บทที่ 32 ความลับของบริษัทรั่วไหล
เพราะการเกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงจากการทดลองรถยนต์ของนักออกแบบแคทเธอรีทำให้ทุกคนของบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดเกิดความวุ่นวายสับสนอลหม่านขึ้น ยิ่งมีนักข่าวที่อยากจะได้ข่าวที่มีประโยชน์จากปากของพนักงานกรรมกร เหตุการณ์ก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้น
กานต์มองไปรอบๆห้องที่ตัวเองเข้ามา สีขาวดำสลับกัน แต่มีขนาดใหญ่มโหฬาร โต๊ะทำงานไม้ที่ดูเหมือนจะมีราคามาก
เขากระโดดขึ้นไปบนเก้าอี้ทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์ ถึงได้รู้ว่านี่คือห้องทำงานของบุริศร์
สวรรค์ช่วยเขาไว้ตามที่คิด
ห้องทำงานของบุริศร์ไม่เหมือนกับของคนอื่น คอมพิวเตอร์ของเขายังต้องกรอกรหัสผ่านเพื่อเปิด กานต์ย่นคิ้วชนกัน มือเล็กที่ปราดเปรียวกำลังดีดพิมพ์บนแป้นพิมพ์ สัญลักษณ์พิเศษปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เปลี่ยนเป็นไดร์ฟเวอร์อย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่นาทีรหัสเปิดเครื่องก็ถูกแก้ แต่รหัสผ่านนี้ทำให้คิ้วของกานต์ย่นมาชนกันอีกครั้ง
เป็นไปได้ยังไง?
เขาปิดเครื่องใหม่อีกครั้งอย่างไม่เชื่อ หลังจากที่เครื่องเปิด ก็ใช้รหัสผ่านเข้าระบบ เพียงชั่วครู่ก็ผ่านอย่างคาดไม่ถึง สีหน้ากานต์หมองลง แต่ก็ไม่หยุดเพียงเท่านั้น และใส่รหัสเปิดโฟลเดอร์ของบุริศร์ นำความลับสำคัญของบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดออกมา
กานต์อ่านไม่ออกว่าเอกสารอันไหนใช้ได้ อันไหนที่ใช้ไม่ได้ แต่มีเอกสารหนึ่งอย่างที่บุริศร์ทำเครื่องหมายสีแดงไว้ น่าจะค่อนข้างพิเศษหน่อยล่ะ
คิดแบบนี้แล้ว กานต์ก็นำเอกสารพวกนั้นออกมา ตัวเลขสถิติยาวปรากฏขึ้น เขาอ่านไม่ออก แต่ก็เลือกที่จะตัดเอาตัวเลขออกมา แล้วเผยแพร่ไปยังเว็บไซต์ธุรกิจ
เพียงชั่วขณะ ก็กระจายไปทั่ววงจรธุรกิจของเมืองชลธี
หลังจากที่กานต์จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็กระโดดลงมาจากเก้าอี้ ลบร่องรอยของตัวเอง แล้วออกจากห้องทำงานของบุริศร์ไปอย่างสบายใจ
นี่คือบทเรียนเล็กๆที่เขามอบให้กับบุริศร์ ถ้าหากต่อจากนี้ยังไม่อะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับมามี้อีก เขาก็จะทำให้บุริศร์ ไม่เป็นสุขต่อไป เขาต้องปกป้องมามี้อยู่แล้ว จะไม่ให้เธอต้องได้รับความเจ็บปวดใดๆอีกต่อไปอีก
ดวงตาของกานต์เปล่งประกายไปด้วยความแน่วแน่ ลงมาจากบันไดธรรมดา อาศัยช่วงคนเยอะกลับไปยังโรงเรียนอนุบาล
แต่ขณะที่บุริศร์กำลังตั้งหน้ารออยู่หน้าห้องผ่าตัดอย่างลนลานนั่งไม่ติดเก้าอี้ พฤกษ์ก็วิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว
“ประธานบุริศร์ครับ เกิดเรื่องแล้ว ข้อมูลตัวเลขของบริษัทที่เราต้องใช้ในโครงการประมูลของอาทิตย์หน้าถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ธุรกิจหมดแล้วครับ”
“อะไรนะ?”
บุริศร์สีหน้าเปลี่ยนในชั่วพริบตา
บริษัทของพวกเขาเตรียมการสำหรับโครงการการประมูลครั้งนี้มาเป็นเวลาหนึ่งปี ใช้เส้นสายทุกทางกว่าจะแย่งราคาประมูลมาได้ ทุกคนต่างทำงานอย่างหนักหามรุ่งหามค่ำกว่าจะได้ตัวเลขประมูลมา ทำไมอยู่ๆความลับถึงได้แตกออกมาอย่างกะทันหันแบบนี้นะ?
“ตรวจพบหรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?”
บุริศร์หน้ายุ่ง แต่ก็ยังมองไปที่ไฟห้องผ่าตัดที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหว
ถ้าเป็นปกติ เขาวิ่งกลับไปที่บริษัทนานแล้ว แต่ตอนนี้มีคนอยู่ในห้องผ่าตัดคือนรมน ซึ่งเป็นไปได้มากที่จะเป็นภรรยาที่เขาสูญเสียไปเมื่อห้าปีก่อน ไม่ว่ายังไงเขาก็ไปจากที่นี่ไม่ได้
พฤกษ์มองตามสายตาบุริศร์ไปที่ห้องผ่าตัด ถึงแม้ว่าจะแปลกใจที่ในความห่วงใยและเป็นกังวลของบุริศร์ที่มีต่อนรมน แต่ก็พูดด้วยเสียงต่ำ“แผนกเทคนิคตรวจพบแล้วครับ การรั่วไหลของตัวเลขสถิติถูกส่งออกไปจากห้องทำงานของท่านครับ ที่อยู่IPก็เด้วย แต่เลขาบอกว่าไม่มีคนเข้าไปในห้องทำงานท่านนะครับ”
“แล้วเป็นผีเหรอ?กลางวันแสกๆผีเหรอที่เข้าไปในห้องทำงานฉัน?บอกแผนกเทคนิค ถ้าหาไม่เจอว่าเป็นใคร ก็ไสหัวออกไป!”
บุริศร์อารมณ์เสียพอสมควร
รถคันนั้นคือรถที่เขาออกแบบเอง ยิ่งไปกว่านั้นก็ตรวจเช็คเป็นประจำ ทำไมแค่นรมนลองรถก็เกิดปัญหาขึ้นมา?
“ใช่แล้ว ปัญหาของรถตรวจเจอหรือยัง?”
“ผมให้คนตรวจสอบแล้วครับ แต่ว่ารถระเบิดไปแล้ว แทบจะไม่เหลือเบาะแสเงื่อนงำ อีกอย่างรถคันนั้นเพิ่งจะส่งไปตรวจเช็คเมื่อสองสามวันก่อน ตามหลักแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
ตรงนี้พฤกษ์เองก็สงสัยเหมือนกัน
รถส่วนตัวของบุริศร์ใครก็ไม่กล้าแตะ อีกทั้งทุกคนต่างก็รู้ว่าบุริศร์ชอบรถคันนี้ ทุกวันจะมีคนมาตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย จะเป็นไปได้ยังไงที่จะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้?แต่นรมนเองก็เป็นไปไม่ได้ที่สร้างข่าวใหญ่ให้ตัวเองขนาดนี้แน่
พฤกษ์ช่วยอะไรไม่ได้ แต่เขารับรู้ได้ถึงสายตาโกรธเยือกเย็นของบุริศร์ เขารู้สึกว่าสายเกินไป แต่ก็กุมหัวแล้วพูด“ประธานบุริศร์ครับ บริษัทHJกรู๊ปจำกัดที่อมเริกาได้รับข่าวแล้วนะครับ ประธานรเมศน่าจะมาถึงตอนบ่ายหรือเย็นนี้”
หัวคิ้วบุริศร์ชนเข้าหากันอีกครั้ง
“ไปตรวจเช็คเรื่องข้อมูลบริษัทรั่วก่อน อย่างน้อยอาจจะยังดึงข้อมูลกลับมาได้ แฮกเกอร์ที่บุกรุกเข้ามาในบริษัทเมื่อวันก่อนหาตัวได้หรือยัง?ตรวจสอบพร้อมกันไปเลยดีกว่า”
“ครับ”
พฤกษ์รีบออกอย่างเร็ว ทนรับกับความโมโหที่เยือกเย็นของบุริศร์ไม่ได้จริงๆ
บุริศร์มองไปทางห้องผ่าตัด ร้อนรนอยู่ไม่สุข
บริษัทเกิดความลับรั่วไหลแบบนี้ นรมนก็เกิดอุบัติเหตุกะทันหันแบบนี้ หรือว่าเรื่องทั้งหมดนี้ถูกวางแผนมาไว้อย่างดีแล้ว?หรือจะเป็นฝีมือของบริษัทคู่แข่ง?
เขาคิดอะไรไม่ออกเลยสักอย่าง ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น วางใจไว้อยู่แค่กับนรมนที่นี่
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความกังวลใจของบุริศร์มากขึ้นไปอีก
เขาเดินไปๆมาๆ สูญเสียการเป็นคนหยิ่งยโสสุขุมมาดนิ่งไปนานแล้ว
ในที่สุดสองชั่วโมงผ่านไป ไฟในห้องผ่าตัดก็ดับลง
บุริศร์วิ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็ว
“หมอ เธอเป็นยังไงบ้าง?”
บุริศร์ไม่รู้ตัวเลยว่าเสียงของตัวเองนั้นสั่นไปหมด
หมอรู้จักบุริศร์ คนทั้งเมืองชลธีต่างก็รู้ว่าบุริศร์เป็นคนยังไง ตอนนี้เป็นคนที่ถูกเขาสนใจและให้ความสำคัญ หมอก็ไม่กล้าที่จะเมินอยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...