แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 368

บทที่ 368 ร่างกายของฉันไม่แข็งแรง

เจตต์งงไปหมด

“เหี้ย เฮ้ย!นี่มันใครว๊ะ?ใครคิดจะให้ร้ายคุณชายอย่างฉันเนี่ย?ฉันไม่รู้จริงๆนะว่ารูปพวกนี้มาจากไหน”

เจตต์เกือบจะร้องไห้

บุริศร์รีบติดตามIPของฝ่ายตรงข้าม เสียดายที่อีกฝ่ายฉลาดมาก ใช้accountของต่างประเทศ รอให้บุริศร์หาaccountนั้นเจอ รูปถ่ายก็ได้ส่งจบแล้ว

บุริศร์ขมวดคิ้วขึ้นเบาๆ เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์เครียดมาก

ถ้าวันนี้เขาไม่ได้มาหาเจตต์แล้วละก็ เจตต์คงต้องรับข้อกล่าวหานี้อย่างแน่นอน

ใครจะไปรู้ว่าสองคนที่เมื่อตอนบ่ายยังทะเลาะตีกันอยู่ พอกลางคืนแล้ว จะมานั่งดูคอมอยู่ด้วยกันได้?

บุริศร์ดูรูปที่ส่งมา มีบางรูปที่หวือหวาเกินไป แล้วถูกเขาลบไปโดยตรงเลย ที่เหลือเป็นรูปที่เจตต์ถ่ายคู่กับนรมน ท่าทางสนิทสนม แค่เห็น คนก็รู้สึกตับจะแตก

เจตต์รีบพูด:“นี่มันไม่จริงเลยนะ!ฉันไม่เคยถ่ายรูปพวกนี้กับนรมนเลยนะ!”

“ฉันรู้!”

บุริศร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

เจตต์กำลังจะถอนหายใจโล่งทีนึง ก็ได้ยินบุริศร์พูด:“นรมนของฉันเป็นผู้หญิงที่ทำตัวดี ไม่ออกนอกกรอบ จะไปคลุกคลีกับผู้ชายเจ้าชู้อย่างนายได้ยังไง?นี่มันลดตัวเธอชัดๆ”

“นายบุริศร์ นี่นายใช้ปากด่าคนรึเปล่าเนี่ย?”

เจตต์รู้สึกอัดอั้นใจมาก แต่ตอนนี้ เขาก็รู้แล้วว่ามีคนตั้งใจจะใส่ร้ายเขา

“เรื่องนี้ นายคิดจะทำยังไง?”

“สืบ!”

บุริศร์พูดจบ แล้วลบรูปและทุกอย่างที่เกี่ยวกับนรมนออกจากมือถือของเจตต์ไปหมด

“แล้วฉันช่วยอะไรได้?”

ตอนนี้เจตต์มึนไปหมด

บุริศร์กลับไม่พูดอะไร แล้วเดินจากไปเลย

“นี่ๆๆ นายบุริศร์ ฉันถามนายอยู่นะ เรื่องนี้นายต้องอธิบายให้นรมนเข้าใจนะ ว่าฉันถูกใส่ร้าย ฉัน……”

เขายังไม่ทันพูดจบ บุริศร์ก็ได้หยุดลง ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอาฆาต

“เรื่องนี้ ถ้านรมนรู้แม้แต่นิดเดียว นายก็รอฉันมาจัดการนายได้เลย”

พูดจบ เขาก็เดินจากไปเลย ไม่หันมามองเจตต์สักครั้งเดียว

เจตต์หดหู่ไปทั้งคน แต่หลังจากที่บุริศร์ไปแล้วนั้น เขาก็นั่งคิดใคร่ครวญ

ใครกันแน่ที่คิดจะให้ร้ายเขา?

แล้วทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร?

คนที่มีปัญหานี้คาดใจเหมือนกันก็คือบุริศร์

เขาออกจากบ้านของเจตต์ก็ได้กลับไปที่บ้านเลย

เวลาตีสามตีสี่แล้ว แต่เขาไม่รู้สึกง่วงเลย

ถ้าไม่สืบเรื่องนี้ให้รู้ ก็ยากที่จะรับรองได้ว่า หลังจากนี้จะไม่มีข่าวเสียหายของนรมนรั่วไหลออกมาอีก แต่ฝั่งตรงข้ามเป็นใคร ต้องการอะไร เขาไม่รู้เลย

เผชิญกับการขู่ที่ไม่มีที่มาที่ไปแบบนี้ บุริศร์หาวิธีรับมือไม่ได้เลยจริงๆ

เขากลับไปที่ห้องนอน เห็นนรมนกำลังหลับสบายมาก แถมยังถีบผ้าห่มออก แล้วถอนหายใจไปทีนึง เดินไปช่วยเธอห่มผ้า วินาทีต่อมา กลับถูกนรมนพลิกตัวหันมากอดเขาไว้โดยตรง

“อยากขยับ”

นรมนพูดด้วยเสียเบา แล้วหาท่าทางที่สบายซุกนอนอยู่ในอกของบุริศร์

เห็นนรมนที่มีความสุขไร้ความกังวลเช่นนี้แล้ว แววตาของบุริศร์ก็นุ่มนวลขึ้นเยอะ

เขาจะปล่อยให้คำพูดนินทาว่าร้ายพวกนั้นมาทำร้ายนรมนไม่ได้

คิดแล้ว เขาก็ถอดรองเท้าขึ้นเตียง กอดนรมนไว้เบาๆ แล้วหลับไปพร้อมเธอ

หลับฝันดีตลอดคืน

ตอนเช้า ตอนที่นรมนตื่นมา บุริศร์ยังนอนหลับอยู่

เธอจ้องมองหน้าหล่อที่นอนหลับอยู่ของบุริศร์ ขนตาที่ยาวของเขา จู่ๆรู้สึกเต็มอิ่มในใจ

นี่เป็นผู้ชายของเธอ!

คนที่จะใช้ชีวิตกับเธอตลอดชีวิต!

นรมนยื่นนิ้วออกมา ใช้นิ้วกวาดตามโครงหน้าของเขาบนอากาศ

บุริศร์กลับออกมืออย่างเร็ว ฉุดดึงแขนของเธอไว้โดยตรง

“สนุกหรอ?”

ดวงตาของบุริศร์ดูลึกซึ้ง มุมปากยกขึ้นเบาๆ มองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาแล้ว นรมนรู้สึกหน้าแดงร้อนในทันที

“ฉัน ฉันเปล่าดูคุณนะ อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยคุณ”

“แน่ใจนะ?เมื่อกี้ ใครที่จ้องๆมองๆอยากจะจูบผมอยู่กันนะ?”

คำพูดนี้ของบุริศร์ทำเอานรมนโกรธมาก

“ใครจะจูบคุณ?อย่าหน้าไม่อายหน่อยเลย!ฉันก็แค่ดู”

“อ้อ แค่ดูหรอ?”

บุริศร์รู้สึกว่านรมนตอนนี้น่ารักสุดๆเลย

เขาพลิกตัวทันที แล้วทับร่างของนรมนไว้ใต้ร่างของตัวเอง กลิ่นไอเร่าร้อนได้โชยฟุ้งมากระแทกที่หน้า

“ให้โอกาสคุณอีกครั้ง เมื่อกี้อยากทำอะไรกับผม?”

บุริศร์ข่มขู่เธอ

นรมนรู้สึกตัวร้อนทรมานไปหมด อยากจะผลักบุริศร์ออก แต่ก็ทำไม่ได้ กลิ่นไอพิศวาสทำให้เลือดในร่างกายของเธอสูบฉีดอย่างแรง

“คุณลุกเดี๋ยวนี้เลยนะ”

“ไม่เอา!”

บุริศร์ทำอย่างกับเด็ก ซุกอยู่ในอ้อมกอดของนรมนไม่ยอมออก

เธอหอมจัง!

บุริศร์สูบหายใจลึกๆทีนึง สีหน้าดูเคลิ้มมีความสุข ทำให้หน้าของนรมนยิ่งแดงเข้าไปใหญ่

“คุณบุริศร์ ฉันหนักมากเลยนะคะ คุณรีบลุกเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

เสียงของเธอสอดด้วยอาการงอนและหายใจแรง

แววตาของบุริศร์หดในทันที จากนั้นก็ก้มหน้าลงจูบไปที่ปากของนรมนทันที

“อื้มๆ……”

นรมนยังไม่ทันจะพูดอะไรก็ถูกจูบของบุริศร์ดึงดูดไว้แล้ว

ทั้งสองคนกอดจูบเข้าด้วยกันทันที

แสงอาทิตย์ในยามเช้ากำลังดี ส่องผ่านกระจกบานเลื่อนสะท้อนเข้ามา แล้วสาดส่องบนตัวของพวกเขาทั้งสองคน ทำให้อุณหภูมิในห้องก็ปรับขึ้นตามไปด้วยเยอะเลย

บุริศร์ได้หยุดเบรคในวินาทีสุดท้าย มองนรมนที่แววตาเย้ายวน แทบอยากจะกลืนกินเธอเข้าไปทันคน แต่เสียดายที่เขาไม่สามารถทำได้

ร่างกายของนรมนยังไม่หายดี

ถึงแม้คุณหมอแจ้งผลสรุปออกมาว่าอยู่ไฟทำได้ดีมาก แต่คุณหมอก็ได้กำชับบุริศร์เป็นการส่วนตัวแล้วว่าร่างกายของนรมนยังทนต่อการมีเพศสัมพันธ์ชายหญิงไม่ได้ อย่างน้อยภายในสามเดือนนี้ห้ามเลย

บุริศร์รู้สึกทั้งร่างจะระเบิดอยู่แล้ว เสียดายที่อยู่ต่อหน้าสาวงามเช่นนี้ กลับได้แต่มองทำอะไรเกินเลยไม่ได้ ความทรมานเช่นนี้น้อยคนที่จะเข้าใจได้

นรมนยื่นแขนไปคล้องคอของเขาไว้ด้วยแววตาเย้ายวน แล้วถูกับหน้าของเขาแล้วพูด:“บุริศร์คะ ฉันอยากได้ค่ะ”

เสียงของเธอเบามาก เบาจนมีแต่บุริศร์คนเดียวที่สามารถได้ยิน

นี่ถ้าเป็นปกติแล้ว เขาจัดการเธอไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ได้

หน้าผากของเขามีเหงื่อไหลเต็ม กลับต้องอดกลั้นกับความต้องการที่มีต่อนรมนเอาไว้ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน:“ที่รัก รออีกหน่อยนะ”

นรมนไม่นึกเลยว่าเธอจะถูกบุริศร์ปฏิเสธ

โดยปกติแล้ว เขากระตือรือร้นเรื่องบนเตียงอย่างมาก ไม่ว่าจะห้าปีก่อน หรือว่าห้าปีหลังมานี้ ทำไมครั้งนี้ถึงปฏิเสธเธอล่ะ?

ทันทีนั้น นรมนรู้สึกอึ้งไปนิดๆ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”

เธอรู้สึกอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก

เดิมที นรมนก็ไม่ใช่คนที่เปิดเผยในด้านนี้อยู่แล้ว ที่สามารถให้เธอพูดคำนี้ออกมาได้นั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

บุริศร์เองก็รู้ดี แต่ตอนนี้ กลับบอกเธอไม่ได้ ได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ:“ไม่มีอะไรหรอกนะ ก็แค่ร่างกายผมช่วงนี้ไม่ค่อยดี รอวันสองวัน ผมจะรองไปหาหมอดู”

“คุณเป็นอะไรคะ?”

พอได้ยินว่าร่างกายของบุริศร์ไม่ค่อยดีแล้ว นรมนก็ไม่มีเวลามาถือสาอะไรอีก ทำท่าก็จะไปเปิดผ้าห่มดูบุริศร์

ทำเอาบุริศร์ตกใจรีบคว้าแขนเธอเอาไว้แล้วพูด:“ที่รัก อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย ไว้หน้าผมหน่อยนะครับ?”

ได้ยินที่เขาพูดแล้ว สีหน้าของนรมนยิ่งตื่นตกใจมาก

หรือว่าคุณบุริศร์จะเป็นโรคที่พูดออกมาไม่ได้งั้นหรอ?

เธอมองไปที่ตรงนั้นของบุริศร์โดยสัญชาตญาณ ทำจนร่างกายของบุริศร์ร้อนระอุไปทั่ว แต่ก็ขมขื่นใจพูดไม่ได้

ปล่อยให้นรมนเข้าใจผิดว่าร่างกายของเขามีปัญหา ดีกว่าให้เธอสงสัยร่างกายของตัวเองตั้งเยอะ

“พอเหอะ หยุดมองได้แล้ว รีบลุกไปกันเถอะ วันนี้ ผมพาคุณกับกมลไปเที่ยวที่สวนสนุกกัน”

บุริศร์รีบเปลี่ยนเรื่องคุย

พูดจบ เขาก็วิ่งหลบไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แล้วอาบน้ำเย็นๆให้หายความอยาก

นรมนมองผ้าห่มที่ยังอุ่นๆอยู่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ คิดถึงสีหน้าของบุริศร์ในเมื่อกี้ แล้วขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว

หรือว่าที่เธอแท้งลูกทำให้บุริศร์ตกใจกลัวจนนกเขาไม่ขันหรอ?

แต่ก็ไม่น่าใช่นะ เมื่อกี้เธอยังสัมผัสถึงน้องชายของเขาแข็งตัวอยู่เลยนี่น่ะ

แล้วเป็นโรคอะไรกันแน่?

นรมนคิดยังไงก็คิดไม่ตก แต่ก็นึกอะไรขึ้นได้

เธอคิดว่า ต้องหาเวลาไปให้คุณหมอช่วยดูอาการของบุริศร์ดีๆถึงจะได้

บุริศร์ไม่รู้เลยแม้แต่นิดว่านรมนวางแผนอะไรอยู่ในใจ เขารู้แค่ว่าตัวเองใกล้จะระเบิดเต็มทีแล้ว อุณหภูมิน้ำที่เย็นจัดก็ไม่สามารถลดความต้องการของเขาได้เลย

เขาพยายามสูบลมหายใจเข้าลึกๆ ผ่านไปอยู่นานถึงอาบน้ำเสร็จ กลัวว่านรมนจะรอนาน แล้วเร่งรีบออกมา ถึงสังเกตว่านรมนได้จัดที่นอนเรียบร้อยแล้ว ไม่อยู่ในห้องแล้ว

นรมนไปไหนแล้วล่ะ?

บุริศร์รู้สึกแปลกใจ แต่ก็ได้แต่งตัวเสร็จถึงค่อยลงไปชั้นล่าง

เวลานี้ กานต์กับกมลก็ตื่นแล้ว แม่นรมนก็เตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้ว นรมนคอยช่วยอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรกับแม่นรมนอยู่ ทั้งสองคนดูลับๆล่อๆ กระซิบข้างหู ทำให้บุริศร์รู้สึกแปลกใจอยากรู้

“แม่ครับ อรุณสวัสดิ์ครับ”

บุริศร์รีบเปิดปากทักทาย

“อ้อ?อรุณสวัสดิ์จ้า!”

ตอนที่แม่นรมนเห็นบุริศร์นั้น ท่าทางดูเก้อเขินนิดๆ

และนรมนก็เดินออกไปโดยตรงแล้วคล้องแขนของบุริศร์แล้วพูด:“คุณไปดูเด็กๆก่อน ฉันช่วยแม่ทำอาหารเช้า”

“ให้ผมทำเถอะ”

ระหว่างที่บุริศร์พูดอยู่นั้นก็พับแขนเสื้อขึ้น กลับถูกนรมนห้ามเอาไว้

“ไม่ต้องหรอกคะ มีผู้หญิงเราอยู่ คุณไปดูเด็กๆเถอะค่ะ ไม่ใช่บอกว่าเดี๋ยวจะออกไปเที่ยวหรอคะ ?ให้เด็กๆดีใจหน่อย ฉันยังไม่ได้บอกกับพวกเขาเลยค่ะ”

นรมนแกล้งทำเป็นปฏิเสธแล้วพาบุริศร์ไปถึงที่ห้องรับแขก จากนั้นก็วิ่งกลับไปที่ห้องครัวต่อ ไม่รู้ว่าพูดอะไรกับแม่นรมนอยู่ ทั้งสองคนกระซิบไปมา แถมนรมนก็หันมามองบุริศร์อยู่บ่อยๆ ทำเอาบุริศร์รู้สึกแปลกๆ

“แด๊ดดี้คะ แด๊ดดี้ดูว่าวันนี้หนูใส่กระโปรงสวยมั้ยคะ?”

วันนี้ กมลได้ใส่กระโปรงใหม่ตัวนึง เห็นว่าตั้งแต่บุริศร์ลงมาก็ไม่ได้มองเธอเลย เลยรู้สึกไม่ค่อยพอใจ อยากให้แด๊ดดี้สนใจเธอ

บุริศร์ถึงมองไปทางกมล

กมลสวมชุดกระโปรงเจ้าหญิงอยู่ มองแล้วเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยเลยจริงๆ บวกกับเธอหน้าตาดีมาก ทำให้คนรู้สึกอยากเข้าไปอุ้มจัง

“กมลสวยมากเลยครับ เดี๋ยวแด๊ดดี้พาพวกหนูกับหม่ามี้ไปเที่ยวที่สวนสนุกดีมั้ยครับ?”

“ดีคะ!”

กมลดีใจจนเต้นขึ้นมา

นี่เป็นสิ่งที่เธอรอคอยมานาน

“หนูจะไปติดกิ๊บติดผมอันสวยของหนู เดี๋ยวแด๊ดดี้ดูนะคะว่าสวยมั้ย?”

ระหว่างที่กมลพูด ก็ได้วิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างกับผีเสื้อน้อยอย่างไงอย่างนั้น

กานต์ไม่ได้ดีใจเหมือนกับกมลขนาดนั้น แต่เขาก็ดีใจอยู่ เขาเดินเข้าไปหาบุริศร์แล้วพูดด้วยเสียงเบา:“คุณบุริศร์ คุณสังเกตมั้ยว่าหม่ามี้กับคุณยายเช้านี้ดูแปลกๆ ?”

“นายก็สังเกตเห็นหรอ?พวกเธอเป็นอะไรหรอ?”

บุริศร์อยากจะสอบถามข่าวสารอะไรจากลูกชาย แต่กานต์กลับส่ายหัวแล้วพูด:“ผมว่าน่าจะเจาะจงคุณนะ เดี๋ยวคุณอยู่ให้ห่างจากผมเลยนะ ผมกลัวว่าเดี๋ยวจะลามมาถึงผม”

พูดจบ กานต์ก็ทำเหมือนกับเขาเป็นโรคระบาดหลบไปซะไกล เกือบจะทำให้บุริศร์กระอักเลือดตาย

ไอ้เด็กแสบนี่ใช่ลูกของเขาจริงหรอเนี่ย?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย