บทที่ 433 อย่าถือว่าอาวุโสกว่า แล้วจะมาดูถูกคนรุ่นหลังยังไงก็ได้
สภาพของนรมนในตอนนี้เรียกได้ว่าพังยับเยิน
นี่เป็นครั้งแรกที่ธรณีได้เห็นนรมนเป็นแบบนี้ เพราะถึงแม้ครั้งก่อนเธอจะแท้งลูกไป เขาก็ไม่เคยเห็นนรมนตกอยู่ในสภาพนี้
จึงอดที่จะเจ็บปวดและเศร้าโศกไม่ได้
“นรมน เรื่องนี้ฉันจะตรวจสอบให้ชัดเจนอย่างแน่นอน เธอวางใจได้!”
ธรณีเดินเข้าไปพูดกับนรมน ทว่ากลับกลายเป็นการกระตุ้นยิ่งกว่าเดิม
“ตรวจสอบอะไรอีกคะ ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นคนทำ ลูกของฉันไม่เป็นอะไรก็ดีไป แต่ถ้าหากเป็นอะไรขึ้นมาละก็ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ฉันก็จะทำให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกคุณต้องชดใช้”
นรมนในตอนนี้ราวกับผีสาวที่คืนชีพขึ้นมาจากขุมนรก ดูเหี้ยมโหดจนน่าหวาดผวา
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็พูดขึ้นมาอย่างโมโหเช่นกันว่า “เธอไม่มีความสามารถในการดูแลลูกของตัวเองให้ดีๆ เอง พอลูกหายก็มาสร้างความวุ่นวายที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเรา เธอไปหน้าใหญ่มาจากไหนกัน เธอบอกว่าเป็นคนของตระกูลเราก็ต้องเป็นคนของตระกูลเราทำแล้วอย่างนั้นเหรอ เธอมีหลักฐานไหมล่ะ ก็แค่มีรถคันหนึ่งปรากฏอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ของพวกเธอเอง หรือว่าพวกเราไม่มีสิทธิ์ไปที่ชายทะเลอย่างนั้นเหรอ ทะเลผืนนี้เป็นของตระกูลโตเล็กหมดเลยหรือยังไง จะเผด็จการมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าหากพวกเธอมีหลักฐานที่บอกได้ว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกเราลักพาตัวเด็กไป พวกเราจะไม่ปฏิเสธสักคำ แล้วตอนนี้หลักฐานอยู่ไหนล่ะ หลักฐานล่ะ”
พอต้องมาเผชิญหน้ากับการบีบบังคับของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา นรมนก็แทบจะเป็นลมหมดสติไปในทันที
ถึงตอนนี้แล้วคุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ยังจะเล่นลูกไม้กับพวกเขาอยู่อีกงั้นเหรอ
บุริศร์เห็นว่านรมนใกล้จะระเบิดเต็มที จึงรีบเข้าไปกอดเธอเอาไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่า “พวกเรากลับกันก่อนเถอะนะ ไว้ค่อยๆ ปรึกษาหารือกัน ผู้หญิงคนนั้นพูดไม่ผิด พวกเราไม่มีหลักฐานจริงๆ ถนนตรงนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด ถึงเราจะบอกว่าเป็นรถของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ทว่าความจริงแล้วนั้นแล้วก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรพวกเขาได้เลย”
“แต่ว่าลูกของพวกเรา...”
“เชื่อผมนะ ผมจะต้องพาลูกของเรากลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้ ผมสัญญา!”
คำสัญญาของบุริศร์ไม่อาจทำให้นรมนมั่นใจได้ เธอรู้ว่าบุริศร์จะต้องพยายามตามหาลูกอย่างสุดชีวิตแน่นอน แต่เธอก็ยังกังวลมากอยู่ดี
เมื่อธรณีเห็นว่าเรื่องราวทั้งหมดพัฒนามาจนถึงขั้นนี้แล้ว เขาจึงกล่าวออกมาอย่างค่อนข้างที่จะลำบากใจว่า “ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกเราจะต้องสืบสวนเรื่องนี้ให้กระจ่าง และจะต้องมอบคำอธิบายให้พวกเธอได้อย่างแน่นอน ”
นรมนไม่ได้สนใจธรณีสักนิด
บุริศร์มองไปทางธรณีแล้วพูดว่า “คุณชายธรณี สำหรับเรื่องนี้พวกเราไม่ได้ก่อความวุ่นวายโดยไร้เหตุผล ใจคุณเองก็รู้ดี มีหลายเรื่องที่ทุกคนรู้ไส้รู้พุงกันอย่างชัดเจน ทว่าก็ไม่อยากจะฉีกหน้ากันจริงๆ แต่หากตระกูลทวีทรัพย์ธาดายังคงแตะขีดจํากัดของพวกเราซ้ำๆ เช่นนั้นตระกูลโตเล็กก็ไม่ใช่พระใช่เจ้า ผมให้เวลาพวกคุณสองวัน หากผ่านไปสองวันแล้วยังไม่ได้เห็นลูกสาวของผมกลับมาอย่างปลอดภัยละก็ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอโทษไว้เลยแล้วกัน”
พูดจบบุริศร์ก็ดึงตัวนรมนออกไป
“เดี๋ยวก่อน!”
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาตะโกนหยุดพวกเขาไว้
“พวกเธอคิดว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเราเป็นอะไร คิดจะไปก็ไปคิดจะมาก็มาอย่างนั้นเหรอ นรมนยังต้องคุกเข่าขอโทษฉันสำหรับเรื่องในวันนี้! ไม่อย่างนั้นแล้วก็ฉันจะดูซิว่าใครยังสามารถออกไปจากที่นี่ได้อีก!”
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาในตอนนี้บีบคั้นกันเกินไปแล้วจริงๆ
สีหน้าของบุริศร์ไม่น่ามองขึ้นมาในทันที
“คุณบอกให้ใครคุกเข่าขอโทษนะ”
“นรมน!”
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเพิ่งจะพูดจบ บุริศร์ก็เขวี้ยงกริชในมือแฉลบผ่านใบหูของเธอทันที
“คุณย่าคะ!”
ตุลยาตกใจกลัวจนแข้งขาอ่อน
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันรู้ว่าบุริศร์จะลงมืออย่างกะทันหันแบบนี้ สัมผัสได้เพียงกระแสลมเย็นๆ ที่พัดผ่านข้างแก้ม
เส้นผมยาวสลวยปอยหนึ่งร่วงหล่นลงมากองอยู่ข้างเท้า
“คนที่สามารถทำให้ภรรยาของผมคุกเข่าให้ได้ยังไม่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ อย่าถือว่าอาวุโสกว่า แล้วจะมาดูถูกคนรุ่นหลังยังไงก็ได้ ถ้าหากครั้งหน้ามือผมสั่นอีกสักนิด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแม่นขนาดไหน”
บุริศร์พูดจบก็ให้คนไปเก็บกริชด้ามนั้นกลับมา จากนั้นก็พานรมนออกไปจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดา
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาหวาดผวาจนต้องทรุดลงไปนั่งอยู่บนพื้น หลายปีมานี้เธอใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการถูกผู้คนสรรเสริญเยินยอมาโดยตลอด เคยถูกคนข่มขู่แบบนี้เสียที่ไหน
ถ้าหากกริชเล่มนั้นขยับเข้ามาใกล้อีกนิดละก็…
เธอไม่กล้าจะคิดเลยจริงๆ
เหงื่อเย็นๆ ไหลลงมาจากหน้าผากอย่างไม่ขาดสาย ผ่านไปเนิ่นนานแล้วคุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้
ธรณีก็ตกใจเช่นกัน
เขาเคยได้ยินมาตลอดว่าบุริศร์เครียดโหดไร้ปรานีราวกับเป็นพญายมราช เดิมทีคิดว่าเป็นเพียงคำสรรเสริญจากผู้อื่นเท่านั้น แต่เมื่อกี้นี้เขาสัมผัสถึงจิตสังหารอันรุนแรงของบุริศร์ได้จริงๆ
หลังจากที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาดึงสติกลับมาได้ก็น้ำตาไหลไม่หยุด
“แกนี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ! พวกเราอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแท้ๆ แต่กลับต้องมาถูกคนชั่วอย่างบุริศร์จะพลิกไปมาตามใจยังไงก็ได้ หรือต่อให้แม่ของแกอย่างฉันถูกเขาฆ่าตาย แกก็คงไม่ทำอะไรอยู่ดีอย่างนั้นสินะ”
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาโยนความโกรธแค้นที่มีอยู่เต็มอกไปไว้ที่ธรณี
สมองของธรณีชาติจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ตอนนี้เขากำลังมองไปยังรถที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นก็หันมองตุลยาที่ถูกทำให้ตกใจจนโง่งมไปแล้วอีกครั้ง แล้วจึงรีบให้คนเข้าไปประคองผู้เป็นแม่กับตุลยาเข้าไปในห้อง
“ส่งคนไปตรวจสอบด้วยว่าความจริงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาร่องรอยของเด็กคนนั้นมาให้ได้”
หลังจากที่ธรณีออกคำสั่งครั้งใหญ่ คนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทั้งหมดก็เริ่มระดมพลทันที
ฝั่งของนรมนที่ถูกบุริศร์พาตัวออกมายังคงเต็มไปด้วยความกังวลใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...