บทที่ 369 เขาก็แค่ร่างกายอ่อนแอไปหน่อย
“กานต์ นายจำไว้เลยนะ!”
บุริศร์กัดฟันพูดอย่างโกรธ
กานต์หัวเราะดีใจพูด:“คุณบุริศร์ คุณมาถือสากับเด็กอย่างฉันแบบนี้ จำเป็นต้องถึงขั้นนี้เลยหรอ?”
“จำเป็นสิ!”
บุริศร์ตกหลงรักรอยยิ้มไร้เดียงสาของลูกชายเข้าแล้ว
เจ้าตัวแสบคนนี้เจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอกชัดๆ คนอื่นไม่รู้ แล้วคิดว่าเขาจะไม่รู้หรอ?
ตอนที่กานต์ยังจะพูดอะไรต่อนั้น กมลก็วิ่งออกมาจากห้อง
“แด๊ดดี้คะ แด๊ดดี้ดูกิ๊บติดผมอันนี้ของหนูซิคะสวยมั้ยคะ?หม่ามี้ซื้อให้หนูเองค่ะ”
กมลดีใจเหมือนกับนางฟ้าน้อย สวมชุดเจ้าหญิงแล้วหมุนไม่หยุด สำหรับเธอแล้ว การที่ได้ออกไปดูโลกภายนอก เป็นความฝันที่เธอรอคอยมาในสี่ปีที่ผ่านมานี้ของเธอเลย
ตอนนี้ความฝันก็จะเป็นจริงแล้ว เธอจะไม่ดีใจได้ยังไงล่ะ?
กานต์เองก็ถูกอารมณ์ของเธอทำเอาดีใจตามไปด้วย
“ใช่เลยครับ ผมโทรหากิจจาดู ลองถามว่าเขาอยู่ไหน?เดี๋ยวให้เขาไปกับพวกเราดีกว่า”
“ใช่ค่ะ เรียกพี่กิจจามาด้วยเลยค่ะ”
หน้าน้อยๆของกมลแดงไปหมด อารมณ์ดีของเธอลามไปถึงบุริศร์
สามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าสี่คนพ่อแม่ลูก จู่ๆเขาก็รู้สึกเต็มอิ่มเป็นพิเศษ
กานต์ไปโทรหากิจจาแล้ว บุริศร์อุ้มกมลมานั่งตักตัวเองแล้วหัวเราะพูด:“ถึงเดี๋ยวจะออกไป แต่ต้องเดินตามแด๊ดดี้กับหม่ามี้และพี่กานต์ให้ดีนะคะ จะเดินเองคนเดียวไม่ได้รู้มั้ย?”
“ค่ะ หนูรู้แล้วค่ะ หนูจะทำตัวดีๆเลยค่ะ”
กมลแทบอยากจะออกไปตอนนี้เลย แต่เสียดายที่ทุกคนยังไม่ได้ทานอาหารเช้ากันเลย
ตอนที่กานต์กลับมานั้นดูผิดหวังนิดๆ ส่ายหัวแล้วพูด:“กิจจาบอกว่ามีเรียนมาไม่ได้ ดูท่าแล้ว พวกเราต้องไปกันเองแล้วล่ะ”
สำหรับกิจจา ช่วงนี้ตรินท์เข้มงวดกับเขามาก บุริศร์ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง ยังไงซะพวกเขาก็เป็นพ่อลูก
“เอาล่ะ ไปล้างมือแล้วมาทานข้าวได้แล้ว”
บุริศร์เห็นนรมนและแม่นรมนออกมาจากห้องครัว แล้วรีบพูดกับเด็กๆ
กานต์เลยพากมลไปล้างมือ
อาหารวันนี้ดูอลังการน่ากินมาก ที่สำคัญคือมีน้ำซุปด้วย
หลังจากบุริศร์เดินมานั่งที่โต๊ะอาหารแล้ว นรมนเลยตักน้ำซุปให้เขาไปถ้วยนึง แล้วพูดอย่างลับๆล่อๆ:“คุณทานน้ำซุปให้มากๆนะคะ ห้ามให้เหลือ”
“นี่น้ำซุปอะไรหรอครับ?”
บุริศร์รู้สึกกลิ่นของน้ำซุปแรงมาก อดไม่ได้ขมวดคิ้วขึ้น
นรมนพูดโดยตอบไม่ตรงคำถาม:“ให้คุณดื่มก็ดื่มไปซิคะ คุณกลัวฉันจะวางยาพิษคุณหรือไง?”
“ถ้าคุณภรรยาให้สั่งผมดื่ม ถึงเป็นยาพิษก็ต้องดื่มครับ”
คำพูดของบุริศร์อดไม่ได้พูดออกมา
แม่นรมนแค่เม้มปากยิ้มเบาๆ ไปตามพ่อนรมนออกมาทานข้าวได้แล้ว
ทุกคนมานั่งครบแล้ว ก็เริ่มทานข้าว
บรรยากาศมื้อเช้านี้ดีเป็นพิเศษ ทุกคนต่างก็รู้สึกอบอุ่นใจ
บุริศร์ดื่มน้ำซุปไปคำนึง รู้สึกรสชาติไม่เร็ว ไม่ทันไร นรมนก็คีบอาหารให้เขาต่อ
เขารู้สึกว่านรมนในวันนี้เป็นภรรยาแสนดีเป็นพิเศษ
“ขอบคุณๆภรรยามากนะครับ”
“รีบทานเถอะค่ะ”
“หม่ามี้ หนูก็จะเอาด้วยค่ะ!”
กมลเห็นนรมนคีบอาหารให้แต่บุริศร์คนเดียว แถบน้ำซุปก็มีแต่บุริศร์ดื่มอยู่คนเดียว เลยอดไม่ได้เปิดปากพูด
บุริศร์หัวเราะพูด:“มา ถ้วยนี้ของแด๊ดดี้ให้หนู”
“ไม่ได้นะคะ!”
บุริศร์ยังไม่ทันพูดจบ นรมนก็แย่งถ้วยของเขามา ทำเอาบุริศร์อึ้ง
“เด็กจะดื่มก็ให้เขาดื่มสิ ผมดื่มน้อยหน่อยก็ไม่เป็นไรเลยหนิครับ”
“ฉันบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้”
นรมนยืนหยัดมากจากนั้นก็หันไปพูดกับกมล:“ลูกรัก นี่เป็นน้ำซุปยานะคะ ทำให้แด๊ดดี้ดื่มโดยเฉพาะ นะคะ ลูกเป็นเด็กดื่มไม่ได้”
“แด๊ดดี้ไม่สบายหรอคะ?”
กมลได้ยินว่าเป็นน้ำซุปยา ก็รีบเก็บมือน้อยๆกลับไป
สี่ปีมานี้ เธอทานยาเยอะมาก พอตอนนี้ได้ยินว่าเป็นยาก็รู้สึกขมปาก ไม่กล้าเดินหน้าอีก
บุริศร์นึกว่าเธอแค่ขู่เด็กแล้วพูดอย่างหัวเราะ:“คุณนี้ก็น่าแปลกจริงๆ ผมก็บอกแล้วไงว่าให้เด็กดื่มหน่อย ”
“ฉันก็บอกแล้วไงคะ ว่าเธอดื่มไม่ได้ นี่มันทำให้คุณโดยเฉพาะ คุณดื่มได้คนเดียว”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์รู้สึกแปลกใจ
“ผมไม่ได้ป่วยสักหน่อย ทำไมต้องให้ผมทานยา?”
“คุณเป็นโรคอะไร คุณเองยังไม่รู้อีกหรอคะ?โรคบางโรคก็ควรรีบรักษาให้ทันท่วงที ตอนนี้คุณอายุยังไม่สามสิบเลยนะคะ ชีวิตต่อจากนี้ยังอีกยาวไกล อีกอย่าง รอให้กานต์และกมลโตอีกหน่อย พวกเรายังต้องเอาลูกอีกคนนะคะร่างกายคุณไม่รีบรักษาตอนนี้จะได้ยังไงคะ”
นรมนรู้สึกหน้าแดง
คนที่ดูไม่เป็นธรรมชาติมากที่สุดก็คือพ่อแม่ของนรมน
พ่อของนรมนไอทีนึงแล้วพูด:“มาๆๆ เด็กๆ พวกเราทานข้าวกัน”
“ใช่ๆๆ พวกเราทานอย่างอื่นที่อร่อยกว่ากันดีกว่า!”
แม่นรมนก็รีบเข้าร่วม
ถ้าตอนนี้บุริศร์ยังฟังไม่ออก นั้นก็คงโง่เต็มที่แล้ว
มุมปากของเขาอดไม่ได้กระตุกที่นึง
“นี่คือน้ำซุปอะไรครับ?”
หน้าของนรมนแดงขึ้นในทันที
“ให้คุณดื่มคุณก็ดื่มไปสิคะ ถามเยอะขนาดนั้นทำไมคะ?”
นรมนนั่งอยู่ที่ข้างกายของบุริศร์
บุริศร์รู้สึกทำตัวเองแท้ๆ
เมื่อคืน เขาก็แค่กลัวว่านรมนจะคิดมาก เลยบอกไปว่าตัวเองไม่ค่อยสบาย ไม่นึกเลยว่า เช้านี้นรมนกับแม่นรมนจะทำเรื่องนี้ออกมาได้
หรือว่าในสายตาของพวกเขา คิดว่านกเขาไม่ขันจริงหรอ?
นี่ขนาดไม่ดื่มน้ำซุปยานี่ เขาก็ถูกนรมนยั่วจนลุกเป็นไฟ เกือบจะระเบิดอยู่แล้วนี่ถ้าดื่มเข้าไปอีก จะขนาดไหนกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...