บทที่ 316 ฉันก็เป็นคนมีคุณธรรมจริยธรรมอยู่
“คมทิพย์!”
นรมนรีบวิ่งเข้าไป เห็นคมทิพย์นั่งหดอยู่ตรงมุมหนึ่งด้วยแววตาเหม่อลอย ตัวสั่นเทาราวกับเด็กที่ถูกทอดทิ้ง
แววตาของเธอไม่มีความแข็งแกร่งที่เคยเป็นอีกต่อไป สัมผัสได้ถึงความเปราะบางที่แตะต้องปุ้ปก็จะแตกสลาย
นรมนกอดเธอไว้แน่นๆ แต่กลับถูกเธอผลักออก ราวกับเข้าสู่พื้นที่ที่ปิดกั้น ไม่ฟัง ไม่มอง ไม่คิด ไม่ร้อง
เด็กที่อ่อนไหวคนนี้ อดกลั้นน้ำตา และความอ่อนแอเอาไว้
“ขอโทษ ฉันมาสายไป คมทิพย์ ฉันเอง ฉันคือนรมน!”
ในขณะที่นรมนจะเข้าใกล้คมทิพย์อีกครั้ง คมทิพย์อ้าปาก กัดไปที่แขนของนรมน
“คุณนาย!”
“อย่าเข้ามา! ฉันไม่เป็นอะไร!”
นรมนหยุดไม่ให้พฤกษ์เข้าหา ปล่อยให้คมทิพย์กัดตัวเอง เหมือนกับให้เธอระบายความกลัวเหล่านั้นออกมาให้หมด
กลิ่นเลือดจางๆลอยนวลอยู่ในปากของคมทิพย์ ทำให้เธอกลับมามีสติชั่วคราว
เธอรีบปล่อยนรมน
“รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม?”
เสียงของนรมนเบามาก เบาอย่างกับขนนก กลัวว่าจะทำให้คมทิพย์ตกใจ
เลือดที่ข้อมือของเธอกำลังไหล
คมทิพย์เห็นฉากนี้ “ฮือ”ร้องออกมา
“นรมน ฉันกลัว! ฉันโทรหาเธอตลอด แต่ไม่มีใครรับสาย ฉันคิดว่าเธอไม่เอาฉันแล้ว ฮือฮือ......ไอ่สารเลวนั้นทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียว ลมเย็นตอนกลางคืนพัดมา ทุกที่เต็มไปด้วยโถใส่อัฐิ ฉันกลัว! กลัวจะตายอยู่แล้ว!”
คมทิพย์ร้องไห้แทบใจจะขาด ถึงขั้นหายใจไม่ออก
นรมนลูบหลังเธออย่างปวดใจ แต่ก็ได้ยินไอ่สารเลวคนนั้นจากปากคมทิพย์
เธอหรี่ตาลง หลังจากที่ปล่อยให้คมทิพย์ระบายอารมณ์ออกมาให้หมดเธอก็พยุงเธอลุกจากพื้น
ขาทั้งคู่คมทิพย์แทบจะชาไปหมด ความปวดร้าวใจทำให้เธอแยกเขี้ยวยิงฟัน ไม่มีความแข็งแกร่งและความเด็ดขาดดั่งเช่นเคย
พฤกษ์รีบเข้ามาช่วย
คมทิพย์พอคุ้นหน้าพฤกษ์อยู่บ้าง เมื่อเห็นพฤกษ์เธอตะลึงไปสักพัก และถามเสียงต่ำว่า “บุริศร์ก็มาเหรอ? ”
“เปล่า เป็นเพราะเขาช่วยฉัน ตอนนี้ยังพักฟื้นที่โรงพยาบาลอยู่เลย”
นรมนพูดอย่างเรียบง่าย
คมทิพย์อึ้งไปนิดๆ ราวกับไม่ค่อยเชื่อว่าบุริศร์จะบังมีดอะไรเพื่อช่วยนรมน แต่ว่านรมนก็ไม่เคยโกหกเธอเช่นกัน
ดูท่าสำหรับบุริศร์แล้ว เธอคงต้องประเมินใหม่อีกครั้งแล้ว
คมทิพย์ไม่ได้พูดอะไรอีก ปล่อยให้นรมนพยุง เดินลงข้างล่างทีละก้าว
แต่บันไดของข้างล่างเยอะเกินไป เขาไม่สามารถเดินลงไปด้วยตัวเองได้
พฤกษ์ยังจำครั้งแรกที่เจอคมทิพย์ได้ คมทิพย์นั้นกล้าหาญแค่ไหน ทำให้เขารู้สึกว่าภายนอกของคมทิพย์ดูเหมือนผู้หญิง แต่จริงๆแล้วคือหญิงสาวที่แมนๆ
เมื่อเห็นความอ่อนแอของคมทิพย์อย่างไม่คาดคิดแบบนี้ พฤกษ์รู้สึกใจอ่อนขึ้นมา ความรู้สึกสงสารอยากทะนุถนอมที่เกิดขึ้นในใจเขาอย่างบอกไม่ถูก
เขาพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ “ผมแบกคุณนะ หลายวันที่ผ่านมานี้คุณนายไม่ได้พักผ่อนดีๆเลย คงแบกคุณไม่ไหว จากที่นี่ลงไปมีขั้นบันไดร้อยกว่าขั้น สภาพร่างกายของคุณในตอนนี้คงไม่ไหว”
คมทิพย์ไม่คิดว่าพฤกษ์จะพูดแบบนี้กะทันหัน ยังคงลังเลกับคำขอของพฤกษ์
นรมนดูตามสถานการณ์จริงแล้วพูดว่า “ให้พฤกษ์ช่วยเธอเถอะ พวกเราเดินด้วยตัวเองต่อไปไม่ไหวหรอก”
กำลังกายของเธอนั้นเธอรู้ดี ถ้ายังแบกคมทิพย์อีกคนหนึ่ง แม้จะมืดแล้วพวกเขาสามคนคงเดินลงจากสุสานที่นี่ไม่ได้
คมทิพย์พยักหน้า พูดเสียงเบา “รบกวนนายด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นผู้ชาย ก็ควรทำเรื่องที่ผู้ชายทำสิครับ”
พฤกษ์อมยิ้ม แล้วนั่งลงด้านหน้าของคมทิพย์
นี่เป็นครั้งแรกที่คมทิพย์ขี่หลังผู้ชายคนหนึ่ง รู้สึกเขินอายขึ้นมา แม้ว่าจะบอกกับตัวเองว่าแผนชั่วคราวก็ตาม แต่ใบหน้าก็แดงจนถึงคอ
พอนรมนเห็นฉากนี้รู้สึกขำขึ้นมา
ปกติคมทิพย์ที่ไม่สนใจผู้ชาย ก็มีสีหน้าเขินอายแบบนี้ด้วย ยากที่จะได้เห็นจริงๆ
คมทิพย์ขึ้นบนหลังพฤกษ์
จู่ๆพฤกษ์ก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ตัวเบาราวกับขนนก
“ปกติคุณไม่ทานข้าวเหรอครับ?”
พฤกษ์ถามอย่างเรียบเฉย
“คะ?”
คมทิพย์อึ้งไปสักพัก เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพฤกษ์ถามอะไร รีบส่ายหัวแล้วตอบ “ฉันร่างกายแข็งแรงดี ถ้านายรู้สึกว่าฉันหนักไป ปล่อยฉันลงได้นะ เดี๋ยวฉันค่อยๆเดิน”
“ผมหมายถึงคุณเบาเกินไปแล้ว เป็นผู้หญิงไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักหรอก สุขภาพร่างกายแข็งแรงสำคัญสุด”
“อืม”
คมทิพย์ไม่รู้จะพูดต่ออย่างไรทันที
นรมนมองพวกเขาอย่างขำๆ เดินตามหลังพวกเขาลงไปข้างล่าง
พฤกษ์แบกคมทิพย์ค่อยๆเดิน มองว่านรมนเดินตามมาหรือเปล่าเป็นพักๆ คนเดียวดูแลสองคน ก็ไม่ได้ลนลานรีบร้อนอะไรขนาดนั้น
เมื่อเดินถึงข้างล่าง รถของพฤกษ์ถูกลากไปแล้ว
พฤกษ์อึ้งไปสักพัก วางคมทิพย์ลงข้างๆ ถอดเสื้อกันหนาวของตัวเองออกวางบนพื้น พูดกับคมทิพย์ว่า “ที่นี่ค่อนข้างชื้น คุณเอาเสื้อกันหนาวผมรองแล้วนั่งสักพักนะ ผมไปรถ คาดว่าน่าจะถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่นี่ลากไป ตอนที่จอดรถรีบเกินไป ไม่ได้หาช่องจอดรถ”
พูดเสร็จ เขาก็พยักหน้ากับนรมน แล้วรีบเดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...