แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 359

บทที่ 359 ภรรยาถูกรังแกนายยังนั่งอยู่ได้อีกหรือ

คุณนายโตเล็กเองก็ไร้คำพูด

บุริศร์คิ้วผูกติดกันเป็นโบ “ทำไมเขาถึงพากิจจาไปที่บริษัทซะได้?”

“กิจจาบอกว่าต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับตรินท์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จึงตามตรินท์เข้าไปที่บริษัทด้วย”

คุณนายโตเล็กเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย

เพราะตรินท์ยังไม่กลับมา พวกเขาทานข้าวก่อนคงไม่ดีนัก จึงได้นั่งคุยเล่นกันอยู่ที่โซฟา

นรมนวิ่งไปวิ่งมาตลอดช่วงเช้า เธอรู้สึกอ่อนล้าขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ยังคงฝืนทนเอาไว้ กลับถูกบุริศร์จับได้

“จะขึ้นไปพักผ่อนหน่อยไหม?”

เขาเอ่ยขึ้นกะทันหัน ทำไมคุณนายโตเล็กนิ่งไป ในตอนนี้เองเธอถึงได้สังเกตเห็นสีหน้าที่อิดโรยของนรมน

“ดูฉันสิ มัวแต่ดีใจ ให้เธออยู่เป็นเพื่อนฉัน จนลืมไปเลยว่าเธอเพิ่งออกไฟ ต้องการพักผ่อน เร็วเข้า บุริศร์พานรมนขึ้นไปพักผ่อน ตรินท์กลับมาเมื่อไหร่ ฉันจะให้คนขึ้นไปเรียกเอง”

คุณนายโตเล็กสั่งอย่างเร่งรีบ

“ไม่ต้องหรอกค่ะแม่ ไม่เป็นไร”

นรมนปฏิเสธ แต่กลับถูกบุริศร์อุ้มขึ้น มุ่งไปทางห้องนอนของเขา

“บุริศร์!”

นรมนรู้สึกตนเองไม่มีหน้าที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป

ต่อหน้าคุณนายโตเล็กแบบนี้ เขาปกป้องภรรยาแบบนี้จะดีเหรอ?

บุริศร์กลับทำเหมือนไม่ได้ยิน เขาอุ้มนรมนเดินเพียงสองสามก้าวก็ถึงห้องนอนแล้ว ก่อนที่จะวางเธอลงบนเตียง

“พักผ่อนเถอะ เธอเหนื่อยมาตลอดช่วงเช้า แถมยังเสียพลังงานไปมากที่ฟิตเนส เธอจะทนอยู่ได้ยังไง? ตรินท์จากนี่ไปที่บริษัท จากบริษัทกลับมานี่ ต้องใช้เวลาอยู่แล้ว ต่อให้เธอแค่พักสายตาก็ยังดี”

บุริศร์โทษตัวเองอยู่บ้างเล็กน้อย หากเขารู้ว่าตอนเที่ยงจะกลับบ้านตระกูลโตเล็ก ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางพาเธอไปที่ฟิตเนสเสียพลังงานเยอะปานนี้ บัดนี้เมื่อได้เห็นสภาพที่อิดโรยของเธอ ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจ

นรมนต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นสายตาที่ปนความเจ็บช้ำของบุริศร์ เธอจึงกลืนคำพูดทั้งหมดกลับสู่ลำคอดั่งเดิม

ผู้ชายคนนี้รักและทะนุถนอมเธอจากใจ แล้วเธอจะทำให้เขาเป็นห่วงตนได้อย่างไร?

“ฉันพักผ่อนเดี๋ยวเดียวก็ดีขึ้น คุณลงไปอยู่เป็นเพื่อนคุณนายโตเล็กเถอะ”

“โอเค”

บุริศร์รู้ว่านรมนเป็นห่วงคุณนายโตเล็ก จึงตอบตกลงไป

เมื่อได้ยินคำตอบของบุริศร์ นรมนถึงได้หลับตาลง บุริศร์

ดึงผ้าห่มขึ้นห่มกายให้กับเธอ เมื่อเห็นว่านรมนหลับไปแล้วคิ้วทั้งสองข้างของบุริศร์ขมวดเข้าหากัน บุริศร์ยืนดูอยู่สักพักก่อนที่จะลงไปยังชั้นล่าง

คุณนายโตเล็กกำลังนั่งวิจัยอ่างล้างเท้าอยู่ ทำให้บุริศร์รู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย

“แม่ ทำไมถึงได้นั่งวิจัยไอ้นี่อยู่?”

“นี่มันใช้ได้เลยนะ”

คุณนายตัวเล็กที่นั่งอยู่บนรถเข็นหัวเราะออกมา ดูท่าของขวัญชิ้นนี้คุณนายโตเล็กค่อนข้างถูกใจเป็นพิเศษ

“นรมนเธอเป็นคนซื้อ ไม่รู้ว่าท่านถูกใจหรือเปล่า แต่เห็นว่าดีต่อสุขภาพ เธอก็เลยซื้อมา”

บุริศร์ไม่วายพูดให้กับนรมน

คุณนายโตเล็กตอบโต้ด้วยรอยยิ้ม “นรมนเป็นลูกสะใภ้ที่ดีแกไม่จำเป็นต้องช่วยเธอพูดหรอก ยังไงก็ดีกว่าลูกชายยังแกเยอะเลย”

“แม่…..”

บุริศร์รู้สึกผิดขึ้นมา

ช่วงเวลากว่าหนึ่งเดือนนี้บุริศร์ไม่คิดเลยว่าคุณนายโตเล็กจะมีสภาพเช่นนี้

“ผมจะไปหาผู้เชี่ยวชาญมารักษาขาของท่าน”

“ไม่ต้องยุ่งยากหรอก หากสวรรค์จะให้ฉันยืนขึ้น ยังไงสักวันฉันก็ต้องลุกขึ้นยืน หากสวรรค์รู้สึกว่าฉันเหนื่อยเกินไป ต้องการให้ฉันใช้ชีวิตบนรถเข็นนี่ในอีกครึ่งชีวิตที่เหลือ ฉันก็จะยอมรับมัน แต่เป็นนรมนต่างหาก ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นอะไรกันแน่? เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ทำไมพิธีรับเข้าตระกูลถึงยังไม่ถูกจัดขึ้นอีก?”

ประโยชน์ของคุณนายโตเล็กทำให้บุริศร์ขมวดคิ้วเป็นปม

“เกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย”

“เรื่องอะไร?”

คุณนายโตเล็กเป็นกังวลขึ้นมาทันที

บุริศร์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับตุลยาและคุณนายทวีทรัพย์ธาดาให้กับคุณนายโตเล็กฟัง

“นังแก่ทวีทรัพย์ธาดา สมองมีปัญหาหรือไง? หลานในสายเลือดไม่เอา กลับจะเอาคนนอกให้ได้? แกไปบอกตระกูลทวีทรัพย์ธาดา หากพวกเขาไม่ต้องการนรมน ตระกูลโตเล็กของเราต้องการ วันหลังต่อให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาต้องการเราก็จะไม่มีทางให้”

คุณนายโตเล็กเปรียบเสมือนกับเด็กน้อยที่เอาแต่ใจ

เห็นหน้าคุณนายโตเล็กชอบนรมนจริงๆ บุริศร์จึงเผยรอยยิ้มออกมา “อืม ผมเองก็พูดไปแบบนั้น ผมบอกเขาเรียบร้อยแล้ว”

“ดีมาก! สะใภ้ของตระกูลโตเล็กจะถูกรังแกง่ายๆ ไม่ได้ นังตุลยานั่น คือคนที่ทำร้ายนรมนที่อเมริกาใช่ไหม?”

“ใช่”

“แล้วแกจะปล่อยให้ภรรยาตนเองถูกรังแกต่อหน้าต่อตาอย่างงั้นหรอ?”

คุณนายโตเล็กเบิกตากว้างขึ้น สายตาที่เธอจับจ้องบุริศร์ทำให้เขาไม่อาจเผชิญหน้าอยู่ได้

“แม่ นรมนยังเห็นแก่ความสัมพันธ์ของตุลยาและหัวหน้าคิมครับ”

“แล้วแกล่ะ? แกกับนังตุลยาเป็นอะไรต่อกัน? ภรรยาของแกถูกรังแกจนถึงขนาดนี้ แต่แกยังนั่งอยู่เฉยได้ แกยังเป็นลูกผู้ชายของตระกูลโตเล็กอยู่อีกหรือเปล่า?”

สายตาดูหมิ่นของคุณนายโตเล็ก กระตุ้นบุริศร์ จนใบหน้าร้อนผ่าว

“ผมยังไม่…..”

“เลิกพูดได้แล้วไม่มีประโยชน์หรอก ปกติแกพูดให้ท้ายภรรยาแกมากมายถึงขนาดนั้น แต่เมื่อถึงคราวที่ภรรยาของแกถูกรังแกจริงๆ นายไปอยู่ไหน? ฉันไม่เชื่อ ว่านางแพศยานั่น ต่อให้นรมนไม่ลงมือ แต่ทำไมแกยังถึงยืนดูอยู่ได้อีก ต่อให้ลงมืออย่างเปิดเผยไม่ได้ แล้วจะใช้วิธีอื่นไม่ได้เลยเหรอ?”

คุณนายโตเล็กโมโหมากกว่าเดิม เธอแทบจะถีบบุริศร์ให้ออกไปซะเดี๋ยวนี้

บุริศร์รู้สึกอึดอัด

“แม่ เดี๋ยวผมจะไปจัดการครับ”

“ยังจะเดี๋ยวอะไรอีก? ตอนนี้นรมนหลับอยู่ไม่ใช่รึไง? ตรินท์เองก็ยังไม่กลับมา แล้วแกจะอยู่ตรงนี้ไปทำไมกัน?”

ประโยชน์ของคุณนายโตเล็กทำให้บุริศร์นิ่งอยู่กับที่

“ผมก็อยู่เป็นเพื่อนแม่ไง!”

“ฉันจำเป็นต้องให้แกอยู่เป็นเพื่อนฉันไหม? ไสหัวไปเร็วเข้า!”

คุณนายโตเล็กตวาดอย่างดุดัน หากไม่ใช่เพราะขาพรุ่งนี้ใช้ไม่ได้การ เขาคงถูกถีบส่งออกไปแล้ว

นี่เป็นครั้งแรกที่บุริศร์ถูกคุณนายโตเล็กเหยียดหยาม ทำให้เขาไม่คุ้นชิน

“แม่ตกลงว่าผมเป็นลูกชายของแม่ หรือว่านรมนต่างหากที่เป็นลูกสาวของแม่กันแน่? แบบนี้ไม่กลัวว่าผมจะเสียใจหรือไง?”

“หัวใจของแกยกให้ภรรยาแกไปจนหมดสิ้นแล้ว ฉันจะทำให้แกเสียใจได้ยังไง?”

ประโยคของคุณนายโตเล็กทำให้บุริศร์หน้าแดงก่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“แล้วนรมน…..”

“ฉันจะดูแลเอง แล้วนี่ก็ที่บ้านตระกูลโตเล็ก แกจะห่วงอะไร? แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ดูแลภรรยาแก คนแก่อย่างฉันก็ทำได้อยู่”

ความเก่งกาจของคุณนายโตเล็กไม่แพ้อดีต

บุริศร์ถึงได้ออกไป

หลังจากที่ออกจากคฤหาสน์ตระกูลโตเล็ก บุริศร์ต่อสายหาพฤกษ์

“อยู่ไหน?”

“บ้าน”

เพราะเรื่องของคมทิพย์ทำให้พฤกษ์อิดโรยและหม่นหมอง

แต่เมื่อได้ยินเสียงของบุริศร์ เขายังคงตอบรับอย่างไม่รอช้า บุริศร์เองก็รู้ดีว่าเขาอารมณ์ไม่สู้ดีนัก “มารับฉันที่ตระกูลโตเล็ก เราออกไประบายกันหน่อย”

“หืม?”

พฤกษ์ไม่เข้าใจ แต่ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง จึงลดเสียงลงต่ำ “ประธานบุริศร์ คุณจะทำผิดต่อคุณนายไม่ได้ คุณนายเสียสละเพื่อคุณมากมาย หากคุณออกไปหาหญิงอื่น คุณนายต้องเสียใจแน่ แถมคุณยังมีลูกแล้วด้วย คุณยังเป็นคนมีชื่อเสียงของเมืองชลธี ความเคลื่อนไหวของคุณถูกจับตามอง หากถูกนักข่าวจับได้ขึ้นมา คงจะ…..”

“พร่ำบ้าอะไร? ออกมาเร็วเข้า”

บุริศร์แทบบ้า

เขาเป็นอะไรกันแน่?

ตอนนี้คุณนายโตเล็กเองไม่ชอบเขา แม้แต่พฤกษ์เองก็เข้าใจบุริศร์ผิดไปด้วย บุริศร์หยิบบุหรี่ขึ้นสูบ เมื่อเห็นการปรากฏตัวของพฤกษ์ พวกเขาคุยกันอยู่หลายประโยค ก่อนที่ทั้งสองจะขึ้นรถไป

ทางด้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา พวกเขาไม่สามารถติดต่อนรมนได้เลย ทำให้บรรยากาศภายในบ้านหดหู่

เพราะตุลยาอยู่ด้วย สีหน้าของธรณีจึงไม่สบอารมณ์ คนที่ลำบากที่สุดคงหนีไม่พ้นคิม

คิมต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกคุณนายทวีทรัพย์ธาดาถลึงตาโตใส่

“นรมนยังไม่ยอมรับโทรศัพท์อีกหรือยังไง?”

น้ำเสียงของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาไม่สู้ดีนัก

คิมพยักหน้ารับ

ธรณีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าเป็นผมก็จะไม่มีทางรับ”

“แกหุบปากไปเลย!”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาจับจ้องธรณี ด้วยความโกรธ “แกเป็นอาวุโส ทำไมถึงไม่รู้จักช่วยพูดซะบ้างเลย? นังนรมนทำไมถึงได้ใจแคบขนาดนั้น? ถึงขนาดไม่ยอมรับตุลยางั้นเหรอ?”

“คุณย่า ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว หนูว่าหนูไปดีกว่า หากหนูอยู่ที่นี่ พี่สาวคงไม่มีทางกลับมาแน่ เธอไม่ชอบหนู หนูรู้ดี”

ตุลยาเอ่ยด้วยความลำบากพร้อมน้ำตาเอ่อ ดูทีท่าน่าสงสาร น่าเสียดายที่นอกจากคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ธรณีและคิมไม่ได้ปลอบใจเธอแต่อย่างใด

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเมื่อเห็นทีท่าของตุลยา เธอเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน “ตุลยา เรื่องนี้ลำบากหนูแล้ว ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับนรมนเอง”

“ตุลยา ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีของที่ลืมซื้อ เธอไปช่วยซื้อให้ฉันที”

คิมทนไม่ไหวอีกต่อไป

ในเวลานี้ นรมนควรที่จะอยู่บ้าน แต่เพราะตุลยาแม้ประตูบ้านเธอยังไม่ได้เข้า คุณนายเองก็ถูกตุลยาล่อจนเชื่อเธอสนิทใจ ปฏิกิริยาที่มีต่อนรมนทำให้เธอไม่สามารถทนดูอีกต่อไปได้ จึงเอ่ยปาก กีดกันตุลยาออกไป

ตุลยาเข้าใจความนัยของคิมเป็นอย่างดี ไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยตอบ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเองขัดขึ้นเสียก่อน “ที่บ้านเรามีคนใช้เยอะแยะ สั่งให้คนใช้ไปก็พอแล้ว”

“หนูไม่ไว้ใจคนใช้ ให้ตุลยาไปเถอะ”

คิมมีนิสัยเด็ดเดี่ยว

ตุลยารู้จักนิสัยคิมเป็นอย่างดี เธอจึงเอ่ยขึ้น “คุณย่า หนูไปเองดีกว่า ไม่แน่อาจจะได้พบกับพี่สาวเข้าโดยบังเอิญ ขอเพียงแค่หนูคุยกับพี่ดีๆ พี่ต้องกลับมาแน่”

“เฮ้อ ตุลยานี่สิเป็นเด็กดีที่สุด”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดายิ่งชอบตุลยาเข้าไปใหญ่

ธรณีโมโหจนไม่สามารถทนอยู่ต่อไปได้ แต่กลับถูกคิมรั้งเอาไว้เสียก่อน “อา คุณนายต้องทานยา ช่วยไปเอายาทีสิ”

เมื่อเห็นคิมออกคำสั่งเช่นนี้ ตุลยาไม่พอใจนัก แต่ท้ายที่สุดก็ออกจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไป

สิ่งของที่คิมสั่งให้เธอไปซื้อนั้นธรรมดามาก ตุลยาโมโหและโกรธแค้นอย่างมาก แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้

ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาให้คนขับรถไปส่ง ตุลยาไม่ปฏิเสธ เสมือนกับว่าเธอเป็นคุณหนูตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เธอออกคำสั่งชี้นำทางไปที่ห้างสรรพสินค้า

หลังจากที่ตุลยาออกไปจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่นาน รถยนต์สีดำคันหนึ่งสะกดรอยตามเธอไป ด้วยความเร็วที่เร็วขึ้น เร็วขึ้น…..

ทีแรกตุลยาไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด เมื่อเธอรู้ตัวว่าถูกสะกดรอย เธอหวั่นวิตกขึ้นมา

“โชเฟอร์ ขับไปในที่ๆคนสัญจร เร็วเข้า!”

ไม่ทันขาดคำ “ปัง” รถคันหนึ่งชนเข้าอย่างแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย