แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 433

สรุปบท บทที่ 433 อย่าถือว่าอาวุโสกว่า แล้วจะมาดูถูกคนรุ่นหลังยังไงก็ได้: แค้นรักสามีตัวร้าย

สรุปตอน บทที่ 433 อย่าถือว่าอาวุโสกว่า แล้วจะมาดูถูกคนรุ่นหลังยังไงก็ได้ – จากเรื่อง แค้นรักสามีตัวร้าย โดย เมียวเมียว

ตอน บทที่ 433 อย่าถือว่าอาวุโสกว่า แล้วจะมาดูถูกคนรุ่นหลังยังไงก็ได้ ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง แค้นรักสามีตัวร้าย โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 433 อย่าถือว่าอาวุโสกว่า แล้วจะมาดูถูกคนรุ่นหลังยังไงก็ได้

สภาพของนรมนในตอนนี้เรียกได้ว่าพังยับเยิน

นี่เป็นครั้งแรกที่ธรณีได้เห็นนรมนเป็นแบบนี้ เพราะถึงแม้ครั้งก่อนเธอจะแท้งลูกไป เขาก็ไม่เคยเห็นนรมนตกอยู่ในสภาพนี้

จึงอดที่จะเจ็บปวดและเศร้าโศกไม่ได้

“นรมน เรื่องนี้ฉันจะตรวจสอบให้ชัดเจนอย่างแน่นอน เธอวางใจได้!”

ธรณีเดินเข้าไปพูดกับนรมน ทว่ากลับกลายเป็นการกระตุ้นยิ่งกว่าเดิม

“ตรวจสอบอะไรอีกคะ ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นคนทำ ลูกของฉันไม่เป็นอะไรก็ดีไป แต่ถ้าหากเป็นอะไรขึ้นมาละก็ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ฉันก็จะทำให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกคุณต้องชดใช้”

นรมนในตอนนี้ราวกับผีสาวที่คืนชีพขึ้นมาจากขุมนรก ดูเหี้ยมโหดจนน่าหวาดผวา

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็พูดขึ้นมาอย่างโมโหเช่นกันว่า “เธอไม่มีความสามารถในการดูแลลูกของตัวเองให้ดีๆ เอง พอลูกหายก็มาสร้างความวุ่นวายที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเรา เธอไปหน้าใหญ่มาจากไหนกัน เธอบอกว่าเป็นคนของตระกูลเราก็ต้องเป็นคนของตระกูลเราทำแล้วอย่างนั้นเหรอ เธอมีหลักฐานไหมล่ะ ก็แค่มีรถคันหนึ่งปรากฏอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ของพวกเธอเอง หรือว่าพวกเราไม่มีสิทธิ์ไปที่ชายทะเลอย่างนั้นเหรอ ทะเลผืนนี้เป็นของตระกูลโตเล็กหมดเลยหรือยังไง จะเผด็จการมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าหากพวกเธอมีหลักฐานที่บอกได้ว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกเราลักพาตัวเด็กไป พวกเราจะไม่ปฏิเสธสักคำ แล้วตอนนี้หลักฐานอยู่ไหนล่ะ หลักฐานล่ะ”

พอต้องมาเผชิญหน้ากับการบีบบังคับของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา นรมนก็แทบจะเป็นลมหมดสติไปในทันที

ถึงตอนนี้แล้วคุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ยังจะเล่นลูกไม้กับพวกเขาอยู่อีกงั้นเหรอ

บุริศร์เห็นว่านรมนใกล้จะระเบิดเต็มที จึงรีบเข้าไปกอดเธอเอาไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่า “พวกเรากลับกันก่อนเถอะนะ ไว้ค่อยๆ ปรึกษาหารือกัน ผู้หญิงคนนั้นพูดไม่ผิด พวกเราไม่มีหลักฐานจริงๆ ถนนตรงนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด ถึงเราจะบอกว่าเป็นรถของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ทว่าความจริงแล้วนั้นแล้วก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรพวกเขาได้เลย”

“แต่ว่าลูกของพวกเรา...”

“เชื่อผมนะ ผมจะต้องพาลูกของเรากลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้ ผมสัญญา!”

คำสัญญาของบุริศร์ไม่อาจทำให้นรมนมั่นใจได้ เธอรู้ว่าบุริศร์จะต้องพยายามตามหาลูกอย่างสุดชีวิตแน่นอน แต่เธอก็ยังกังวลมากอยู่ดี

เมื่อธรณีเห็นว่าเรื่องราวทั้งหมดพัฒนามาจนถึงขั้นนี้แล้ว เขาจึงกล่าวออกมาอย่างค่อนข้างที่จะลำบากใจว่า “ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกเราจะต้องสืบสวนเรื่องนี้ให้กระจ่าง และจะต้องมอบคำอธิบายให้พวกเธอได้อย่างแน่นอน ”

นรมนไม่ได้สนใจธรณีสักนิด

บุริศร์มองไปทางธรณีแล้วพูดว่า “คุณชายธรณี สำหรับเรื่องนี้พวกเราไม่ได้ก่อความวุ่นวายโดยไร้เหตุผล ใจคุณเองก็รู้ดี มีหลายเรื่องที่ทุกคนรู้ไส้รู้พุงกันอย่างชัดเจน ทว่าก็ไม่อยากจะฉีกหน้ากันจริงๆ แต่หากตระกูลทวีทรัพย์ธาดายังคงแตะขีดจํากัดของพวกเราซ้ำๆ เช่นนั้นตระกูลโตเล็กก็ไม่ใช่พระใช่เจ้า ผมให้เวลาพวกคุณสองวัน หากผ่านไปสองวันแล้วยังไม่ได้เห็นลูกสาวของผมกลับมาอย่างปลอดภัยละก็ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอโทษไว้เลยแล้วกัน”

พูดจบบุริศร์ก็ดึงตัวนรมนออกไป

“เดี๋ยวก่อน!”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาตะโกนหยุดพวกเขาไว้

“พวกเธอคิดว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเราเป็นอะไร คิดจะไปก็ไปคิดจะมาก็มาอย่างนั้นเหรอ นรมนยังต้องคุกเข่าขอโทษฉันสำหรับเรื่องในวันนี้! ไม่อย่างนั้นแล้วก็ฉันจะดูซิว่าใครยังสามารถออกไปจากที่นี่ได้อีก!”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาในตอนนี้บีบคั้นกันเกินไปแล้วจริงๆ

สีหน้าของบุริศร์ไม่น่ามองขึ้นมาในทันที

“คุณบอกให้ใครคุกเข่าขอโทษนะ”

“นรมน!”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเพิ่งจะพูดจบ บุริศร์ก็เขวี้ยงกริชในมือแฉลบผ่านใบหูของเธอทันที

“คุณย่าคะ!”

ตุลยาตกใจกลัวจนแข้งขาอ่อน

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันรู้ว่าบุริศร์จะลงมืออย่างกะทันหันแบบนี้ สัมผัสได้เพียงกระแสลมเย็นๆ ที่พัดผ่านข้างแก้ม

เส้นผมยาวสลวยปอยหนึ่งร่วงหล่นลงมากองอยู่ข้างเท้า

“คนที่สามารถทำให้ภรรยาของผมคุกเข่าให้ได้ยังไม่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ อย่าถือว่าอาวุโสกว่า แล้วจะมาดูถูกคนรุ่นหลังยังไงก็ได้ ถ้าหากครั้งหน้ามือผมสั่นอีกสักนิด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแม่นขนาดไหน”

บุริศร์พูดจบก็ให้คนไปเก็บกริชด้ามนั้นกลับมา จากนั้นก็พานรมนออกไปจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดา

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาหวาดผวาจนต้องทรุดลงไปนั่งอยู่บนพื้น หลายปีมานี้เธอใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการถูกผู้คนสรรเสริญเยินยอมาโดยตลอด เคยถูกคนข่มขู่แบบนี้เสียที่ไหน

ถ้าหากกริชเล่มนั้นขยับเข้ามาใกล้อีกนิดละก็…

เธอไม่กล้าจะคิดเลยจริงๆ

เหงื่อเย็นๆ ไหลลงมาจากหน้าผากอย่างไม่ขาดสาย ผ่านไปเนิ่นนานแล้วคุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้

ธรณีก็ตกใจเช่นกัน

เขาเคยได้ยินมาตลอดว่าบุริศร์เครียดโหดไร้ปรานีราวกับเป็นพญายมราช เดิมทีคิดว่าเป็นเพียงคำสรรเสริญจากผู้อื่นเท่านั้น แต่เมื่อกี้นี้เขาสัมผัสถึงจิตสังหารอันรุนแรงของบุริศร์ได้จริงๆ

หลังจากที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาดึงสติกลับมาได้ก็น้ำตาไหลไม่หยุด

“แกนี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ! พวกเราอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแท้ๆ แต่กลับต้องมาถูกคนชั่วอย่างบุริศร์จะพลิกไปมาตามใจยังไงก็ได้ หรือต่อให้แม่ของแกอย่างฉันถูกเขาฆ่าตาย แกก็คงไม่ทำอะไรอยู่ดีอย่างนั้นสินะ”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาโยนความโกรธแค้นที่มีอยู่เต็มอกไปไว้ที่ธรณี

สมองของธรณีชาติจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ตอนนี้เขากำลังมองไปยังรถที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นก็หันมองตุลยาที่ถูกทำให้ตกใจจนโง่งมไปแล้วอีกครั้ง แล้วจึงรีบให้คนเข้าไปประคองผู้เป็นแม่กับตุลยาเข้าไปในห้อง

“ส่งคนไปตรวจสอบด้วยว่าความจริงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาร่องรอยของเด็กคนนั้นมาให้ได้”

หลังจากที่ธรณีออกคำสั่งครั้งใหญ่ คนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทั้งหมดก็เริ่มระดมพลทันที

ฝั่งของนรมนที่ถูกบุริศร์พาตัวออกมายังคงเต็มไปด้วยความกังวลใจ

ตุลยาตกใจมากจนเห็นได้ชัด

ตังเมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าหากฉันทำจริงๆ จะปล่อยให้คนสืบไปถึงตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกเธอได้ยังไง”

“ถ้าไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ฉัน แล้วเป็นใครกันล่ะ หรือว่าเป็นคุณนายทวีทรัพย์ธาดาจริงๆ”

ตุลยาร้อนใจขึ้นมาบ้างแล้ว

ตังเมกลับกล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “ไม่ว่าจะเป็นใคร เรื่องนี้ก็เป็นประโยชน์ต่อพวกเราไม่น้อย ลูกสาวของนรมนหายตัวไป ตระกูลโตเล็กกับบุริศร์ต้องวุ่นวายมากแน่ๆ ฉันขอใช้โอกาสนี้ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ หน่อยก็แล้วกัน”

“เธอจะทำอะไรน่ะ”

“ไม่ใช่ว่าเธออยากจะได้ตระกูลโตเล็กหรอกเหรอ ตอนนี้ก็ได้โอกาสพอดีเลย ฉวยโอกาสตอนที่พวกเขากำลังตามหาตัวเด็กและมุ่งความสนใจไปที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา พวกเราก็สามารถไปที่ตระกูลโตเล็กได้แล้ว”

“ไปที่ตระกูลโตเล็กทำไม ทำแบบนั้นไม่ใช่เป็นการส่งตัวเองไปตายหรอกเหรอ”

“เธอนี่มันโง่จริงๆ คงไม่รู้สินะ ตระกูลโตเล็กมีคลังสมบัติอยู่ข้างในบ้านใหญ่ ทว่ายังไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัด ตอนนี้ตระกูลโตเล็กกำลังยุ่งวุ่นวาย เธอสามารถใช้โอกาสนี้ไปที่ตระกูลโตเล็กแล้วจับไอ้เจ้าเด็กบ้ากิจจานั่นออกมา ฉันอยากรู้อะไรบางอย่างจากเด็กนั่น”

“ยายบ้านี่! ที่แท้เธอก็เอาแต่สนใจเรื่องนี้นี่เอง ถึงว่าล่ะจะเป็นจะตายอย่างไรก็จะให้เขมิกาเข้าไปอยู่ในตระกูลโตเล็กให้ได้ ที่แท้ก็หวังในคลังสมบัติของตระกูลโตเล็กสินะ”

น้ำเสียงของบุริศร์เย็นเยียบ

นรมนได้ยินแบบนี้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า “ตระกูลโตเล็กมีคลังสมบัติจริงๆ อย่างนั้นเหรอคะ ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลย”

“คุณจะไปรู้อะไร คุณรู้แค่ว่าตัวเองชอบผม หลังจากแต่งเข้ามาในตระกูลโตเล็กแล้วก็เอาแต่ใช้ชีวิตเพื่อผม มีเวลาไปสนใจว่าตระกูลโตเล็กมีอะไรบ้างเสียที่ไหน”

คำพูดนี้ของบุริศร์ทำให้นรมนหมดคำจะพูด แต่เขาก็พูดถูกจริงๆ

ตังเมยังคงยุยงปลุกปั่นตุลยาต่อไป

“ถ้าหากพบคลังสมบัติของตระกูลโตเล็กจริงๆ ละก็ พวกเราก็แบ่งกันห้าสิบห้าสิบ ตระกูลโตเล็กตั้งอยู่ที่นั่นมาหลายปีขนาดนี้แล้ว เดิมทีคิดว่าถ้าเธอได้แต่งเข้าไป ก็คงพอจะรู้อะไรบ้าง ตอนนี้ดูท่าแล้วคงไม่มีทางเป็นไปได้ ทำได้เพียงต้องฉวยโอกาสตอนที่กำลังวุ่นวายนี้จับตัวเจ้าเด็กกิจจาหน้าเหม็นนั่นออกมา”

“แต่ว่าลูกสาวของนรมนไม่ได้อยู่กับเธอจริงๆ เหรอ”

ตุลยายังคงพัวพันอยู่กับคำถามนี้

ตังเมส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ก็ไม่น่ะสิ ฉันไม่เคยมีโอกาสได้แตะต้องลูกของยายนรมนเลยสักนิด แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ช่วยพวกเราเอาไว้ได้มากเลยทีเดียว”

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันอยู่ ทางฝั่งของบุริศร์ก็มีข้อความปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ

“ได้แล้ว! พบที่อยู่ของตังเมแล้ว”

คำพูดนี้ของบุริศร์ทำให้จิตวิญญาณของนรมนกลับมาฮึกเหิมในทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย