บทที่ 356 เขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า
“ไปไหน?”
นรมนเกิดความประหลาดใจ
บุริศร์กลับไม่พูดอะไร พลางพาเธอขึ้นรถ ไม่นานนัก พวกเขาหยุดลงที่ฟิตเนสแห่งหนึ่ง
นรมนกระตุกมุมปาก
“ที่นี่เองเหรอที่ที่คุณอยากให้ฉันมา? หรือที่นี่เป็นที่พิเศษที่ฉันชอบเหรอ?”
เธอรู้สึกว่าการสื่อสารของพวกเขาคงจะมีปัญหาเป็นแน่
บุริศร์กลับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คนเรา เวลาอารมณ์ไม่ดีมักจะชอบทานทำให้เสียสุขภาพ ช้อปปิ้งผมไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว แต่วิธีที่ดีที่สุดคือมาเผาผลาญที่นี่ นึกถึงคนที่เธอเกลียดที่สุด ใช้กระสอบทรายเป็นตัวแทนของคนๆนั้นต่อยมันให้เละไปเลย ฟังดูดีกว่าใช่ไหมล่ะ?”
นรมนนิ่งไป เธอเห็นด้วยกับเขา แถมหนึ่งเดือนมานี้เธอกินไปทั่ว อ้วนไปหน่อยแล้วจริงๆ
“โอเค เอาตามที่คุณว่าแล้วกัน ไปเถอะ!”
นรมนเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม
บุริศร์เป็นลูกค้าประจำของที่นี่ จึงมีคนนำทางพวกเขาไปในห้อง
ที่นี่มีครบทุกอย่าง จนนรมนรู้สึกมหัศจรรย์
“ไม่นึกเลยว่าประธานโตเล็กชอบมาระบายอารมณ์ที่นี่ด้วย!”
“หากผมบอกว่าผมมาออกกำลังกาย คุณเชื่อไหม?”
“ไม่เชื่อ!”
นรมนส่ายหน้า
บุริศร์ไม่อธิบายใดๆ พร้อมยื่นชุดออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงให้กับเธอ
“ที่นี่มีชุดของผู้หญิงด้วยงั้นเหรอ?”
“อย่าคิดมาก ระหว่างการเดินทางมาที่นี่ผมให้พวกเขาออกไปซื้อโดยเฉพาะ”
บุริศร์เหลือบสายตาไปยังป้ายราคาด้านบนที่ยังติดอยู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง
เมื่อนรมนเห็นความน่ารักของเขา จึงก้าวไปข้างหน้าอย่างห้ามไม่ได้ พร้อมกับหอมแก้มของเขา
การหอมแก้มอันรัญจวนที่มาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้บุริศร์นิ่งแข็ง
นรมนถือโอกาสคว้าชุดมาจากมือเขา พร้อมหัวเราะ “ห้ามเข้ามานะ!”
เธอเอ่ย พร้อมปิดประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมล็อกกลอนเอาไว้ด้านใน
บุริศร์ถึงกับหุบรอยยิ้มลง
ผู้หญิงคนนี้มีจิตสำนึกในการเป็นภรรยาของเขาอยู่รึเปล่า?
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเธอยังคงรู้สึกว่าพวกเขากำลังจีบกันอยู่
แต่ความรู้สึกนี้ไม่เลวเลย!
บุริศร์ลูบไล้ใบหน้าของตัวเอง ดุจดั่งอุณหภูมิของนรมนยังคงสัมผัสเขาอยู่ ความรู้สึกยังอยู่ เขายืนยิ้มอยู่อย่างนั้นราวกับเด็กน้อย
นรมนหัวใจเต้นรัวราวกับสายฟ้า เธอรู้สึกตนเองเหมือนสาวแรกรุ่นที่เพิ่งอายุสิบแปด
จริงๆ เลย คุณแม่ลูกสองแล้วแท้ๆ ทำไมถึงได้ไร้ความอดทนต่อสิ่งยั่วยุกันนะ?
หรือว่าบุริศร์จะดีกับเธอจนเกินไป
ใบหน้าของนรมนร้อนผ่าว เธอจับจ้องไปยังหญิงสาวที่ใบหน้าแดงก่ำราวลูกท้อในกระจก เธอเผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
เธอใช้เวลาอันสั้นในการเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เห็นบุริศร์ที่เปลี่ยนเสื้อเสร็จสรรพอยู่แล้ว ทำให้นรมนตกใจเล็กน้อย
“คุณเปลี่ยนเสื้อที่ไหน?”
“ผู้ชายเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายนักหรอก ที่นี่เป็นห้องออกกำลังกายของผมโดยเฉพาะ หากไม่ได้รับอนุญาตจากผมคนนอกไม่สามารถเข้ามาได้”
บุริศร์ บอกเป็นนัยว่าเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นี่ตรงนี้ ในหัวของนรมนปรากฏภาพกล้ามเนื้อที่เป็นมัดๆ ของบุริศร์ ไปจนกล้ามเนื้อที่เป็นลูกๆ ลำคอของเธอบีบรัดแน่นขึ้นมา
“เอ่อฉันจะช่วยเอาเสื้อผ้าของคุณไปเก็บเอง”
“โอเค”
บุริศร์ ไม่รู้ว่าในหัวของภรรยาตัวน้อยของเขาปรากฏภาพสิ่งที่ไม่สุภาพ หากเขารู้ขึ้นมา คงได้ลงโทษเธอตรงนี้เป็นแน่
รู้สึกว่าเสื้อผ้าในมือร้อนผ่าว กระทั่งยังคงหลงเหลืออุณหภูมิของบุริศร์อยู่ เธอไม่เคยรู้สึกเลยว่าตนเป็นผู้หญิงที่ลามก มีเพียงแค่สมัยเรียนเท่านั้นที่จินตนาการภาพรูปลักษณะของบุริศร์
หลังจากที่แต่งงานกับเขา เธอขี้อายเสมอ ระแวดระวังอยู่ตลอด เพียงแค่บุริศร์พินิจเธอ เธอก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เธอไม่เคยเป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อน มีเพียงแค่ครั้งนี้ ที่เธอมีความรู้สึกวู่วามขึ้นมา อยากถอดถอนกล้ามเนื้อบนร่างของบุริศร์ออกมา หลังจากนั้น…..
เธอกลืนน้ำลายลงคอ เสมือนกับของเข้าตัว นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?
นรมนวางเสื้อผ้าของบุริศร์ลง รวมกับเสื้อผ้าของตน
ดูเหมาะสมกันนัก ก่อนที่จะหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า
ภายในกระจกเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก
นรมนจ้องมองเข้าไปในกระจก รู้สึกว่าตนเองกำลังจะบ้า
เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นตบหน้าตัวเองเบาๆ พร้อมกับได้ยินเสียงของบุริศร์ “นรมน เสร็จหรือยัง?”
“เรียบร้อยแล้ว จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ”
นรมนระงับตนเองให้กลับมาเป็นปกติ แต่ก็ยังคงรู้สึกร้อนผ่าวอยู่เช่นเคย
เมื่อบุริศร์เห็นใบหน้าที่แดงแปร๊ดของเธอ เขายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของเธอพร้อมเอ่ย “ไม่สบายหรือเปล่า?”
“เปล่านี่ แค่ที่นี่ร้อนไปหน่อยเท่านั้นเอง”
นรมนหาข้ออ้าง พร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัว
บุริศร์ ปรับอุณหภูมิห้อง ก่อนที่จะยื่นนวมให้กับเธอ เอ่ยเสียงแผ่ว “ที่ผมสอนไปครั้งก่อนยังจำได้ไหม?”
“หืม?”
นรมนมีปฏิกิริยาที่ช้าลง
บุริศร์ ยืนอยู่ข้างหลังเธอ เอื้อมมือจับแขนของเธอเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...