บทที่ 432 ตกลงแล้วเป็นใครกันแน่
ทั้งหมดนี้เป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามจิตใต้สำนึกของตุลยาทั้งสิ้น
แววตาของธรณีเย็นชาเกินไป คล้ายกับแสงเอาไว้ด้วยความต้องการฆ่า ราวกับว่าอยากจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ เสียตั้งแต่ตอนนี้
ตุลยาส่ายหน้าทันที
“ไม่ใช่ฉันนะคะคุณอาเล็ก ไม่ใช่ฉันนะ!”
นรมนเห็นสภาพเธอแบบนี้แล้ว ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “เลิกประวิงเวลากันได้แล้ว คิดจะปล่อยให้คนของพวกคุณขับรถออกไปอย่างนั้นเหรอ เธอจะบอกว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกเธอไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ ละก็ ให้พวกเราดูหน่อยจะเป็นไรไป”
คำพูดนี้ทำให้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาโมโหจนเกือบจะด่านรมนออกมาอีกหลายประโยค ทว่ากลับถูกธรณีห้ามไว้
“ได้ ฉันจะพาพวกเธอเข้าไป!”
ทันทีที่ธรณีพูดจบ ก็ไม่มีใครกล้าทำตัวชักช้าอีก รีบพากันหลีกทางให้ทันที
แม้ว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดากับตุลยาจะไม่ยินดีนัก แต่ตอนนี้ก็ทำได้เพียงต้องตามพวกธรณีเข้าไป
ร่างกายของนรมนสั่นสะท้าน เหงื่อไหลชุ่มฝ่ามือทั้งสองข้าง
เธอภาวนาให้รถและลูกของเธอยังคงอยู่ที่นี่ จะได้พาลูกกลับไปเสียที แต่อีกใจหนึ่งเธอก็กลัวว่าทั้งรถและลูกของเธอจะอยู่ที่นี่จริงๆ
ถ้าหากตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นคนทำเรื่องพวกนี้จริงๆ เธอจะมีหน้าไปพบกับลูกของตัวเอง และเผชิญหน้ากับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาต่อไปได้ยังไง
บุริศร์รับรู้ได้ถึงความสับสนวุ่นวายในหัวใจของเธอตอนนี้ดี จึงกุมมือเธอเอาไว้แน่นแล้วพูดว่า “มีผมอยู่คุณไม่จำเป็นต้องกลัว”
“ค่ะ!”
ทั้งสองคนประคองกันเข้าไปในสวนด้านหลังของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาตลอดทาง
รถคันคุ้นตาปรากฏต่อหน้าทุกคน
สีหน้าของนรมนไม่น่ามองขึ้นมาทันที
“คุณชายธรณีพอจะอธิบายให้ฉันฟังได้ไหมคะ ว่านี่มันเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
ธรณีมองไปยังรถตรงหน้า และเคลื่อนสายตาลงไปบนล้อรถที่เปื้อนด้วยโคลนสดใหม่ เห็นได้ชัดว่าเป็นดินทรายที่มาจากแถบทะเล ทันใดนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี
“ตกลงแล้วเป็นใครกันแน่”
ธรณีโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว
เขาให้โอกาสผู้หญิงทั้งสองคนนี้แล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเธอจะยังเอาแต่โกหกเขาแบบนี้!
พวกเธอคิดว่าบุริศร์กับนรมนไม่กล้าจะทำอะไรจริงๆ อย่างนั้นเหรอ
แต่คนที่ทำให้เขาปวดใจมากที่สุดกลับเป็นแม่ของเขาเอง ไม่ว่าอย่างไรกมลก็ยังเคยถือว่าเป็นหลานสาวของเธอ ทำไมถึงได้ไร้หัวใจแบบนี้กันนะ
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาไม่เคยเห็นธรณีโมโหมากขนาดนี้มาก่อน จึงตกใจกลัวไปชั่วขณะ ตุลยากอดคุณนายทวีทรัพย์ธาดาแน่นเสียยิ่งกว่าเดิม เธอกลัวจนร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วพูดออกมาว่า “คุณอาเล็กคะ พวกเราไม่ได้ทำจริงๆ นะคะ พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง ไม่ได้แม้แต่จะก้าวออกจากประตูบ้านด้วยซ้ำ พ่อบ้านเป็นพยานให้พวกเราได้ อาจจะเป็นพวกเขาที่ตั้งใจยัดของกลางเพื่อใส่ร้ายพวกเราก็ได้!”
“ยัดของกลางเพื่อใส่ร้ายอย่างนั้นเหรอ คนของตระกูลโตเล็กมีความสามารถขนาดที่ปล่อยให้คนขับรถเข้ามาในตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกเราได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คนในตระกูลของพวกเราล้วนกินอุจจาระกันทั้งนั้นใช่ไหมถึงได้ปล่อยให้คนนอกขับรถเข้ามาได้ตามใจ จะว่าไปแล้วนี่มันรถของใครกัน ถ้าฉันเดาไม่ผิดละก็ เป็นรถที่ฉันเอาไว้ให้เธอกับแม่ใช้เป็นกรณีพิเศษไม่ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นพวกเธอก็บอกฉันมาสิว่า ตระกูลโตเล็กมีความสามารถขนาดไหนที่สามารถทำให้รถของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาพวกเราไปสร้างเรื่องที่ตระกูลโตเล็กของพวกเขาได้”
ธรณีถูกจุดติดแล้วจริงๆ ไฟในอกของเขายังคงลุกโชนอย่างต่อเนื่อง
เมื่อก่อนนี้ไม่ว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาจะทำเรื่องโง่งมอะไรลงไป เขาก็รู้สึกว่าไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรมากมาย จึงปิดตาข้างเปิดตาข้างมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะผิดไปแล้ว และเป็นการทําผิดครั้งใหญ่มากด้วย!
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาและตุลยาถูกคำพูดย้อนถามของธรณีทำให้พูดไม่ออก
“พวกเราจะไปรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พวกเราก็ไม่ได้ทำจริงๆ นี่นา! คนแก่อย่างฉันถูกพวกแกทำให้โมโหจนหน้ามืดตาลายไปหมดแล้ว เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาเมื่อกี้นี้เอง จะไปทำอะไรได้ ตุลยาก็อยู่กับฉันตลอดเวลา ทั้งยังมีอำนาจสั่งการคนในตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเสียที่ไหน ไม่ว่าใครก็ฟังแต่แกทั้งนั้น มีสักกี่คนกันที่ยอมฟังยัยหนูตุลยาบ้าง”
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาอ้าปากพูดออกมาพลางเฉลิมตามองนรมนอย่างเหี้ยมโหด
หัวใจของนรมนแตกละเอียด
รถอยู่ที่นี่ แล้วกมลอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า
เธอรู้ดีว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาและตุลยาไม่มีทางที่จะยอมรับเรื่องนี้แน่ ถึงตอนนี้จะเจอรถแล้ว แต่หัวใจของเธอก็ยังไม่สงบ
“ไม่ว่าพวกคุณจะพูดอะไร ฉันก็แค่ต้องการที่จะเห็นลูกสาวของฉันปรากฏตัวต่อหน้าฉันอย่างปลอดภัย ฉันจะพูดอีกครั้ง ถ้าหากเรียกให้เด็กออกมาตั้งแต่ตอนนี้ ฉันก็จะทำเป็นว่าไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วพาคนทั้งหมดกลับไปทันที แต่ถ้าหากไม่ได้ละก็ ฉันก็จะแจ้งความแล้วนะ!”
ร่างกายของนรมนสั่นสะท้าน สีหน้าซีดขาวจนน่ากลัว
กมลเป็นดั่งชีวิตจิตใจของเธอ ตอนนี้ไม่มีข่าวคราวอะไรเลยสักอย่าง เธอเป็นกังวลใจมากจริงๆ
พอได้ยินว่าจะแจ้งความ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็กำเริบเสิบสานขึ้นมาทันที
“ก็แจ้งสิ! ถ้ามีความสามารถก็แจ้งเลย! ฉันจะรอดูซิว่าตำรวจมาแล้วจะจับใครระหว่างพวกเราหรือพวกเธอ ค่ำมืดขนาดนี้ แต่พวกเธอกลับพาคนจำนวนมากบุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่เกรงกลัวแม้กระทั่งพวกเรา ฉันก็อยากจะลองถามตำรวจดูเหมือนกันว่า เมืองชลธีแห่งนี้กลายเป็นอาณาเขตของตระกูลโตเล็กไปแล้วใช่หรือเปล่า!”
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเป็นตัวอย่างของการราดน้ำมันลงบนกองไฟ คงกลัวว่าเรื่องจะใหญ่ไม่พอ
นรมนโมโหจนตัวสั่นระริก อยากจะจัดการกับยายแก่คนนี้จนแทบทนไม่ไหว แต่เธอทำไม่ได้
ธรณีนวดขมับพลางกล่าวว่า “ถ้าพวกแม่ทำจริงๆ ก็รีบพาเด็กออกมาเถอะครับ นี่ก็ใกล้จะสองทุ่มแล้ว เด็กๆ ควรจะพักผ่อนได้แล้ว”
พอได้ยินธรณีพูดแบบนี้ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็โมโหขึ้นมาทันที
“แกยังคิดว่าพวกเราทำอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ แกนี่มันสาระเลวจริงๆ ใช่สิ ไม่ว่านรมนจะพูดอะไรแกก็เชื่อทั้งนั้น ฉันพูดอะไรแกก็ไม่มีทางจะเชื่อ สรุปแล้วฉันหรือนางนั่นกันแน่ที่เป็นแม่ของแก”
แต่ตอนนี้ไม่ว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาราจะพูดอะไร ธรณีก็รู้สึกว่าเธอพยายามที่จะปกปิดทั้งนั้น
เขาผิดหวังกับสองคนนี้มากจริงๆ
เมื่อได้เห็นสายตาของธรณี คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็รู้สึกเจ็บเหมือนถูกแทงลงไปที่หัวใจอีกครั้ง
“แกไม่เชื่อแม่อย่างนั้นเหรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...