แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 294

บทที่ 284 ยังไม่มีข้อกำหนดที่ไม่ตีผู้หญิง

นรมนไม่ได้คุยกับธรณีในสายโดยตรง แต่คุยกันในวีแชท

นลินเห็นนรมนส่งข้อความนี้ในโทรศัพท์อย่างไม่หยุด พูดอย่างเย็นชาว่า:“ดูท่าแล้วสามเดือนข้างหน้าคุณคงไม่เหงามากหรอก ถึงจะไม่มีบุริศร์อยู่ข้างๆ คุณก็มีคนเป็นห่วงเยอะแยะเลยนิ”

สายตาของนรมนเย็นชาในทันที เหมือนดาบคมที่เพิ่งทำออกมา ทิ่มแทงตรงไปที่นลิน

“ทางที่ดีคุณอย่าพูดถึงข้อตกลงสามเดือนตลอดเวลาอีก ถ้าไม่อย่างงั้น……”

“ไม่งั้นทำไม?คุณยังจะไม่ผ่าตัดให้ลูกสาวคุณหรอ ?”

แต่นลินมั่นใจมาก นรมนที่รู้สึกน่าหดหู่อยากโดดลงจากรถซะเลย

ใช่!

เธอทำไม่ได้!

งั้นต้องถูกนลินรังแกแบบนี้งั้นเหรอ?

นรมนก้มศีรษะด้วยความโกรธ พูดเรื่องในโรงพยาบาลกับธรณีอย่างต่อเนื่อง เพื่อหันเหความสนใจของตัวเอง ไม่งั้นเธอกลัวว่าถึงแม้ตัวเองจะไม่กระโดดลงรถ แต่ก็จะถีบนลินลงไปแทน

หลังจากที่ธรณีได้ยินคำพูดของนรมน ก็เป็นห่วงมาก

“ คุณอย่าเพิ่งรีบผ่าตัด ผมให้คนไปตรวจที่โรงพยาบาลหัวเฉียวก่อน ”

ดูวิธีการจัดการของธรณีแล้ว นรมนไม่เห็นด้วย

“คุณอา เราไม่มีเวลาที่จะไปตรวจหมอพวกนั้น และมันไม่สามารถตรวจชัดเจนในเวลาไม่นานได้ ฉันมีหมอคนนึง รู้อาการของกมลเป็นอย่างดี ฉันสามารถให้เขามาผ่าตัดได้ แต่ต้องการให้คุณประสานงานกับทางโรงพยาบาล ”

ก่อนที่จะส่งกมลกลับประเทศ นรมนก็ได้รับหมอจากศูนย์ดูแลผู้ป่วยพักฟื้นมาด้วย จะให้เขาเป็นคนผ่าตัดให้กมล

หมอคนนั้นเป็นคนของไมค์ ไมค์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของบุริศร์ จะต้องรับผิดชอบกับการผ่าตัดครั้งนี้เป็นอย่างดีแน่ๆ

แต่ว่านรมนคิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องเยอะขนาดนี้ ยังดีที่หมอคนนั้นยังอยู่ แต่เป็นไปไม่ได้ที่โรงพยาบาลหัวเฉียวจะให้หมอจากที่อื่นมาผ่าตัดง่ายขนาดนี้

ธรณีได้ยินนรมนพูดแบบนี้ กล่าวเบาๆว่า:“ เรื่องนี้ให้ผมจัดการเอง เดี๋ยวผมจะโทรหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลตอนนี้เลย หลังจากที่คุณถึงแล้วรอผมด้วย รอให้ผมมาถึงแล้วคุณค่อยทำอย่างอื่น ใช่แล้ว ทางฝั่งบุริศร์มีกำลังคนเพียงพอไหม ?ให้ผมส่งคนไปหน่อยไหม ?”

“ไม่ต้องละ ทางนั้นมีคนของฉันและกานต์อยู่ และฉันก็โทรไปให้พฤกษ์แล้ว พฤกษ์จะไปทันที คุณอาเราเจอกันที่โรงพยาบาลหัวเฉียวนะคะ”

นรมนและธรณีติดต่อกันเสร็จ ค่อยตัดสายออก หันไปค่อยเห็นนลินจ้องมองเธอนานมาก ก็ไม่รู้ว่ากำลังสำรวจอะไรเธออยู่

เห็นนรมนมองมาที่ตัวเอง นลินรีบหันไปมองบรรยากาศข้างนอก

ตลอดทางทั้งสองคนไม่คุยกันเลย ไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาลหัวเฉียวในเมือง

ธรณีจะมาในเวลาอีกสักพัก ตอนนี้นรมนเป็นห่วงสถานการณ์ของกมลมาก ก็เลยรีบลงจากรถ

นลินก็ไม่ได้กังวลอะไร ตามหลังนรมนเข้าโรงพยาบาล

“หยุด พวกคุณเป็นใคร ?”

นรมนยังไม่ได้เข้าไปห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาล ก็ถูกคนมาขวางไว้ข้างนอก ดูลักษณะรูปร่างของอีกฝ่ายแล้วเหมือนเป็นคนที่มีฐานะสูงของโรงพยาบาลนี้

นลินมองไปที่นรมนอย่างไม่แยแส ทำท่าทางเหมือนคุณจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ว่าถ้านรมนอยากจะเข้าไปช่วยกมลจริงๆ ก็ต้องตีสนิทกับที่นี่

นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาเย็นชาลง

“ลูกสาวของฉันพักอยู่ที่นี่ เดี๋ยวต้องผ่าตัด เชิญถอยไป”

“บัตรประชาชน”

อีกฝ่ายมองนรมนด้วยสีหน้าดูถูก เหมือนฐานะอย่างนรมนไม่มีทางที่จะเข้ามาได้

จะดูถูกไปหน่อยละ

แต่นรมนขี้เกียจจะไปสนใจคนคนนี้ ตอนที่เธอกำลังคิดจะเอาบัตรประชาชนออกมา ก็ได้ยินเสียงล้อที่คุ้นเคยดังขึ้นมา

“โรงพยาบาลหัวเฉียวเริ่มทำงานของตำรวจตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”

เสียงนี้ออกมา นรมนตะลึงในทันที แต่คนตรงหน้ากลับสะดุ้งขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงนี้

“คุณชายเจตต์”

เขาเรียกอย่างตัวสั่น

เจตต์มาจากไม่ไกล ตอนเห็นนรมน ก็เป่าปากเสียงนกหวีดทันที

“ ไม่เจอกันนานนะ คนสวย คิดถึงผมไหม ?”

เจตต์ยังคงทำท่าทางเอ้อระเหยแบบนี้ แต่กลับทำให้มุมปากของนรมนยกขึ้นมาทีละน้อย

“ทำไมคุณถึงอยู่นี่ ?”

“ผมก็อยากรู้ ว่าทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ ? บอกว่าไปอเมริกาแล้วไม่ใช่เหรอ?กลับมาก็ไม่ติดต่อผมเลย ทำไม ลืมผมแล้วจริงๆเหรอ ?หรือว่าคุณบุริศร์ไม่อนุญาต?”

เจตต์ยังคงพูดด้วยสารรูปแบบนั้น แต่ว่านรมนกลับไม่ค่อยถือสา

“เรื่องเยอะมาก ก็เลยดูแลไม่ทั่วถึง เดี๋ยวลูกสาวฉันต้องผ่าตัดแล้ว ฉันก็เลยรีบมา ยังไม่มีเวลาโทรไปให้คุณเลยไงล่ะ ?”

คำพูดของนรมนทำให้เจตต์รู้สึกตะลึง

“เดี๋ยวนะ ลูกสาวคุณ ?คุณมีแค่ลูกชายไม่ใช่เหรอ ?”

“ ที่ฉันคลอดคือฝาแฝด ลูกสาวฉันสุขภาพไม่ดีมาโดยตลอด เมื่อก่อนพักฟื้นที่สหรัฐอเมริกา”

ถึงตอนนี้แล้วนรมนก็ไม่อยากปิดบังเจตต์อีกแล้ว

เจตต์ฟังแล้ว รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ดูหลังของนรมนแล้ว พูดอย่างรู้สึกงงงวย:“บุริศร์ไม่มาเหรอ?ลูกคุณกำลังจะผ่าตัดแล้ว ไอ้ผู้ชายคนนั้นกลับไม่อยู่ ?”

“ตอนนี้เขาไม่สะดวกค่ะ ”

พูดถึงบุริศร์ นรมนยังคงปวดใจ

“ เรื่องอะไรจะสำคัญกว่าการผ่าตัดของลูกสาวตัวเอง ?ดูเหมือนว่าตอนนั้นคุณจะเลือกผิดนะ ถ้าคุณเลือกผม ถึงตอนนี้ผมจะนอนอัมพาตอยู่บนเตียงผมก็จะไม่มีทางที่จะไม่สนใจลูกสาวคุณ !”

เจตต์จะพูดนินทาอะไรไม่ดีเกี่ยวกับบุริศร์ทุกครั้งที่มีโอกาศ ใครให้เขามาแย่งไอดอลสาวที่ตัวเองชอบที่สุดไปล่ะ?

นลินมองเจตต์เหมือนจะฟังอะไรออกนิดหน่อย แต่พูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย:“นรมน คุณได้อยู่นะ !ผู้ชายหนึ่งคนสองคนล้วนยอมให้ช่วยเหลือคุณอย่างเต็มใจ ดูแล้วถึงคุณจะไม่มีบุริศร์ ก็คงจะไม่เหงาเกินไปเนาะ!”

เพิ่งพูดจบนรมนหันไปทันที เสียง“ เพียะ!”ครั้งนึง ก็ตบหน้านลินไปครั้งนึง

นลินไม่ทันตั้งตัว ทั้งตัวถูกตีจนซวนเซ เกือบล้มอยู่กับพื้น

“คุณ……”

“ อย่าคิดว่าคุณบริจาคไตให้ลูกสาวฉัน ฉันก็จะให้เกียรติคุณ นลิน พูดแล้ว ระหว่างฉันกับคุณก็แค่เป็นการธุรกรรมเท่านั้น ดังนั้นอย่าท้าทายความอดทนที่ฉันเหลืออยู่ ไม่งั้นฉันก็ไม่ถือสาที่จะฆ่าคุณให้ตาย”

นรมนพูดไม่ผิดเลย

ที่จริงแล้ว ในตอนที่นลินให้บุริศร์เอาเวลาสามเดือนมาอยู่กับเธอเป็นข้อตกลงในการธุรกรรม นรมนก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้นแล้ว

ตอนนี้นลินกลับยั่วยุเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

เธอคิดว่าเธอไม่กล้าทำอะไรเธอจริงๆเหรอ ?

นลินเห็นในดวงตาของนรมนเต็มไปด้วยสายตาอาฆาต ในเวลานี้เธอรู้สึกว่านรมนคิดอยากจะฆ่าเธอจริงๆ ก็รู้สึกตัวสั่นขึ้นมา แต่นึกถึงลูกสาวของนรมนยังต้องการความช่วยเหลือของเธออยู่ เธอค่อยรู้สึกโล่งใจหน่อย

“นรมน ทางที่ดีที่สุดคุณ……”

“ผมว่าไอ้คนนั้น ถ้าคุณไม่อยากตายก็หุบปากเถอะ ถึงผมคนนี้จะรักหยกถนอมบุปผา แต่ถ้าอยู่ตรงหน้าคนสวยของเรา ผมก็จะทำตัวเป็นวีรบุรุษเหมือนกัน และผมเจตต์ก็ไม่มีข้อกำหนดที่ไม่ตีผู้หญิงด้วย ”

เจตต์เหมือนจะดูความโกรธที่นรมนมีให้นลินออก แค่นรมนพูดออกคำสั่งมาคำนึง เขาไม่ถือสาที่จะเป็นนักฆ่า

นลินตกใจมากที่ได้ยินคำว่าเจตต์ ถึงเจตต์จะเป็นผู้ชายเจ้าชู้มาโดยตลอด แต่วิธีการลงมือของเจตต์คนนอกก็รู้ เธอนึกไม่ถึงเลยว่าจะเจอเจตต์ที่นี่

เมื่อเห็นนลินสงบลง นรมนก็ค่อยๆลดความโกรธ พูดกับเจตต์ว่า:“ในเมื่อคุณก็อยู่ที่นี่ งั้นก็ช่วยฉันหน่อย”

“ว่ามา”

“ในโรงพยาบาลนี้มีคนของป้าโอ ว่ากันว่าจะลงมือกับลูกสาวของฉัน ตอนนี้ฉันตรวจสอบไม่ทันแล้ว เรื่องนี้ก็ยกให้คุณละกันได้ไหม ?”

นรมนรู้ว่าเจตต์สามารถไว้ใจได้ ไม่ว่ามิตรภาพเมื่อก่อนเป็นยังไง เธอก็สามารถรู้สึกได้ว่าเจตต์ดีกับเธอจริงๆ

ถึงจะไม่ได้เป็นคู่รักกัน แต่ก็เป็นเพื่อนรักกันได้

เมื่อเจตต์ได้ยิน รีบพยักหน้าแล้วพูดว่า:“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้ยกให้ผม”

“คุณชายเจตต์ นี่มัน……”

เจตต์เพิ่งพูดจบ ทันใดนั้นคนเมื่อกี้ที่ห้ามนรมนก็เอ่ยปากพูด อยากห้ามเจตต์ไม่ให้ยุ่ง แต่ถูกเจตต์ถีบไปข้างๆ

“ตอนผมพูดถึงคิวคุณพูดแทรกเมื่อไหร่กัน ?ทำไม? คุณตั้งใจที่จะรอคนสวยของเราอยู่ที่นี่ใช่ไหม?ได้ สวิส ช่วงนี้กล้ามากเลยเนอะ แม้แต่คนที่ผมเจตต์อยากปกป้องก็กล้าลงมือใช่ไหม?”

ตอนที่เจตต์กำลังพูดก็เดินเข้าไปถีบสวิสอีกหลายที

สวิสไม่กล้าถีบคืนเลยสักนิด และไม่กล้าพูดอะไร เจตต์อยู่ที่เมืองชลธีเป็นคนที่ไร้ระเบียบ ถ้าโหดขึ้นมาจริงๆพ่อเขาก็ด่าเหมือนกัน อย่าพูดถึงคนอย่างพวกเขาเลย

แต่เจตต์มีคนรู้จักอยู่ที่เมืองหลวง ได้ยินว่าอีกฝ่ายอำนาจใหญ่มาก และปกป้องเจตต์มาก ดังนั้นอยู่ที่เมืองชลธีไม่มีคนกล้ามารุกรานเจตต์

เห็นสวิสนิ่งแล้ว เจตต์ถามอย่างกวนๆ:“ตอนนี้ยังไม่ให้คนสวยเราเข้าไปอีกเหรอ?”

“เข้าเข้าเข้า!”

ตอนนี้สวิสจะกล้าห้ามที่ไหน?

ถ้าเขากล้าพูดว่าไม่ให้นรมนเข้าไปอีก คาดว่าเจตต์คงจะถีบศีรษะเขาให้แตกได้เลยแหละ

เจตต์ยิ้มอย่างร้ายๆแล้วพูดว่า:“คนสวย คุณติดผมอีกครั้งนะ ”

“วันหลังเลี้ยงข้าวคุณ”

นรมนยิ้มอ่อนๆแล้วตบไหล่เขา แล้วลุกขึ้นเดินไปข้างใน

เขตต์รู้สึกเครียดเล็กน้อย

ทุกครั้งก็บอกว่าจะเลี้ยงข้าวเขา แต่เหมือนว่าไม่เคยได้กินเลยสักครั้ง หรือว่าในสายตาของนรมน เขาเป็นนักกินจุงั้นเหรอ ?

เจตต์จับจมูกของตัวเอง รู้สึกเครียดเล็กน้อย แต่กลับไม่พูดอะไร ตอนหันไปมองสวิสสายตาก็เปลี่ยนไปเลย

“ใครให้คุณมาห้ามนรมนที่นี่?”

คำนี้เจตต์ถามอย่างไม่หนักไม่เบา แต่กลับทำให้สวิสเหงื่อไหลไม่หยุด

เขายังอยากพูดอะไร เจตต์ลงมืออีกครั้ง ทันใดนั้นสวิสก็ร่ำไห้ขึ้นมา

นลินตกใจจนตัวสั่น และนรมนก็ได้ยินด้วย แต่ตอนนี้เธอไม่มีความคิดและไม่มีเวลาที่จะมาสนใจความเป็นความตายของสวิส ตอนนี้เธอแค่อยากรีบไปพบกมล

หลังจากที่โทรให้กิจจาแล้ว รู้ตำแหน่งห้องผู้ป่วยของกมล นรมนรีบเดินไปในทางของห้องผู้ป่วย ก้าวเดินอย่างยุ่งๆ

นลินตามอยู่ข้างหลังเธอ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็ไม่ได้ไปพูดกระตุ้นนรมนอีก

ในที่สุดทั้งสองคนก็ไปถึงห้องผู้ป่วยของกมลสักที นรมนรีบเปิดประตูห้องผู้ป่วยอย่างรีบร้อน แต่กลับตะลึงในตอนที่เปิดประตู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย