แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 358

บทที่ 358 หนูเป็นลูกของแม่

“เธอจะซื้อของไปฝากแม่ผม?”

“ไม่สมควรงั้นเหรอ?”

บุริศร์รู้สึกว่าปฏิกิริยาของนรมนน่าสนใจ

ลูกสะใภ้อย่างเธอ ตอนแม่ยายป่วยเธอไม่ได้อยู่ดูแลข้างกาย แต่แม่ยายยังคงคอยนึกถึงสุขภาพเธออยู่เสมอ ยังไงซะเธอก็ต้องทำคะแนนบ้างใช่ไหมล่ะ?

บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงหัวเราะออกมาเท่านั้น “เอาตามที่เธอว่าแล้วกัน”

นรมนรู้สึกว่านัยน์ตาของบุริศร์เต็มไปด้วยความอ่อนโยน อ่อนโยนจนเธอแทบละลายไปตรงหน้า

“ดวงตาที่มีเสน่ห์ของคุณปล่อยพลังออกมาเก่งซะเหลือเกิน มิน่าเหล่าสาวๆ ถึงได้หลงคุณจน หัวปักหัวปัม”

บุริศร์ไร้คำพูดและลำบากใจ

“ผมไม่ได้สายตามหาเสน่ห์ แต่เป็นสายตาเด็ดเดี่ยวต่างหาก”

“เหมือนกันหมดนั่นแหละ”

นรมนไม่ใช้เหตุผล

บุริศร์ทำได้เพียงตามใจเธอ

“โอเคโอเค เธอว่ายังไงก็เป็นอย่างนั้น แต่นี่โทษผมไม่ได้นะ เพราะพันธุกรรมต่างหาก”

บุริศร์เอ่ยอย่างอิ่มเอมใจ

นรมนรู้สึกว่าบุริศร์หน้าหนาขึ้นทุกที

สายตาชิงชังของนรมน ทำให้บุริศร์เสียความมั่นใจ

ทั้งคู่สิบนิ้วประสานกันเดินเข้าไปยังห้องสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้เคียง

“คุณแม่ชอบอะไรเหรอ?”

นรมนรู้สึกว่าตนไม่ใช่ลูกสะใภ้ที่กตัญญูเท่าใดนัก

งานกันตั้งหลายปีแล้ว แต่เธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับแม่ยาย

บุริศร์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ขอเพียงเป็นของที่เธอซื้อ ท่านก็ชอบหมดแหละ”

“ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ”

นรมนไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เธอถึงได้ตื่นเต้นขึ้นมาซะอย่างนั้น เมื่อก่อนเธอไม่เคยจะตื่นเต้นเลยแม้สักครั้ง ก็แค่ซื้อของเองเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?

ความตื่นเต้นของเธออยู่ในสายตาของบุริศร์ “จริงๆ คุณแม่ไม่ขาดอะไรทั้งนั้น อะไรที่ที่บ้านยังไม่มีเหรอ? สิ่งที่เธอต้องการสื่อสารคือน้ำใจของเธอ หากจะบอกว่าขาดอะไรเธอขาดคุณพ่อของผม เธอจะหาให้กับคุณแม่ได้หรือเปล่าล่ะ?”

“คุณพูดอะไร ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษสักหน่อย”

นรมนรู้สึกว่าบุริศร์กำลังแกล้งตนอยู่ แต่ที่เขาพูดก็ไม่ผิดหรอก คุณนายโตเล็กหลายปีมานี้เธอไม่ขาดอะไรเลย

เป็นโจทย์ที่ยากนักสำหรับนรมน

“ทำยังไงดีฉันไม่รู้ว่าจะให้อะไรกับเธอยังไงก็ช่างเถอะ เขาไม่รู้สึกว่าเธอจำเป็นจะต้องให้อะไรกับเธอ มีแค่น้ำใจก็พอแล้ว แต่นรมนจะซื้อให้ได้ซะอย่างนั้น”

ทั้งคู่เดินจนทั่ว ท้ายที่สุดทั้งคู่หยุดลงที่อ่างล้างเท้า

นรมนรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่เลวเลย

“เขาว่ากันว่าใต้เท้าที่จุดสำคัญอยู่หลายจุด หากเป็นคนชราต้องสบายมากแน่ๆ ใช่ไหม?”

นรมนหันไปทางบุริศร์ ด้วยความหวังว่าบุริศร์จะให้คำแนะนำกับตน

บุริศร์พยักหน้ารับ “อืม ใช้ได้”

ทั้งคู่ซื้ออ่างล้างเท้า ก่อนที่จะกลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลโตเล็ก

คฤหาสน์ตระกูลโตเล็กเหมือนว่าต่างจากเมื่อก่อนพอสมควร บอดี้การ์ดเยอะมากกว่าเดิม แถมยังมีระเบียบเรียบร้อยอย่างมาก

นรมนกวาดสายตาจ้องมอง ไม่ได้พูดอะไร เธอเดินเข้าไปในตัวบ้านพร้อมกับบุริศร์

“คุณนาย คุณชายกับคุณนายใหญ่กลับมาแล้ว!”

ป้าหวานดีใจมากเมื่อเห็นพวกเขากลับมา เธอตะโกนบอกกับคุณนายโตเล็กเสียงดังลั่น

หลังจากที่นรมนและบุริศร์เดินเข้ามา ถึงได้เห็นว่าคุณนายโตเล็กนั่งอยู่บนรถเข็น ที่ใบหน้าดีอกดีใจเมื่อเห็นพวกเขา

“กลับมาแล้วเหรอ? กลับมาก็ดีแล้ว มามา! นั่งเร็ว!

บุริศร์และนรมนนิ่งอึ้งไป

“แม่ ขาของท่าน….,”

ช่วงนี้เขายุ่งมาก คอยดูแลนรมนอยู่ตลอด เขาคิดว่าตรินท์ดูแลคุณนายเป็นอย่างดี เขาไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง ตรินท์เองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องสุขภาพของคุณนายกับเขา เมื่อเห็นคุณนายที่นั่งอยู่บนรถเข็น ทำให้เขารู้สึกอัดอั้น

“ขอโทษ เป็นลูกเองที่ไม่กตัญญู”

บุริศร์คุกเข่าลงตรงหน้าคุณนายโตเล็ก

นรมนเองก็ตกใจมากเช่นเดียวกัน

เธอคิดว่าหากมียาถอนพิษ แม้ว่าคุณนายจะหายช้าไปหน่อย แต่ก็คงไม่เป็นอย่างที่เห็นตรงหน้านี้

คุณนายโตเล็กกลับเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เป็นอะไรหรอก เทียบกับฉันยังรักษาชีวิตเอาไว้ได้ สวรรค์ก็เมตตามากแล้ว หมอบอกว่าสารพิษอยู่ในร่างกายนานเกินไป แม้จะมียาแก้ แต่ยังไงก็ต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้ ขาคู่นี้ ก็แค่ไร้เรี่ยวแรง แต่ยังมีความรู้สึก ยังสามารถหายได้ บางทีอาจจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยก็ได้ พวกเธอไม่ต้องเสียใจไปหรอก ฉันอายุมากแล้ว ถึงยังไงก็แค่หาพยาบาลมาดูแลก็เท่านั้น ฉันมีชีวิตเพื่อพวกเธอ เพื่อตระกูลโตเล็กมาทั้งชีวิต คราวนี้ฉันสามารถแอบอู้ได้แล้วใช่ไหมล่ะ?”

คำพูดของคุณนายโตเล็ก ทำให้นรมนและบุริศร์เจ็บปวดใจ

“แม่ ฉันขอโทษ ฉันกับบุริศร์เราควรกลับมาเยี่ยมท่านตั้งนานแล้ว”

นรมนคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ หญิงชราที่ดู อิดโรย ตรงหน้าทำให้เธอเจ็บปวดใจอย่างมาก คุณนายตัวเล็กกุมมือเธอเอาไว้พร้อมเอ่ย “เธอเป็นแบบนี้แล้ว จะกลับมาเยี่ยมฉันยังไง? ฉันใกล้จะลงโลงแล้ว ยังไงก็ได้ แต่เธอยังสาว แต่ดูเธอสิ เพื่อคนแก่อย่างฉันถึงกับวู่วามเสี่ยงอันตรายทำไม? เป็นไงบ้าง? สุขภาพดีขึ้นแล้วใช่ไหม? ไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือยัง?”

“เรียบร้อยแล้ว คุณหมอบอกว่าทุกอย่างปกติดี วางใจเถอะ”

นรมนเหมือนกับเด็กน้อยคนหนึ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณนายโตเล็ก

เมื่อบุริศร์เห็นทีท่าของทั้งคู่ เขาจึงเอ่ยเสียงต่ำ “แม่ครับ นรมนซื้ออ่างล้างเท้ามาให้ ผมจะช่วยแม่ลองเอง”

“ฉันเองดีกว่า”

นรมนเอ่ยพร้อมกับเดินไปเตรียมน้ำ แต่กลับถูกบุริศร์ห้ามเอาไว้เสียก่อน “เธอเพิ่งออกไฟ นั่งลงอยู่คุยเป็นเพื่อนแม่เถอะ ผมจะจัดการเอง”

เขาเอ่ยพลางถอดเสื้อคลุมออก พร้อมพับแขนเสื้อขึ้น ก่อนที่จะเดินไปที่ห้องน้ำ

คุณนายโตเล็กจับจ้องที่แผ่นหลังของบุริศร์ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เด็กคนนี้ช่างกตัญญูเสียเหลือเกิน ชาตินี้ฉันมีลูกๆ อย่างพวกเธอ ฉันก็พอใจแล้ว”

“หนูไม่ดีเอง หนูควรจะบอกให้เขากลับมาเยี่ยมท่านตั้งนานแล้ว”

นรมนรู้สึกว่าแม่ยายของเธอคนนี้ช่างดีงามเสียเหลือเกิน

โดยทั่วไป ไม่แน่อาจจะโกรธกระฟัดกระเฟียดเพราะลูกชายไม่ได้กลับบ้านนับเดือน แต่คุณนายโตเล็กเธอเปล่า

คุณนายโตเล็กตบหลังมือเธออย่างเอ็นดู “ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีถึงจะถูก ฉันได้ข่าวว่าบุริศร์จะพาเธอและลูกๆ ออกไปข้างนอกงั้นเหรอ”

“อืม เรามีการตัดสินใจเช่นนั้น แต่ฉันไม่อยากออกไปแล้วฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลแม่ จนกว่าคุณแม่จะหายขาด”

เมื่อเห็นสภาพของคุณนายโตเล็กในตอนนี้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่นรมนจะออกเดินทางไปกับบุริศร์ และลูกๆ

คุณนายโตเล็กกลับหัวเราะออกมา “ไม่ต้องสนใจฉันเหรอ ที่บ้านยังมีตรินท์อยู่ หลายปีมานี้ สิ่งที่ตระกูลโตเล็กติดค้างเธอ และลูกๆ มากมายเหลือเกิน ตอนนี้กมลเองก็หายดีแล้ว ให้บุริศร์พาพวกเธอไปเที่ยวเถอะ โลกอันกว้างใหญ่ ตระการตา จะทำให้เธอและลูกๆ มีความสุขขึ้นมาได้ แก่ชราอย่างฉัน วุ่นวายมาทั้งชีวิต กระทั่งแก่เฒ่า ไม่อยากไปไหนทั้งนั้น แค่อยากคอยเฝัาตระกูลโตเล็ก คอยปกป้องสิ่งที่พ่อของเธอได้สร้างเอาไว้ หนุ่มสาวอย่างพวกเธอมีเส้นทางของตัวเอง อย่าถูกฉันรั้งเอาไว้เลย หืม?”

“แต่ท่านเป็นแบบนี้ แล้วยังออกไปอีก แบบนั้นจะอกตัญญูเกินไป”

ยิ่งคุณนายโตเล็กพูดแบบนั้น ยิ่งทำให้นรมนรู้สึกเสียใจ

“ยัยเด็กโง่ ทำไมเธอถึงเหมือนกับเด็กน้อยที่ติดแม่เลยล่ะ? หากใครไม่รู้ คงคิดว่าเธอเป็นลูกสาวของฉัน”

แม้คุณนายโตเล็กจะพูดไปอย่างนั้น แต่ในดวงตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความปลื้มใจ

นรมนโผเข้าที่อ้อมกอดของเธอ พร้อมน้ำตาที่เอ่อไหล “หนูก็เป็นลูกแม่ไง”

“โอเคโอเค หนูเป็นลูกแม่ อย่าร้อง เดี๋ยวบุริศร์กลับมา จะเข้าใจผิดคิดว่าฉันรังแกเธอเอาได้”

คุณนายโตเล็กเอ่ยพร้อมกับไอค่อกแค่ก

นรมนลุกออกไปรินน้ำให้กับเธอทันที

บุริศร์ออกมาพร้อมกับน้ำล้างเท้า เขาคุกเข่าลงล้างเท้าให้กับคุณนายโตเล็ก

เขาพบว่าตัวเขาเองไม่ได้ใกล้ชิดกับคุณนายโตเล็กมาเนิ่นนานเหลือเกิน

ตอนเด็กๆ เพราะคุณนายโตเล็กไม่มีเวลา เมื่อโตขึ้นเขาเองไม่มีเวลาต้องเข้าไปทำงานที่บริษัท หลังเลิกงานก็ยุ่งมาก จนเกือบทำภรรยาหาย ตอนนี้แม้แต่แม่ของเขาก็ทำหายไปด้วย

ทำให้บุริศร์รู้สึกผิด

“แม่ คนที่ห้างบอกว่าอ่างนี่มีประโยชน์มาก สามารถกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดที่ฝ่าเท้าได้ หากแม่ว่างก็แช่บ่อยๆ นะ”

“ได้!”

ตอนนี้ไม่ว่าบุริศร์และนรมนจะพูดอะไร คุณนายโตเล็กก็ตอบตกลงทั้งหมด

นรมนค้นพบว่าตอนนี้เธอชราแล้วจริงๆ ความโดดเดี่ยวและเดียวดายปกคลุมโดยรอบคุณนายโตเล็ก ทำให้เธอดูอิดโรย

“แม่ อยากทานอะไร? หนูจะเข้าครัวทำให้เอง”

นรมนเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นยืน แต่กลับถูกคุณนายโตเล็กรั้งเอาไว้

“ในครัวมีป้าหวานอยู่ เธอกำลังจะแย่งงานป้าหวานเหรอ? อีกอย่าง เธอเพิ่งออกไฟ อย่ามาเรื่องใส่ตัวเลย อยู่คุยเป็นเพื่อนคนแก่อย่างฉันที่นี่แหละ”

คุณนายโตเล็กหยิบการ์ดใบหนึ่งออกมายื่นให้กับนรมน

“แม้ว่าเธอกับบุริศร์? ไม่ขาดแคลนเงินทอง แต่ในฐานะแม่ยาย เธอเองก็อยู่ไฟมานับเดือน ยังไงฉันก็ต้องทำอะไรสักอย่าง เงินไม่มากนักหรอก เธออย่าปฏิเสธ แม่ให้ก็รับเอาไว้ คิดซะว่าเป็นเงินเก็บของเธอเอง วันหลังบุริศร์รังแกเธอขึ้นมา อย่างน้อยเธอก็เงินมีเอาไว้ใช้จ่ายใช่ไหมล่ะ?”

คุณนายโตเล็กเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แต่กลับทำให้รอบดวงตาของนรมนเปียกชื้น

“แม่คะ…..”

“เธอเรียกฉันว่าแม่ ก็จงเชื่อฟังฉัน เก็บเอาไว้”

นรมนเหลือบไปทางบุริศร์ เมื่อเห็นว่าบุริศร์พยักหน้ารีบ ถึงได้รีบมาไว้ “ขอบคุณค่ะแม่”

“เด็กดี!”

หลังจากนั้นทั้งสามพูดคุยกันอยู่อีกสักพัก บุริศร์เองก็ล้างเท้าให้คุณนายโตเล็กเสร็จเรียบร้อยพอดี เมื่อทุกอย่างเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว ตรินท์เองก็กลับมาพอดี

ครั้งก่อนที่ตัวเองเหยียบเส้นความตายเธอจำผิดคนคิดว่าตรินท์เป็นบุริศร์ คราวหลังก็ไม่มีโอกาสได้เจอบุริศร์อีกแล้ว เพราะงั้นเมื่อเธอได้พบกับตรินท์จึงนิ่งอึ้งไป

ตรินท์และบุริศร์หน้าตาเหมือนกันยังกับแกะ

“สวัสดีครับพี่สะใภ้”

ตรินท์ฉีกยิ้มหวาน เผยให้เห็นลักยิ้มทั้งสองข้าง ดูแล้วมีความ ทะเล้นมากกว่าบุริศร์ ไม่ค่อยเข้มงวดนัก

“สวัสดี ตรินท์”

นรมนลังเลเล็กน้อย ยังไงซะคนที่หน้านาเหมือนกันสามีตนเองยังกับแกะอยู่ตรงหน้า ทำให้เธอรู้สึกเกรงนิดหน่อย

“ไปทางนู้นไป ไม่เห็นหรือไงว่าพี่สะใภ้นายเกรงหมดแล้ว?”

บุริศร์แตะตรินท์เบาๆ

ตรินท์ตะโกนเรียกหาคุณนายโตเล็กด้วยทีท่าน้อยใจ “แม่ ดูพี่ชายผมสิ เขามีแต่จะรังเกียจผม บริษัทใหญ่โตโยนให้ผมคนเดียว ตอนนี้ผมแค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็เกะกะลูกตาเขาแล้ว”

“หากไม่อยากเกะกะลูกตาพี่ชายนาย ก็รีบหาภรรยาเร็วเข้า ใช่สิ กิจจาล่ะ? แกเป็นคนพาเขาไปไม่ใช่เหรอ?”

ประโยคของคุณนายโตเล็กทำให้ตรินท์สะดุ้งโหยง พร้อมอุทานออกมาเสียงดัง “ผมลืมเขาไปเลย คงถูกผมล็อกเอาไว้ที่ห้องทำงาน” จบคำ เขาวิ่งออกไปทางด้านนอก นรมนเองกระตุกริมฝีปากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หมอนี่ดูแลบริษัทได้แน่เหรอ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย