บทที่ 355 ช่วยสุภาพกับฉันหน่อยได้ไหม
คำพูดของบุริศร์ ทำให้ธรณีนิ่งอึ้งไป
“มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ?”
เขาหันไปทางนรมน ด้วยสายตาที่ปนไปด้วยความเจ็บปวด
นรมนเพียงแค่เอ่ยเสียงเรียบ “ดูท่าธรณีประตูบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาคงจะสูงเกินไป ฉันไม่เห็นว่าฉันจะสามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้เลย ถ้าเช่นนั้น สถานะในตระกูลก็จงยกให้ตุลยาเถอะ แม้ว่าตอนนี้ฉันจะไม่มีสถานะอะไรแล้ว แต่ฉันคิดว่าบุริศร์ยังคงสามารถทำบัตรประชาชนให้ฉันได้อยู่ใช่ไหม?”
พูดจบ นรมนหันหลังเดินออกไปทันที
“นรมน รอเดี๋ยว คุณนายอาจจะยังไม่รู้เรื่องนี้ เธอเข้ามาก่อน เราจะไปพูดกับคุณนายให้รู้เรื่อง”
ธรณีที่เห็นทีท่าเด็ดขาดของนรมน เขาถึงกับลุกลี้ลุกลนขึ้นมา
เธอยอมละทิ้งสถานะในตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ได้อย่างไรกัน?
บุริศร์กลับไม่ตื่นเต้นเหมือนกับธรณี เขาหันไปทางธรณีพร้อมเอ่ยเสียงเรียบ “คุณนายของตระกูลคุณคงจะแก่จนเลอะเลือนแล้วสินะ หากเธอไม่ต้องการหลานสาวคนนี้ ผมต้องการเธอ เพราะงั้นขอให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาช่วยดูหลานสาวบุญธรรมเอาไว้ให้ดี แล้วอย่าหาว่าผมไม่ไว้หน้าตระกูลทวีทรัพย์ธาดา”
จบประโยค บุริศร์วิ่งตามฝีเท้าของนรมนออกไป ไม่ว่าธรณีจะตะโกนเรียกอย่างไรก็ไร้ผล
ลูกไฟอัดอั้นที่กลางอกของนรมน ไม่สามารถเอาออกได้ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและทรมาน
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและตุลยาทำให้เธอรู้สึก ทรมานเสมือนกลืนกินแมลงวันเข้าไปอยู่แล้ว ตอนนี้คุณนายทวีทรัพย์ธาดากลับจะให้เธอเป็นหลานสาวบุญธรรมของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ให้เธอเข้าสู่ตระกูลพร้อมกันกับเธอ
ตุลยาเคยประกาศเอาไว้ ว่าสิ่งที่เธอมี เธอจะแย่งชิงเอาไปให้หมด ดูท่าเธอคงจะไม่ได้ล้อเล่นเสียแล้ว
ฝีเท้าของนรมนเร็วขึ้นเรื่อยๆ เร็วขึ้นเรื่อยๆ ในหัวตีกันให้วุ่น ในใจอึดอัดและทรมาน แต่กลับถูกอ้อมแขนอันแข็งแกร่งดึงรั้งเอาไว้ ก่อนที่รถคันหนึ่งจะแล่นผ่านหน้าเธอไป
“อยากตายรึไง!”
คนขับรถตะโกนด่าทอ ก่อนที่จะเหยียบคันเร่งเคลื่อนออกไปทันที
นรมนยังคงนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น พร้อมกับเสียงที่เป็นกังวลของบุริศร์ “ถ้าจะเสียชีวิตเพราะคนที่ไม่คุ้มค่า เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?”
อุณหภูมิที่อบอุ่นและคุ้นเคยทำให้นรมนได้สติกลับคืนมาอีกครั้ง
เธอแหงนหน้าขึ้น ประสานสายตาเข้ากับดวงตาของบุริศร์เข้าพอดี ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาจับใจ
“ฉันขอโทษ”
“ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมรู้ว่าเธอทรมาน ว่ามาเลย ผมต้องทำยังไงถึงจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นได้ แต่ก่อนพฤกษ์บอกกับผมว่า เมื่อผู้หญิงอารมณ์ไม่ดีต้องพาเธอไปช้อปปิ้ง พาเธอไปทานของอร่อย เธออยากทำสิ่งไหนกันล่ะ?”
ทีท่าเอ็นดูของบุริศร์ ความอึดอัดในใจของนรมนหายไปสิ้นในพริบตา
ต่อให้คนในตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ชอบเธอแล้วยังไงล่ะ?
ต่อให้คนทั้งโลกไม่ชอบเธอแล้วยังไงล่ะ?
เธอยังมีบุริศร์อยู่!
ผู้ชายคนนี้สามารถยกทั้งโลกมาไว้ตรงหน้าเธอ ทำให้เธอมีความสุขและยิ้มได้ ยังมีอะไรที่เธอไม่พอใจอยู่อีก?
นรมนหัวเราะออกมากะทันหัน เธอไม่สนใจผู้คนบนถนนที่สัญจรไปมา แขนทั้งสองข้างของเธอโอบรอบคอของบุริศร์เอาไว้ พร้อมเอ่ยเสียงแผ่ว “หากฉันชอบทั้งสองอย่างเลยล่ะ?”
ลมหายใจของเธอรดผ่านที่ต้นคอของเขา ทำให้เขารู้สึกคันยิก เสมือนกับถูกแมวน้อยข่วนเบาๆ
ในหนึ่งเดือนมานี้ บุริศร์โอบกอดนรมนให้หลับฝันอยู่เสมอ แต่สำหรับเขาแล้วนี่กลับเป็นการทรมานเขา บัดนี้ผู้หญิงคนนี้กลับเหมือนกับจิ้งจอกน้อย ที่หยอกล้อเขากลางถนน เธอไม่กลัวตนเองถูกไฟลวกเอาหรือไง?
บุริศร์รั้งเอวของหญิงสาวให้ประชิดตัวของตน ความรู้สึกที่คุ้นเคยบางอย่างทำให้นรมนหน้าแดงก่ำขึ้นมา
“คุณ ทำไมคุณถึง ลามกแบบนี้?”
“ผมลามกอย่างนั้นหรอ? ใครที่ให้ท่าผมริมถนนแบบนี้? อืม? คุณนายโตเล็ก? คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”
สายตาของบุริศร์ลึกซึ้ง ปะปนไปด้วยคลื่นฝน ทำให้นรมนหวาดหวั่นขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉันแค่เหนื่อยแล้ว ไม่ได้เหรอ?”
ตอนนี้ผู้หญิงขี้โกง ไม่ว่าเธอพูดอย่างไรก็จะทำให้รู้สึกว่ามีเหตุผลอยู่เสมอ
บุริศร์หัวเราะออกมา
“โอเค คุณจะพูดอะไรก็ได้ แต่ตอนนี้ผมตัดสินใจว่าจะพาคุณไปอีกที่หนึ่ง”
“ไปไหนเหรอ?”
ลมหายใจของบุริศร์ทำให้นรมนมึนมัว เมื่อบุริศร์เห็นพวงแก้มที่แดงก่ำของเธอ ทำให้เขาอยากลืนกินผู้หญิงตรงหน้า แต่ยังไงซะที่นี่ก็เป็นกลางถนน ขอเพียงแค่เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย บรรจงจุมพิตนรมนเบาๆ ก็จะสามารถได้ยินเสียงร้องดังขึ้นรอบกาย
นรมนถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมาว่าตนเองกำลังอยู่ที่ใด เธออายหน้าม้วนจนแทบจะมุดเข้าไปในตัวของบุริศร์ บุริศร์หัวเราะอยู่อย่างนั้น อกแกร่งของเขากระพือขึ้นลง ทำให้นรมนรู้สึกอายเข้าไปใหญ่
เธอทุบลงที่อกแกร่งของบุริศร์ แต่กลับถูกบุริศร์คว้าข้อมือเอาไว้ พร้อมเอ่ยเสียงแผ่ว “พอได้แล้ว ยังเล่นไม่พออีกเหรอ?”
นรมน รู้สึกว่าคนรอบข้างกำลังจับตามองพวกเขาอยู่ เธอกัดฟันแน่น จูงมือบุริศร์วิ่งฝ่าฝูงชน เสมือนกับมีคนวิ่งตามข้างหลังของพวกเขา
บุริศร์หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เขารู้สึกว่านรมนที่เป็นเช่นนี้ช่างน่ารักเหลือเกิน
ทั้งคู่วิ่งอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่นมมนต์จะหยุดฝีเท้าลงพร้อมหายใจหอบ พบว่าคนข้างกายค่อนข้างแปลกหน้า ถึงได้เอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยหอบ “ขายขี้หน้าชะมัด”
“ไม่มีอะไรน่าอายสักนิด ระหว่างสามีภรรยาทำอะไรที่ใกล้ชิดกันจะไปกลัวอะไร? แต่ว่านะคุณนายโตเล็กอันเป็นที่รัก เธอวิ่งออกมาแบบนี้ ผมรู้สึกว่ารถเราอยู่ไกลออกไปมากนะ”
คำกล่าวเตือนของบุริศร์ทำให้นรมนนิ่งไป เธอถึงได้รู้ตัวว่าตนได้ทำอะไรโง่ๆ ลงไป จนเธอแทบจะเป็นลม
“ทำไมคุณไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะ?”
“ผมคิดว่าคุณอยากออกกำลังกาย ก็เลยวิ่งเป็นเพื่อนคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...