บทที่ 424 ให้โอกาสเธออีกครั้งหนึ่ง
รู้สึกคุ้นกับเบอร์ที่โทรเข้ามาอยู่บ้าง นรมนรู้ได้โดยปริยาย ว่าเป็นคุณนายตังเมที่โทรเข้ามา
คุณนายตังเมโทรหาเธอตอนนี้ คิดจะทำอะไรอีกนะ?
ธิดากับนาวินได้ยินเสียงมือถือ พวกเขารีบหันมาทันที จึงพบเข้ากับนรมน
“คุณนาย ทำไมคุณตื่นเช้าจังเลย? เมื่อกี้พวกเราพูดจาไร้สาระ คุณอย่าเชื่อเลยนะคะ”
ธิดาไม่รู้ว่านรมนได้ยินไปมากน้อยเพียงใด เพียงแต่มองเห็นสีหน้าของนรมนยังคงดูไม่เลว
นรมนตอบด้วยรอยยิ้ม :“ไม่เป็นไรจ๊ะ ขอบคุณพวกเธอนะ”
พูดจบ เธอหันตัวจากไป
ส่วนสายเรียกเข้าจากคุณนายตังเม เธอทำเป็นมองไม่เห็นมัน
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากให้เธอรู้ที่อยู่ของพวกเขา ถึงแม้จะเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะสืบหาเบาะแสตำแหน่งของอีกฝ่ายอีกครั้ง วันนี้เธออารมณ์ค่อนข้างดี ไม่อยากรู้สึกผิดหวังเพราะคำพูดของคุณนายตังเม
ตอนนี้สิ่งที่เธออยากทำที่สุดคือทำของอร่อยๆให้บุริศร์ทาน
ผู้ชายคนนี้นะ ไม่รู้ว่าเมื่อวานยุ่งถึงกี่โมง เพื่อเรื่องนี้ของตนเองจึงนำตระกูลโตเล็กมาเข้ากับบริษัทร่วมทุนทั้งหมด จะให้เธอทำอย่างไร?
มือถือของนรมนดังอยู่นาน ในที่สุดก็เงียบลง
เธอก็ไม่ได้สนใจมอง โยนทิ้งลงข้างๆ และเดินไปห้องครัว เพื่อทำอาหารเช้าให้บุริศร์ด้วยตนเอง
คนรับใช้เห็นสิ่งเหล่านี้จนชิน ต่างยิ้มและมาเป็นลูกมือของเธอ
เมื่อบุริศร์ลืมตาขึ้นมา เตียงก็ว่างเปล่าไปเรียบร้อย เพียงแต่ความอบอุ่นบนผ้าห่มบอกเขาว่า นรมนเพิ่งจะออกไปได้ไม่นาน
ในบรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของนรมน มันช่างหอมหวานและอบอุ่น
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นเดินไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยความอิ่มเอมใจ เปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปชั้นล่าง ก็มองเห็นผู้หญิงคนนั้นกำลังยุ่งอยู่ท่ามกลางแสงในยามเช้า
บนใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มที่แสนสงบ มันช่างมีความสุข ความสบายใจ กลายเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในยามเช้าทันที มันช่างดึงดูดบุริศร์จนถึงที่สุด
บุริศร์อดใจไม่ไหวก้าวเดินไปข้างหน้า
คนรับใช้เห็นเขาเดินมา กำลังคิดจะพูดอะไรสักอย่าง กลับถูกบุริศร์หยุดเอาไว้ แต่ละคนพากันอมยิ้มและเดินออกไป ให้โลกใบนี้เหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนสามีภรรยา
บุริศร์เข้ามากอดเธอจากด้านหลัง
นรมนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อสังเกตเห็นว่าเป็นใครที่เข้ามา ก็อดกล่าวด้วยรอยยิ้มไม่ได้:“เช้าขนาดนี้ยังจะมาสวีทกัน คุณไม่กลัวพวกคนรับใช้หัวเราะเยาะเหรอคะ?”
“ไม่กลัว ผมกอดเมียของตัวเองอยู่ ใครจะกล้าหัวเราะผม?”
บุริศร์วางคางไว้บนไหล่ของนรมนเหมือนเด็กคนหนึ่ง เมื่อเห็นอาหารทุกอย่างที่เธอทำคือของโปรดของตนเอง หัวใจของเขาละลายจนกลายเป็นแอ่งน้ำอย่างช่วยไม่ได้
“เช้าตรู่แบบนี้มีของกินอย่างเพียบพร้อมให้ผม บอกมานะ มีเรื่องอะไรปิดบังผมใช่ไหม? หรือว่ามีอะไรจะขอผม?”บุริศร์เอ่ยถามอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่นรมนกลับพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ฉันเคยคิดว่าการชอบคุณคือเรื่องที่มีความสุขที่สุดในชีวิต ไม่คิดว่าตอนนี้จะค้นพบว่า การได้รับความรักจากคุณคือเรื่องที่มีความสุขที่สุด”
นรมนไม่ค่อยพูดคำหวาน คำสารภาพที่ออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้บุริศร์ตกตะลึงไปเล็กน้อย
“เมื่อวานคุณไม่สบายหรือเปล่า?”
“ไปให้พ้นเลย!”
นรมนชายตามองเขา กล่าวเสียงเบาว่า:“คุณนายทวีทรัพย์ธาดามาพูดโน้มน้าวใจให้ฉันหย่ากับคุณ พูดตามตรงว่าฉันรู้สึกโกรธจริงๆ ตอนนั้นก็คิดว่า ถ้าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่มีอำนาจคงจะไม่มารังแกคนแบบนี้?แต่หลังจากนั้นฉันก็เข้าใจ ถึงแม้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะยากจน แต่ตราบใดที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาไม่ชอบขี้หน้าฉัน ฉันจะทำอะไรมันก็ไม่ถูกต้อง แล้วทำไมฉันจะต้องลงโทษตนเองเพราะความผิดของคนอื่นด้วยล่ะ?”
ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ บุริศร์รู้สึกได้ว่าเธอต้องรู้อะไรสักอย่าง
“ต้องการขอความเมตตาเพื่อตระกูลทวีทรัพย์ธาดา?”
“เปล่าค่ะ”
นรมนหันกลับมา บุริศร์กลับไม่ปล่อยเธอ โดยไม่ทันระวังทำให้เธอเผชิญหน้ากับตนเอง
ดวงตาคู่สดใสของเธอมองบุริศร์ด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ
“มองผมแบบนี้ คุณไม่กลัวความอยากอาหารตอนเช้าของผมดีเกินไป จนกินคุณเหรอ ?”
“ไม่กลัว!ฉันอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจของคุณ อยู่ในกำมือของคุณ จะไม่เต็มใจทำให้ฉันลำบากได้อย่างไร”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ลำบากใจเล็กน้อย
“มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูด”
“ถึงอย่างไรฉันก็คิดว่าคุณดีอยู่แล้ว ฉันได้รับความไม่เป็นธรรม ไม่เคยมาบ่นกับคุณ คุณก็แก้แค้นแทนให้ฉันเองโดยที่ไม่ได้ร้องขอ เพื่อตัดการพึ่งพาของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา คุณปิดกั้นบริษัทที่ร่วมทุนกับตระกูลโตเล็กทั้งหมด ยอมให้พ่ายแพ้ไปทั้งสองฝ่าย ส่วนคุณแม่ก็พูดถากถางคุณนายทวีทรัพย์ธาดาอย่างไม่เกรงใจ คุณกับคุณแม่ทำให้ฉันรู้สึกว่าถึงแม้ฉันจะได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างมากมาย ตราบใดที่มีพวกคุณอยู่ ฉันก็ไม่ใช่หมาหัวเน่า”
นรมนพูดไปพูดมาขอบตาแดงก่ำ
“ทำไมเป็นแบบนี้ไปล่ะเนี่ย?พูดปลุกอารมณ์ตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ คุณคิดจะให้ผมร้องไห้ให้คุณดูใช่ไหม?”
บุริศร์รีบประคองใบหน้าของนรมน และพูดด้วยรอยยิ้ม อย่างไรเสียเขาไม่สามารถปิดบังความเสน่หาที่อยู่ลึกลงไปในแววตาได้
นรมนกอดเอวของบุริศร์เอาไว้ และซุกใบหน้าเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
“บุริศร์ ชีวิตนี้ที่มีคุณอยู่มันช่างดีจริงๆ”
ประโยคนี้เหมือนกับลมที่พัดผ่านเข้าไปในจิตใจของบุริศร์ จากนั้นเกิดเป็นระลอกคลื่นอยู่พักหนึ่ง แผ่กระจายออกเป็นวงกว้าง
“เด็กโง่ คุณคือผู้หญิงของผม ถ้าผมไม่ทำเพื่อคุณแล้วจะให้ทำเพื่อใคร หื้อ?”
นรมนได้ยินเสียงหัวใจเต้นของบุริศร์ จิตใจรู้สึกสงบเป็นอย่างยิ่ง ความไม่สบายใจและความระแวงทั้งหมดในวันเหล่านั้น มลายหายไปในทันที
“คุณนายตังเมโทรหาฉัน ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ฉันสามารถฟังออก เธอต้องการฆ่าฉันกับตระกูลโตเล็ก เพื่อแก้แค้นให้กับเขมิกา ดังนั้นฉันคงไม่อาจหลุดออกไปจากข่าวฉาวได้ในระยะเวลานี้ ขอโทษด้วยค่ะ ที่เพิ่มความยุ่งยากให้กับตระกูลโตเล็ก”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์รู้สึกสงสารอย่างจับใจ
“เรื่องนี้คือความผิดของผม เพราะห้าปีก่อนผมไม่จัดการให้ดี ทำให้ตอนนี้คุณกลายเป็นฝ่ายถูกกระทำ คุณวางใจเถอะ ผมจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
“ฉันไม่กลัว ตราบใดที่ในหัวใจของคุณมีฉัน ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น บุริศร์ ขอบคุณนะคะ”
นรมนเงยหน้าขึ้น เขย่งปลายเท้า จูบลงบนริมฝีปากบางๆของบุริศร์
บุริศร์ราวกับถูกฟ้าผ่า
นรมนไม่ใช่คนที่ชอบเป็นฝ่ายเริ่มก่อน วันนี้ถูกกระทำเช่นนี้อย่างไม่ทันตั้งตัว บุริศร์บีบเอวของนรมนแน่นอย่างไม่รู้ตัว ทำให้เธอเข้ามาแนบชิดตนเองอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...