บทที่ 425 แม่คนปากแข็ง – ตอนที่ต้องอ่านของ แค้นรักสามีตัวร้าย
ตอนนี้ของ แค้นรักสามีตัวร้าย โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 425 แม่คนปากแข็ง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 425 แม่คนปากแข็ง
“คุณชายบุริศร์ คุณนาย มีคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาขอพบค่ะ”
เสียงของป้าหวานดังขึ้น
นรมนตัวแข็งเพราะคำว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดา
“จะเป็นคุณอาหรือเปล่านะ?”
คนแรกที่นรมนนึกถึงคือธรณี
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาดื้อรั้นมาก ไม่ใช่ว่าจะมาอาละวาดถึงบ้านในเวลานี้ไม่ได้ แต่ถ้าจะพูดถึงคนที่อยู่ในความรับผิดชอบจริงๆ ควรจะเป็นธรณี
คิ้วของบุริศร์ขมวดขึ้นเล็กน้อย
“ถ้าคุณไม่อยากเจอก็ไม่ต้องเจอ ในเมื่อผมเป็นคนเริ่มสงครามของตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับตระกูลโตเล็ก ผมรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับธรณี เพียงแค่คุณพูดมาคำเดียว ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์หรือการตัดสินใจแบบไหน ผมจะฟังคุณทุกอย่าง”
บุริศร์ให้อำนาจการตัดสินใจแก่นรมน
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือถ้านรมนพูดว่าครั้งนี้ต้องการเดินเกม บุริศร์จะไม่ลังเลที่จะถอนเงินทุนทั้งหมดเพื่อบีบบังคับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา
ความเคารพแบบนี้ทำให้นรมนรู้สึกซาบซึ้งอย่างไม่สามารถบรรยายได้
“ฉันไม่รู้สิ แต่ฉันก็ไม่อยากทำตามความปรารถนาของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา”
นรมนไม่อยากคิดไปไกล
บุริศร์เข้าใจทันที
เธอต้องการเพียงคำขอโทษจากคุณนายทวีทรัพย์ธาดา
“เอาเถอะ คุณเองก็เหนื่อยแล้ว พักผ่อนสักหน่อย ผมจะลงไปพบเขาเพื่อพูดเรื่องนี้”
“ค่ะ คุณเองก็อย่าโมโหมากเกินไปก็พอ”
นรมนไม่อยากลงไปเผชิญหน้ากับธรณีจริงๆ
“ทำไม่ได้!”
บุริศร์อุ้มนรมนขึ้นไปบนเตียง ห่มผ้าให้เธอ จูบลงบนหน้าผากหนึ่งที ถึงจะลุกขึ้นเดินออกไป
ความเป็นจริงในใจของนรมนรู้สึกเหมือนมีคลื่นลูกใหญ่ถาโถม เพียงแต่เธอเชื่อว่าบุริศร์จะจัดการมันได้ดี เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน จึงคลุมโปงนอนหลับไป
บุริศร์ลงมาชั้นล่าง มองเห็นธรณีมีท่าทางรีบร้อนเล็กน้อย
“เฮ้ ลมอะไรพัดคุณชายธรณีมาหาฉันถึงที่นี่?”
ตอนนี้นับว่าบุริศร์มีชีวิตชีวามากมายหลายเท่า อารมณ์กำลังดี
ธรณีตั้งใจมองไปทางด้านหลังของบุริศร์ เมื่อเขาไม่เห็นนรมน ก็รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
“นรมนล่ะ เธอสบายดีไหม?”
“ไม่ค่อยดี ช่วงนี้ร่างกายอ่อนแอมาก เมื่อวานโมโหเล็กน้อย วันนี้เลยลุกไม่ขึ้น คุณชายธรณีมาที่นี่ คงไม่ได้มาเพื่อพบภรรยาของผมใช่ไหม?ผมจำได้ว่าไม่มีการไปมาหาสู่และไมตรีจิตระหว่างตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับภรรยาของผมแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ตอนนี้ทุกคำพูดของบุริศร์มาพร้อมกับการประชดประชัน
ธรณีรู้ว่าเขารู้สึกแค้นเคือง จึงไม่ได้โต้เถียง
“ฉันรู้ว่าแม่ของฉันทำอะไรที่โง่เง่า และโกรธเคืองพวกเธอ ดังนั้นตระกูลโตเล็กต้องการทำอะไรกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ฉันก็ยอมรับมัน”
“คุณชายธรณีพูดแบบนี้ เหมือนพวกเราตระกูลโตเล็กใช้อำนาจรังแกคน ไหนเลยจะรู้ว่าพวกเราตระกูลโตเล็กคือผู้ได้รับความไม่เป็นธรรม”
บุริศร์มองธรณีอย่างเย็นชา คำที่พูดออกมาไม่หลงเหลือการให้เกียรติและไมตรีจิตระหว่างกัน
วันนี้ถูกคุณนายทวีทรัพย์ธาดาผลักเข้ามาสู่สถานการณ์ดังกล่าว ธรณีพูดอะไรไม่ออกจริงๆ
เขาถอนหายใจและกล่าวว่า:“บุริศร์ ฉันรู้ว่านายกับนรมนกำลังโกรธ และก็รู้ว่าสิ่งที่แม่ของฉันทำไม่ถูกต้อง เพียงแต่ที่ฉันมาวันนี้ เพราะต้องการให้นรมนไปหาคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ท้ายที่สุดแล้วก็คือสายเลือดเดียวกัน แม่ของฉันเธอ……”
“อย่าดีกว่า นรมนของพวกเราไม่สามารถทนต่อความโปรดปรานอะไรของพวกนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้ และไม่สามารถไปหาแม่ของนายได้ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็มีหลานสาวคอยดูแลแล้วไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดของบุริศร์ทำให้สีหน้าของธรณีดูไม่ได้ขึ้นมาอีกครั้ง
“แม่ของฉันป่วย สลบไปยังไม่ฟื้นขึ้นมา คุณหมอตรวจดูไม่พบปัญหาอะไร ฉันกำลังคิดว่า บางทีถ้านรมนไปหาอาจจะสามารถทำให้แม่ของฉันมีสติเล็กน้อย ดังนั้น……”
“ดังนั้นนายจึงมาขอร้องนรมน?คุณชายธรณี นายนี่มันเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ ครั้งก่อนคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเป็นลมหมดสติไป นรมนของครอบครัวฉันก็ไปเอายาถอนพิษกลับมาให้ โดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตนเอง เธอต้องสูญเสียอะไรไปสำหรับสิ่งนี้ พวกนายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?แต่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกนายมีใครขอบคุณเธอบ้างไหม?มากเสียจนคุณนายทวีทรัพย์ธาดาของนายไม่ชอบขี้หน้านรมน ดูถูกภรรยาของฉันต่างๆนานา ตอนนี้เธอหมดสติไปอีกครั้ง ก็มานึกถึงนรมนของพวกเรา พวกนายเห็นนรมนของพวกเราเป็นอะไร?ครั้งที่แล้วเสียลูกของพวกเราไปคนหนึ่ง ตอนนี้ต้องการให้นรมนของพวกเรามอบชีวิตให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเลยใช่ไหม พวกนายถึงจะพอใจ?”
บุริศร์พูดออกมา ธรณีรู้สึกรับไม่ได้ทันที
ทุกอย่างที่นรมนทำเพื่อคุณนายทวีทรัพย์ธาดา คิมเคยพูดแล้ว คุณนายตระกูลโตเล็กก็พูดแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่ยอมเชื่อ
ไม่เพียงแค่นั้น เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้ ยิ่งทำให้หัวใจของนรมนแหลกสลาย ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ควรจะมาขอร้องให้นรมนทำอะไร
แต่ธรณียังอยากพยายามอีกสักครั้ง
“บุริศร์ แม่ของฉันแก่มากแล้ว และยังถูกคนอื่นหลอกลวง ไม่รู้จักคนอย่างแท้จริง ฉันเชื่อว่า ไม่ช้าก็เร็วแม่ของฉันจะต้องกลับมาเข้าใจคนอย่างนรมน”
“ไม่ช้าก็เร็วคือนานแค่ไหน?สิบปี?ยี่สิบปี?ฉันทนเห็นนรมนของพวกเราได้รับความไม่เป็นธรรมมาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็พูดเองว่า นรมนของครอบครัวพวกเราไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอีกต่อไป ดังนั้นเชิญคุณชายธรณีกลับไปเถอะ ช่วงนี้นรมนสุขภาพไม่ดีมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวฉาวที่รบกวนจิตใจ จึงไม่สามารถออกไปจากประตูคฤหาสน์ได้ คุณชายธรณีไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดอีก ตระกูลโตเล็กกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว ป้าหวาน ส่งแขก!”
บุริศร์ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ถึงแม้จะเป็นไปตามที่ธรณีคาดการณ์เอาไว้ แต่ยังคงรู้สึกสลดใจอยู่บ้าง
คนในครอบครัวแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ เขารู้สึกแย่ยิ่งกว่าใครทั้งนั้น
“นายสบายใจได้ ฉันจะจัดการเรื่องของตุลยา”
คำพูดของธรณีไม่อาจทำให้บุริศร์เปลี่ยนการตัดสินใจได้สักนิดเดียว
“เรื่องของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกนาย ไม่มีความเกี่ยวข้องกับฉัน อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะปล่อยตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไป การเผชิญหน้าในโลกธุรกิจของพวกเราสองตระกูลยังคงไม่จบลง หวังว่าคุณชายธรณีจะสามารถประคับประคองไปได้ถึงตอนสุดท้ายก็ดี”
บุริศร์พูดจบอย่างเยือกเย็น ป้าหวานตรงเข้ามาส่งแขก
ธรณีทำอะไรไม่ได้ เหลือบมองไปทางห้องนอนบนชั้นสอง ถึงจะถอนหายใจและเดินออกไป
ถึงแม้นรมนจะอยากนอนหลับ แต่พลิกตัวไปพลิกตัวมา ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ เห็นได้ชัดว่าร่างกายเหนื่อยล้ามาก แต่จิตวิญญาณกลับตื่นตัวอย่างผิดปกติ
บุริศร์แตะหน้าผากของนรมนเบาๆ และกล่าวด้วยรอยยิ้ม:“เอาล่ะ รีบลงไปกินข้าวดีกว่า ไม่อย่างนั้นท้องของคุณคงร้องจ๊อกๆอีกแน่”
“คนบ้า!”
นรมนผลักเขาออก จากนั้นรีบสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย
เธอเพิ่งจะก้าวลงมาที่พื้น ขาก็อ่อนไปหมด จนเกือบล้มลงบนพื้น
บุริศร์หัวเราะยกใหญ่ อุ้มนรมนขึ้นมาภายใต้แววตาที่โกรธเกรี้ยวของเธอ
“คุณปล่อยฉันลงนะ ฉันจะไม่ลงไปกินข้างล่างแล้ว ฉันจะกินในห้อง”
“เอาล่ะ อย่าพูดอะไรโง่ๆ ถ้าคุณเอาแต่อยู่ในห้องตลอด พวกเขาจะยิ่งคิดกันไปใหญ่”
บุริศร์อารมณ์ค่อนข้างดี เขาอุ้มนรมนที่เขินอายลงมาชั้นล่าง
คนรับใช้เตรียมอาหารเสร็จเรียบร้อย เมื่อมองเห็นบุริศร์อุ้มนรมนลงมา ต่างหลบไปด้วยรอยยิ้ม
นรมนรู้สึกว่าตนเองน่าจะเป็นนายหญิงคนแรกที่คนรับใช้รู้สึกน่าขำ
ทั้งสองคนมาถึงห้องรับประทานอาหาร นรมนถึงพบว่า เดิมทีทั้งหมดที่เธอเตรียมคือของโปรดของบุริศร์ แต่ตอนนี้มีของโปรดเธอมากมาย
“คุณสั่งให้คนทำเหรอ?”
“รีบกินเถอะ ไม่ได้หิวมาสักพักแล้วเหรอ?”
บุริศร์ไม่ได้ตอบคำถามโดยตรง แต่นรมนรู้คำตอบแล้ว
“กินข้าวเสร็จคุณยังต้องเข้าบริษัทใช่ไหมคะ?”
“ใช่”
บุริศร์รู้ว่านรมนกำลังกังวลเรื่องอะไร เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม:“สบายใจได้ ผมไม่กลับมาดึกหรอก จะไม่ทำให้ตนเองเหนื่อยเกินไป สำหรับบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดของตระกูลโตเล็ก ผมไม่อาจไม่สนใจทั้งหมดได้ ดังนั้นผมจะทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่าต้องการทำให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่สามารถตั้งหลักได้ในเมืองชลธี เพียงแต่หวังให้คุณนายทวีทรัพย์ธาดามองเห็นสถานการณ์ชัดเจน ไม่มาทำตัวตามใจชอบกับคุณอีก เพียงแค่เธอกล่าวขอโทษ และรับปากว่าต่อจากนี้จะไม่รบกวนคุณ ทำให้คุณเจ็บปวด หรือบีบบังคับคุณอีก ผมก็จะหยุด ดีไหมครับ?”
นรมนเห็นบุริศร์พูดทุกอย่างมาถึงตรงนี้ จึงไม่มีความคิดเห็นใดไปโดยปริยาย
“แล้วแต่คุณเลยค่ะ”
“รีบกินเถอะ”
บุริศร์ลูบศีรษะของนรมน เธอไม่สามารถทนต่อสายตาที่เอาอกเอาใจนั้นได้เลย
อะไรคือคุณธรรมอะไรคือความสามารถ ไม่นึกเลยว่าจะมีสามีแบบนี้
ทั้งสองกินอาหารกลางวันอย่างหวานชื่น กลับมีเสียงรถยนต์จากด้านนอก
นี่ใครมาอีกเนี่ย?
คิ้วของบุริศร์ขมวดขึ้นเล็กน้อย
เขาแค่อยากกินข้าวกับนรมน ทำไมมันยากเย็นแบบนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...