แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 371

บทที่ 371 พี่ธนธีไม่ใช่คนไม่ดี

บุริศร์ค้นหารอบๆด้วยความรวดเร็ว เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของกมล ในใจก็อดรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้

เขาจึงให้ผู้หญิงที่อยู่แถวๆนั้นเข้าไปดูให้ว่ากมลยังอยู่หรือไม่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงินสามารถบันดาลได้ทุกสิ่ง หญิงสาวจึงเต็มใจช่วยหาอย่างสุดความสามารถ แต่เมื่อเธอบอกว่าไม่เห็นกมล บุริศร์ก็ร้อนรนขึ้นมาทันที

นี่เขาทำลูกหายอีกแล้วเหรอ!

คนเยอะขนาดนี้ สมมติถ้ากมลเจอแก๊งลักพาตัวไปจะทำยังไง?

บุริศร์กังวลเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าบอกนรมนในตอนนี้ กลัวว่าจะทำให้เธอกังวลตามไปด้วย เขาจึงเริ่มใช้เส้นสายของตัวเองตามหากมล

ตามหาตามกล้องวงจรปิดทั่วทุกมุมแล้ว แต่ก็ยังหากมลไม่เจอ

ตรงห้องน้ำไม่มีกล้องวงจรปิด ดังนั้นกมลออกมาตอนไหน หรือตามใครไป บุริศร์ก็ไม่สามารถรู้ได้เลย

ในตอนที่เขากำลังกระวนกระวายใจ นรมนก็ดันโทรมาหา

“บุริศร์ พวกคุณอยู่ไหนเนี่ย? อีกสักพักเราก็ต้องไปหาซื้ออะไรกินแล้วนะ คุณรีบพากมลกลับมาได้แล้ว”

นรมนยังไม่หายตื่นเต้นกับรถไฟเหาะ ข้างๆกันมีเสียงร่าเริงของกานต์ดังขึ้นมาด้วย

เมื่อได้ยินเสียงร่าเริงของภรรยาและลูก บุริศร์ก็พูดเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า “พวกคุณไปซื้อกันก่อนเลย เดี๋ยวผมกับกมลตามไป”

“ก็ได้ รีบตามมานะ เรารอพวกคุณอยู่!”

นรมนไม่ได้สงสัยอะไร จึงตัดสายไปทั้งอย่างนั้น

หัวใจของบุริศร์ร้อนรนเหมือนวางอยู่ในหม้อเดือดๆ

เจ้าหญิงของเขา ยอดดวงใจของเขา แค่พริบตาเดียวทำไมถึงหายไปซะแล้วล่ะ?

บุริศร์เดินถามผู้คนไปทั่ว ทันใดนั้นก็มีคุณตาขายไอศกรีมคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “คุณกำลังตามหาเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งอยู่ใช่ไหม? เด็กที่ใส่ชุดเจ้าหญิงสีขาว ติดกิ๊บสวยๆบนหัว พูดจาอ่อนหวาน แล้วก็สูงประมาณนี้ใช่หรือเปล่า?”

เมื่อคุณตาพูดมาอย่างนี้ บุริศร์ก็รีบพยักหน้ารัวๆ

“ใช่ครับๆๆ คุณตารู้ไหมครับว่าลูกสาวผมไปไหน?”

“แม่หนูนั่นน่ะ เดินตามเด็กผู้ชายคนหนึ่งไปทางนั้น คุณลองเดินไปตามทางนี้ดูสิ ข้างในนั้นเป็นป่าไผ่ด้วยล่ะ มีหมีแพนด้าอยู่สองสามตัว เลยไม่ค่อยมีคนเข้าไปเท่าไหร่ บางทีเด็กสองคนนั้นอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้นะ”

เมื่อคุณตาบอกมาแบบนี้ บุริศร์ก็ไม่รอให้เสียเวลา รีบวิ่งตรงไปยังทางนั้นทันที

เข้ามาได้ประมาณร้อยเมตรกว่าๆ เสียงเป่าขลุ่ยที่ฟังดูรื่นหูก็ดังขึ้นมา

แต่บุริศร์ไม่มีอารมณ์มาชื่นชมอะไรทั้งนั้น เขาเดินตามเสียงนั้นไป จากนั้นก็เห็นศาลากลางป่าไผ่ ตรงนั้นมีกมลกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วยกัน

เด็กชายกำลังเป่าขลุ่ย ส่วนกมลนั่งเอามือทั้งสองข้างเท้าคางฟังด้วยใบหน้าเคลิบเคลิ้ม แววตาแบบนั้นทำให้บุริศร์รู้สึกไม่ค่อยชอบใจ

เมื่อก่อนเธอมีแววตาชื่นชมแบบนี้ให้เฉพาะคนเป็นพ่ออย่างเขาเท่านั้น ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอเผยแววตาชื่นชมแบบนี้ให้ไอ้เด็กแปลกหน้าคนนี้?

“กมล!”

บุริศร์รีบเดินเข้าไปหาด้วยความรวดเร็ว

เมื่อเห็นบุริศร์เดินลิ่วๆเข้ามา เด็กชายก็วางขลุ่ยลงทันที ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไร ก็เห็นบุริศร์อุ้มกมลขึ้นไปแล้ว พร้อมกับพูดเชิงตำหนิออกมาว่า “ไปไหนทำไมไม่บอกแด๊ดดี้ก่อน? หนูรู้ไหม แด๊ดดี้ตกใจแทบบ้า นึกว่าหนูโดนแก๊งลักพาตัวจับไปซะอีก ถ้าหม่ามี้กับพี่ชายรู้เข้าล่ะก็ ต้องเสียใจมากแน่ๆ”

กมลเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ได้บอกบุริศร์เอาไว้ จึงรู้สึกผิดขึ้นมา

“แด๊ดดี้ หนูขอโทษ”

“ครั้งต่อไปห้ามทำอย่างนี้อีก เข้าใจไหม?”

เมื่อบุริศร์เห็นลูกสาวสำนึกผิด ก็ใจอ่อนและเริ่มโทษตัวเอง

เด็กชายมองภาพเบื้องหน้าอยู่ด้านข้าง จากนั้นก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “คุณอา ผมขอโทษครับ ผมพาเธอมาเอง”

“นายเป็นใคร?”

บุริศร์หันกลับมามองเด็กชาย

บุคลิกท่าทางของเด็กผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา คงไม่ใช่ลูกเต้าคนธรรมดาทั่วไปแน่ๆ

เด็กชายรีบลุกขึ้น แล้วพูดออกมาอย่างสุภาพเรียบร้อยว่า “ผมชื่อธนธี ผมเห็นน้องกมลดูเบื่อๆ ก็เลยพาออกมาเดินเล่นที่นี่ครับ”

“นี่ไอ้หนู การที่ไม่บอกคนในครอบครัวของอีกฝ่ายก่อน แล้วแอบพาลูกสาวฉันออกมาแบบนี้ เข้าข่ายลักพาตัวนะรู้ไหม?”

จริงๆแล้วบุริศร์ไม่อยากถือสาหาความกับเด็กหรอก แต่ว่าตอนนี้มันแค่อดไม่ได้เท่านั้นเอง

แค่คิดว่าลูกสาวตัวเองโดนไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้ล่อลวงเข้าให้ ในใจของเขาก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ธนธีชะงักไปนิด คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะมีชนักติดหลังใหญ่ขนาดนี้ จึงพูดเสียงเบาออกมาว่า “ขอโทษครับ ครั้งหน้าผมจะไม่ทำอีก”

“ยังคิดว่าจะมีครั้งหน้าอีกเหรอ? ฉันจะบอกให้นะ นายควรอยู่ห่างๆลูกสาวฉันหน่อย”

บุริศร์พูดพร้อมกับกระชับกอดกมลแน่นอย่างหวงแหน ราวกับกลัวว่าลูกสาวจะถูกแย่งไปอย่างไรอย่างนั้น

กมลเริ่มไม่พอใจ

“แด๊ดดี้ พี่ธนธีเป็นคนดีมากเลยนะคะ พี่เขาซื้อไอศกรีมให้หนูด้วย แต่พอรู้ว่าหนูกินไม่ได้ พี่เขาก็กลัวว่าหนูจะหิวตาม เขาก็เลยไม่กินเหมือนกัน เห็นไหม ละลายหมดแล้วเนี่ย”

เมื่อเห็นลูกสาวออกตัวแทนเด็กชายแปลกหน้ามากขนาดนี้ บุริศร์ก็ยิ่งกลัดกลุ้ม

“ลูกรู้อะไรไหม? บนโลกใบนี้จิตใจคนน่ากลัวที่สุดแล้ว ข้างนอกดูเป็นคนดี แต่ข้างในอาจจะไม่ใช่คนดีจริงๆก็ได้ อีกอย่างแค่ไอศกรีมอันเดียวก็ซื้อใจหนูได้แล้วเหรอ? เป็นผู้หญิงน่ะ ต้องรู้จักรักตัวเองรู้ไหม?”

ไม่บ่อยที่บุริศร์จะพูดกับกมลแบบนี้

กมลรู้สึกน้อยใจขึ้นมาในทันที

“แด๊ดดี้นิสัยไม่ดี! พี่ธนธีเป็นคนดี ทำไมแด๊ดดี้ต้องมาว่าพี่ธนธีอย่างนี้ด้วย? อีกอย่างพี่ธนธีก็เป่าขลุ่ยเป็น แถมยังเป่าเพราะอีกด้วย!”

ยิ่งกมลพูดออกตัวแทนธนธีเท่าไหร่ บุริศร์ก็ยิ่งไม่ชอบใจ และยิ่งรู้สึกไม่ชอบหน้าธนธีมากกว่าเดิม

“พ่อพูดคำไหนก็คำนั้น เอาล่ะ เราไปกันได้แล้ว หม่ามี๊กับพี่ของหนูรอนานแล้ว”

บุริศร์พูดพร้อมกับอุ้มกมลเตรียมจะเดินออกไป

แต่กมลกลับดิ้นแล้วกระโดดลงจากอ้อมกอดของบุริศร์ จากนั้นก็ดึงกิ๊บที่ปักอยู่บนหัวลงมา แล้วยื่นให้ธนธี

“พี่ธนธี นี่คือกิ๊บติดผมอันโปรดของฉัน ฉันให้พี่เก็บไว้ ขอบคุณที่ซื้อไอศกรีมให้ฉัน และเป่าขลุ่ยให้ฉันฟังนะ คราวหลังถ้ามีโอกาส ฉันจะตอบแทนพี่แน่ๆ”

เมื่อกมลยื่นกิ๊บติดผมของตัวเองไปให้คนอื่น มุมปากของบุริศร์ก็บิดเบี้ยว

นี่มันอะไรกัน?

“กมล!”

บุริศร์กำลังจะพูดอะไรออกมา แต่กมลกลับยัดกิ๊บใส่ในมือของธนธีอย่างรวดเร็ว แล้วหันหลังวิ่งหนีไป

เธอเป็นผีดั่งเสื้อบิน และเธอก็เป็นดั่งแสงอาทิตย์ ที่คอยนำพาความสุขและความอบอุ่นมาให้ผู้คนรอบข้าง จนทำให้ใครต่อใครต้องยิ้มออกมา

ธนธีมองตามแผ่นหลังของเธอพร้อมกับยกมุมปากขึ้น

บุริศร์ถลึงตาใส่ธนธีย่างขุ่นเคือง จากนั้นก็หันหลังเดินตามลูกสาวไป

กมลวิ่งออกมาได้ไม่ทันไร จู่ๆก็หยุดวิ่งกะทันหัน จากนั้นก็หันหลังกลับไปยิ้มให้ธนธีแล้วพูดว่า “พี่ธนธี ฉันชอบพี่นะคะ!”

คำพูดนี้ทำให้บุริศร์ทรงตัวไม่อยู่ จนเดินสะดุด

“พูดอะไรไร้สาระ? เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่รู้จักรักษากริยาท่าทางเลยหรือไง ลูกเพิ่งกี่ขวบเอง? รู้เหรอว่าชอบคืออะไร? ไปๆๆ! กลับบ้านเดี๋ยวนี้!”

บุริศร์ไม่ให้โอกาสกมลได้พูดอะไรอีกต่อไป อุ้มเธอขึ้นมาแล้วก้าวลิ่วๆเดินออกไปด้วยความเร็ว จากนั้นก็หันหลังกลับไปถลึงตาใส่ธนธีทีหนึ่ง ราวกับจะโทษว่าเป็นความผิดของธนธี

เมื่อธนธีเห็นกมลเอาแต่โบกมือให้เขาไม่หยุด ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เขายิ่งรู้สึกหวงแหนกิ๊บในมือมากขึ้นกว่าเดิม

บุริศร์อุ้มกมลเดินฉับๆออกมาจากป่าไผ่ กมลบู้ปากแล้วพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจว่า “แด๊ดดี้ วันนี้แด๊ดดี้ทำตัวไม่ดีเลย!”

“แด๊ดดี้ไม่ดี? หนูรู้เหรอว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน? หนูถึงได้ยอมตามเขาไปอย่างสบายใจอย่างนั้นน่ะ? ยัยเด็กแสบ หนูรู้ไหมว่า แด๊ดดี้กังวลจนใจแทบเต้นออกมานอกอก? เพราะไอ้เด็กนั่น หนูถึงกับว่าแด๊ดดี้ไม่ดีเลยเหรอ?”

จู่ๆบุริศร์ก็ตัดพ้อออกมาอย่างน้อยใจ

ลูกรักที่เขาเฝ้าทะนุถนอม ตอนนี้ไม่ชอบเขาแล้ว!

เพราะไอ้เด็กนั่นคนเดียว!

มันน่าโมโหซะมัด

แต่กมลก็ยังคงพูดออกมาว่า “พี่ธนธีไม่ใช่คนไม่ดีนะคะ”

“คนไม่ดีดูแค่ภายนอกไม่ได้หรอก อย่างลูกไม่เคยออกไปไหน จะไปรู้ได้ไงว่าความโหดร้ายมันเป็นยังไง?”

“ถึงยังไงพี่ธนธีก็ไม่ใช่คนไม่ดี! แด๊ดดี้ไม่ให้หนูพูดกับพี่ธนธี แด๊ดดี้นั่นแหละที่ไม่ดี! เหอะ!”

ตรรกะเด็กๆของกมลทำให้บุริศร์หมดคำจะพูด ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์

ลูกคนนี้เพิ่งกี่ขวบเอง?

หลงไอ้เด็กนั้นไม่พอ นี่ยังมาบอกว่าเขานิสัยไม่ดีอีกเหรอ?

บุริศร์พูดออกมาอย่างเจ็บปวดว่า “กมล ลูกพูดแบบนี้แด๊ดดี้เสียใจมากเลยนะ”

“แด๊ดดี้ก็ทำให้กมลเสียใจเหมือนกัน”

กมลหันหน้าหนีทันที

ในตอนนี้เอง นรมนก็โทรมาอีกครั้ง

“พวกคุณอยู่ไหนแล้ว? พวกฉันมาถึงเคเอฟซีแล้วนะ พวกคุณรีบตามมาล่ะ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น กมลก็ดีใจขึ้นมาในทันที

“หม่ามี๊กับพี่ชายอยู่เคเอฟซีเหรอ? ที่นั่นมีน่องไก่อร่อยๆด้วยใช่ไหม?”

เมื่อพูดถึงของกินดวงตาของกมลก็เป็นประกาย เห็นแบบนั้นบุริศร์ก็น้อยใจขึ้นมาอีกครั้ง

“กมล แด๊ดดี้ยังโกรธอยู่นะ!”

“ไอ้หยา หายโกรธได้แล้วน่า เราไปกินของอร่อยกันดีกว่า ไปกันค่ะแด๊ดดี้!”

กมลเขย่ามือของบุริศร์ไม่หยุด ทำให้บุริศร์ทั้งโกรธทั้งขำ

พอมาคิดว่าตัวเองโกรธเด็ก ก็รู้สึกหมดคำจะพูดจริงๆ แต่พอนึกถึงเรื่องที่กมลพูดกับเขาแบบนั้นเพียงเพราะไอ้เด็กแปลกหน้าคนนั้น เขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

“ต่อไปนี้ห้ามไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้าอีกได้ยินไหม?”

“ได้ยินแล้วค่ะ!”

เพื่อของกิน กมลยอมตอบตกลงทุกอย่าง

เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของลูกสาว บุริศร์ก็หายหงุดหงิด

เขาอุ้มกมลขึ้นมาอย่างจนใจ จากนั้นก็ตรงไปยังสถานที่ที่นรมนบอกเอาไว้

“หม่ามี๊ พี่คะ!”

ในตอนที่กมลเห็นนรมนกับกานต์ ก็ทิ้งเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะอาหารน่ารับประทานตรงหน้า ยิ่งทำให้กมลน้ำลายไหล

เมื่อเห็นท่าทางเหมือนแมวหิวโหยของลูกสาว นรมนก็ยิ้มเอ็นดูออกมา

“ไม่ต้องรีบ นี่ของแกหมดเลย!”

กานต์ดันอาหารชุดใหญ่มาไว้ตรงหน้ากมล

“ว้าว! พี่เจ๋งสุดๆไปเลย! ขอบคุณนะคะ!”

กมลพูดพร้อมกับจุ๊บแก้มของกานต์

ด้านบุริศร์ก็เอาแต่ทำหน้าตึง จนนรมนรู้สึกสงสัย

เธอใช้มือแตะบุริศร์ แล้วถามเสียงเบาว่า “คุณเป็นอะไรไป? ทะเลาะกับกมลเหรอ?”

ในความคิดของนรมน มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่ แต่ว่านอกจากเรื่องนี้แล้ว เธอก็คิดเป็นเรื่องอื่นไม่ได้เลย

เมื่อบุริศร์เห็นท่าทางเป็นห่วงของนรมน ในที่สุดก็ใจอ่อนลง

“เปล่าหรอก เมื่อกี้เพิ่งได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับเรื่องที่บริษัทน่ะ อารมณ์ก็เลยไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

“อ่อ!”

เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องที่บริษัทนรมนก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และทันทีที่หันหน้ากลับมา ก็เห็นกมลกำลังกินอาหารอย่างมูมมามจนปากเลอะคาบซอสเต็มไปหมด จนนรมนต้องขำออกมาในทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย