอ่อนๆ
“ เจอกันอีกแล้วนะ”
“ทำไมคุณถึงมาที่นี่ ?”
นรมนพยายามระงับความรู้สึกและสงสัยของตัวเอง เอ่ยปากพูดเบาๆ
“ ต้องการเงินใช่ไหม ? หรือว่าต้องการความช่วยเหลืออะไร ?ตอนนี้ฉันน่าจะไม่มีเวลาช่วยคุณแล้ว ทางฝั่งนี้ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ เพราะฉะนั้นแล้ว……”
นรมนยังพูดไม่จบ นลินก็โบกมือแล้วพูดว่า:“อย่าทำเหมือนฉันเป็นขอทานได้ไหม?ฉันไม่ได้มาแบล็กเมล์คุณ”
ได้ยินนลินพูดคำพูดที่ไม่น่าฟังแบบนี้ นรมนไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงดีเป็นเวลาสักพัก
ความรู้สึกต่อนลินนั้น เนื่องจากความสัมพันธ์ของบุริศร์ทำให้ไม่ชอบหน้ากัน พอมาเจอกันตอนนี้ก็ทำให้รู้สึกอึดอัด
นรมนรู้สึกตลอดว่าชาตินี้ตัวเองคงจะไม่ได้เจอกับนลินอีกแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะได้เจอกันอีกครั้ง ในช่วงเวลาที่ห่างกันสั้นขนาดนี้
บุริศร์เคยพูดว่าให้เธอออกไปจากเมืองชลธี เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คิดจะทำแบบนี้ และบุริศร์ในตอนนี้ก็ดี เธอก็เถอะ ก็ล้วนไม่มีเวลาและความคิดที่จะไปสนใจว่านลิน จะไปที่ไหน
“คุณมาหาฉันมีธุระอะไร?”
นรมนถอนหายใจหนึ่งครั้ง แล้วพูดออกไปตรงๆ
แทนที่จะหมุนเวียนอยู่แบบนี้ ถามตรงๆเลยจะดีกว่า ระหว่างเธอและนลินไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันอีกแล้ว
นลินมองนรมน หยิบใบรับรองแพทย์ออกมาจากในกระเป๋าเสื้อแล้วเอาให้นรมน
“ดูอันนี้ก่อน ”
นรมนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เนื้อเรื่องนี้เหมือนฉากในละครที่เมียน้อยถือผลตรวจการตั้งครรภ์มาบังคับกดขี่ เพื่อให้ตนเองได้เลื่อนตำแหน่งขึ้น
นรมนรู้สึกตนเองมึนงงเล็กน้อย
ในเวลานี้ ในสมองตัวเองกลับมีความคิดแบบนี้ขึ้นมา ทำให้คนรู้สึกไม่รู้ว่าจะพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยจริงๆ
นรมนหยิบกระดาษใบนั้นมา
เป็นใบรับรองแพทย์แผ่นนึงจริงๆ แต่ใบรับรองแพทย์แผ่นนี้กลับไม่ใช่ใบยืนยันตรวจการตั้งครรภ์ กลับทำให้นรมนหรี่ตาลง
“นี่คือ……”
“ ใบรับรองแพทย์ของฉัน ฉันไปทำการตรวจจับคู่อวัยวะกับคุณหนูกมลที่โรงพยาบาลแล้ว โชคดีมาก ฉันกับเธอจับคู่ได้อย่างพอเหมาะพอดี หมอบอกว่าถ้าฉันเต็มใจละก็ สามารถทำการผ่าตัดเพื่อบริจาคได้ตลอดเวลา”
นลินกล่าวอย่างเบาๆ เหมือนกำลังพูดเรื่องของคนอื่นอยู่
นรมนไม่สามารถพูดได้ว่าอารมณ์ในตอนนี้เป็นยังไง เธอแค่รู้สึกว่าเธอเห็นแสงสว่างเล็กน้อยในตอนที่รู้สึกหมดหวัง
ถึงแม้แสงสว่างเล็กน้อยนี้อาจทำให้เธอต้องแลกด้วยอะไรมากมายแค่ไหนก็ตาม
“คุณรู้ทุกอย่างแล้วใช่ไหม ?”
นรมนมองนลินที่มั่นใจมาก อดไม่ได้ที่จะถาม
นลินพยักหน้า และไม่ได้ปิดบังอะไร
“ใช่ ฉันรู้ทั้งหมด ที่จริงในตอนที่เขามารับมีดแทนคุณฉันได้เห็นกับตา และในตอนที่พวกคุณขึ้นเครื่องฉันก็แอบตามขึ้นเครื่องบินด้วย”
ตอนที่พูดถึงเรื่องนี้ แววตานรมนก็จมลง
เธอสามารถขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของพวกเขาภายใต้สายตาของกิมจิได้ ต้องบอกว่ารายละเอียดของนลินทำให้นรมนต้องระมัดระวังเล็กน้อย
“คุณเป็นใครกันแน่ ?”
เมื่อเห็นว่านรมนระมัดระวังตัวขนาดนี้ นลินก็หัวเราะ แต่การหัวเราะนี้ดูเศร้าๆ
“ ฉันจะเป็นใครล่ะ?ถ้าฉันมีครอบครัวที่เหมือนคุณกับบุริศร์ คุณคิดว่าฉันจะถูกพวกค้ามนุษย์ไหม? ฉันเป็นแค่เด็กกำพร้า ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เด็กถูกสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ารับเลี้ยง หลังจากนั้นก็ถูกกลุ่มขโมยขโมยไป ถูกเลี้ยงให้เป็นขโมย เวลาออกมาข้างนอกก็จะถูกควบคุม จับตาเฝ้ามอง และยังต้องขโมยเงินให้ครบจำนวนนึงทุกวันถึงจะได้อยู่ดีกินอิ่ม วิธีของฉันเป็นแค่ทักษะการเอาตัวรอดเท่านั้น”
คำพูดของนลิน นรมนแค่ฟัง และไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร
คิดว่านลินเป็นผู้หญิงอ่อนแอมาโดยตลอด อายุน้อย ดังนั้นในตอนที่ช่วยเธอ เธอตามเธอมาด้วย นรมนไม่รู้สึกอะไร
แต่หลังจากที่ได้เห็นความสามารถในการเอาตัวรอดของนลินแล้ว นรมนก็รู้สึกว่าตัวเองจะใจดีและเมตตามากเกินไปละ
หลายคนไม่ได้เหมือนอย่างที่คุณเห็นว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้อีกต่อไป เขาก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้อีก ในสังคมนี้ หลายคนพยายามดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าเป็นใคร ก็ล้วนกำลังพยายาม
นรมนถอนหายใจหนึ่งครั้ง มองดูใบแสดงผลการทดสอบทางการแพทย์ในมือ ในใจสับสนมาก
ไม่มีอะไรที่จะต้องพูด ตอนนี้เธอต้องการคนแบบนลินที่จะบริจาคไตให้กมล เพราะสำหรับกมลแล้วมันเป็นโอกาสการมีชีวิตครั้งใหม่ และแผลของบุริศร์ในตอนนี้ยังต้องการการพักฟื้น ทำให้เขาสบายใจได้ก็คงจะดีที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...