บทที่ 360 เธอตั้งใจแส่หาเรื่องใช่ไหม
ตุลยากอดตัวเองไว้ด้วยความตกใจ จนใบหน้าขาวซีด
“เกิดอะไรขึ้น? ใครกันที่ตั้งใจหาเรื่องฉัน? หรือว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดากัน? เร็วเข้า! โทรหาคุณย่า! บอกเธอว่าเกิดเรื่องกับฉัน!”
ตุลยาจับมือของคนขับรถเอาไว้พร้อมออกคำสั่งด้วยความร้อนรน ยังไม่มันขาดคำ รถข้างหลังได้แซงรถของเธอเสียก่อน ปิดทางของเธอเอาไว้
คนขับรถเป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา มากประสบการณ์ ขณะนี้ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ พร้อมกับเปิดประตูรถ “เห้เพื่อน ผิดคนหรือเปล่า? เราเป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา”
บุริศร์จ้างนักเลงทั่วไปในการปฏิบัติการ แน่นอนว่าต้องไม่รู้จักคนขับรถของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแน่นอน แต่ก็ยังเอ่ยด้วยความเย็นชา “โทษที เราไม่มีความแค้นใดต่อตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เพียงแต่ผู้หญิงบนรถมีปัญหากับนายจ้างเรา เรารับเงินของคนอื่น ก็ต้องกำจัดตามคำสั่ง หวังว่านายจะไม่ขัด”
ตุลยาเข้าใจทันทีว่าทุกอย่างนี่มาเพราะตน เธอตระหนกจนเปิดประตูรถหวังวิ่งหนี แต่กลับถูกใครบางคนกระชากหัวเอาไว้
“โอ๊ย! ปล่อยฉันนะ! ปล่อย! ช่วยด้วย! กลางวันแสกๆ แบบนี้ ยังมีกฎบ้านกฎเมืองอยู่ไหม ฉันจะบอกอะไรพวกแกให้ ฉันเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา หากพวกแกทำอะไรฉัน ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ปล่อยพวกแกเอาไว้แน่!”
ตุลยาตะโกนเสียงดังลั่น
บุริศร์และพฤกษ์นั่งฟังอยู่บนรถที่จอดไม่ไกล เผยสายตาดูถูก
“เรายังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ก็ยกตระกูลทวีทรัพย์ธาดาขึ้นมาขู่ซะแล้ว ตุลยานี่น่ารังเกียจชะมัด”
แม้ว่าบุริศร์จะไม่ปริปาก แต่สายตาเขากลับเยือกเย็นราวภูเขาน้ำแข็ง
“ทีแรกตัดสินใจว่าจะโยนเธอลงทะเลเลย แต่ตอนนี้รอก่อน หาที่รกร้าง ให้เธอทนหิวสักหลายวันก่อน”
เมื่อได้ยินคำสั่งของบุริศร์ พฤกษ์รีบโทรแจ้งลูกน้องทันที
เมื่อตุลยาได้ยินเสียงของปลายสาย เธอคิดที่จะถือโอกาสนี้วิ่งหนี แต่คนพวกนี้ใช่พวกที่เธอสามารถหลอกล่อได้อย่างนั้นเหรอ?
คนขับรถเองก็คิดที่จะหาวิธีเช่นเดียวกัน แต่กลับถูกฟาดจนสลบไป
ตุลยาถูกยัดเข้าไปในรถอันคับแคบ นำตัวออกไป
หลังจบทุกอย่างนี้ บุริศร์ยืดแขนทั้งสองข้างพร้อมเอ่ย “ไปกันเถอะ กลับบ้าน นรมนของเราคงจะตื่นแล้ว”
พฤกษ์เศร้าสลด เมื่อเห็นทีท่าของเขา
บุริศร์เหลือบมองเขาพร้อมกับเอ่ยขึ้น “ยังทำให้คมทิพย์ดีขึ้นไม่ได้อีกเหรอ?”
“ยัง”
พฤกษ์รู้สึกว่าตนไร้ประโยชน์
“แล้วทางด้านตระกูลรัตติกรวรกุลยังไงบ้าง?”
อันที่จริงบุริศร์เองก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลรัตติกรวรกุล แต่ตอนนี้พฤกษ์เองยังไม่สามารถจัดการได้ ทำให้จิตใจของเขาไม่สู้ดีนัก
คมทิพย์เป็นเพื่อนที่นรมนรักที่สุด หากเรื่องนี้ไม่สามารถจัดการให้เรียบร้อยได้ นรมนเองก็คงจะเศร้าสลดไปด้วย
พฤกษ์เอ่ยตอบ “ไม่ว่าจะทำยังไงเจตต์ก็ยืนยันว่าถูกวางยา เขาไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้สถานะของผมได้ถูกเปิดเผย เขายิ่งจะหาเรื่องผมเข้าไปใหญ่ ไม่ยอมถอยเลย”
“เขาคงต้องการสู้กับนายจนถึงที่สุดเหรอ?”
“อาจจะ ใช่สิ ประธานบุริศร์ ผมสืบเรื่องอะไรบางอย่างได้”
พฤกษ์ขมวดคิ้วเข้าหากันพร้อมเอ่ย “ตอนนั้นคมทิพย์ได้รับสายจากคนอื่นถึงได้ไปหาเจตต์ ผมถามมาแล้ว เจตต์ไม่ได้เป็นคนโทร แต่คนที่โทรเป็นพวกเพลย์บอยที่อยู่กับเจตต์ พวกเขาอ้างในนามคุณนายถึงได้นัดเธอออกไปได้”
“หมายความว่ายังไง?”
เมื่อได้ยินชื่อของนรมน บุริศร์หรี่ตาลงฟังอย่างตั้งใจ
หรือว่านี่อาจไม่ใช่แค่การที่เจตต์เที่ยวผู้หญิง?
พฤกษ์ส่ายหน้า “เรื่องนี้ผมได้ถามคมทิพย์แล้ว แต่เธอไม่ยอมบอกอะไรเลย ผมรู้จากปากคนอื่น ฝ่ายตรงข้ามเหมือนว่ามีภาพถ่ายของคุณนายอยู่ เป็นภาพเปลือยของคุณนาย หากคมทิพย์ไม่ยอมไป พวกเขาจะปล่อยภาพเหล่านั้น คมทิพย์ถึงได้ไปตามนัด
“แกว่าไงนะ?”
ดวงตาของบุริศร์ในตอนนี้เต็มไปด้วยความอาฆาตโกรธแค้น
“ภาพเปลือยของนรมนงั้นเหรอ? ส่งไปคมทิพย์ดูแล้วงั้นเหรอ?”
“ครับ ผมสืบเห็นจากโทรศัพท์ของคมทิพย์สองใบ แม้จะเบลอภาพเอาไว้ แต่ว่า…..”
พฤกษ์ไม่กล้าเอ่ยประโยคต่อไป
จะให้เขาบอกบุริศร์ว่าเขาได้เห็นแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ความพยาบาทแผ่ซ่านออกมาจากตัวของบุริศร์
“นายถามคมทิพย์แล้วหรือยัง? เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงใช่ไหม? ภาพถ่ายนั่นของจริงใช่ไหม?”
เผชิญกับความโกรธแค้นของบุริศร์ พฤกษ์ได้แต่เอ่ยเสียงแผ่ว “ผมไม่กล้าถามครับ มันเกี่ยวกับชื่อเสียงของคุณนาย”
“ไป กลับบ้าน จะไปถามคมทิพย์ให้รู้เรื่อง”
บุริศร์รอไม่ไหวอีกต่อไปแม้สักนาที
พฤกษ์ไม่รีรอ เขากลับไปที่คฤหาสน์กับบุริศร์ทันที
คมทิพย์ถือโอกาสที่พฤกษ์ไม่อยู่ออกไปสูดอากาศ แต่กลับเห็นพฤกษ์ขับรถกลับมาอีกครั้ง เธอตกใจจนต้องรีบวิ่งกลับเข้าบ้านไปดั้งเดิม
หากแต่บุริศร์ไวกว่าเขาคว้าข้อมือของ หญิงสาวเอาไว้ “ขึ้นรถกับผม ผมมีเรื่องที่จะต้องถามคุณ!”
“ฉันไม่ไป!”
หลังจากที่คมทิพย์ประสบกับเรื่องนั้นเข้า เธอไม่ออกจากบ้านอีกเลย
เธอรู้สึกว่าหากเธอออกไปจะต้องพบกับสายตาของทุกคนที่จับจ้องเธออยู่ ทำให้เธอไม่สามารถประเชิญหน้าได้
นี่เป็นปัญหาทางจิต เธอรู้ดี แต่เธอไม่สามารถควบคุมมันได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...