บทที่ 442 คุณจะโกรธไปถึงเมื่อไหร่
พ่อนรมนมองดูดวงตาของเขาที่มองตามนรมนเข้าไปในห้องครัวและยังคงไม่ถอนสายตากลับมา เป็นแบบนี้แล้วจึงได้กระซิบว่า : “มีเรื่องกันเหรอ?”
“อ๊ะ?”
บุริศร์ดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว : “เปล่าครับ”
“อย่ามาโกหกผมเลย ผมเลี้ยงลูกสาวมาด้วยตัวเองย่อมรู้ดีที่สุด แม่หนูนี่ชอบคุณมาก ซ้ำร้ายตอนนี้ยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก ตอนนี้ควรอยากจะอยู่กับคุณใจแทบขาดชัดๆ แต่วันนี้เธอกลับมาพร้อมกับลูกสาวและกระเป๋าเดินทาง คุณบอกกับผมว่าไม่มีอะไร? นอกจากนี้กมลยังเกือบจะถูกคนฉกเอาตัวไปที่หน้าประตู มันเกิดอะไรขึ้น?”
คำพูดของพ่อนรมนทำให้บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เรื่องของกมลผมก็ยังไม่ทราบแน่ชัดครับ เมื่อกี้นี้ได้ยินพฤกษ์พูดผมเองก็ตกใจมากเพราะว่าเป็นห่วงจึงได้มาที่นี่ ส่วนนรมนนั้น ระหว่างพวกเรามีปัญหากันเล็กน้อยจริงๆครับ แต่ว่าไม่เป็นไรหรอก พ่อครับ คุณวางใจเถอะ พวกเราสามารถแก้ปัญหาได้”
“แก้ไขได้?”
พ่อนรมนจิบชาแล้วยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับพูดว่า : “ ผมเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้นเลย คุณเนี่ย ทำให้เธอเสียความรู้สึกไปแล้วแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อมยังไงสินะ ไม่ผิดที่จะรักหญิงสาวสักคนแต่เราไม่มีทางควบคุมได้หรอกนะ ผมเห็นจิตใจของคุณทั้งหมดอยู่ที่เธอ แล้วคุณเห็นนรมนเหลือบมองคุณบ้างไหม?”
“พ่อครับ”
บุริศร์ถูกจี้ไปที่จุดอ่อนจึงรู้สึกอายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ดื่มชาๆ ชาที่นรมนชงยังคงอร่อยที่สุดอยู่ดี”
พ่อนรมนจี้ตรงประเด็นแล้วก็ไม่พูดอะไรมากอีก เขายิ้มพร้อมกับยกชาขึ้นดื่ม
ตอนนี้ในใจของบุริศร์นั้นขัดแย้งกันและไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ทำได้เพียงแค่ดื่มชาเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าชานี้จะเต็มไปด้วยกลิ่นหอม แต่เขากลับไม่รับรู้ถึงรสชาติเลยแม้แต่น้อย
“ผมเหนื่อยนิดหน่อยเลยจะไปพักสักครู่ คุณถือโอกาสนี้คุยกับนรมนดีๆ แม่หนูนั่นอยากจะพักที่นี่สองสามวัน ผมย่อมยินดีต้อนรับอยู่แล้ว”
พ่อนรมนพูดจบก็ลุกขึ้นแล้วตรงไปที่ห้องหนังสือ
บุริศร์นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นคนเดียวโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำเช่นไรจริงๆ
เขารู้สึกได้ว่าตนเองถูกนรมนทอดทิ้งและละเลยโดยสมบูรณ์แล้ว แม้แต่จะพูดยังคร้านที่จะคุยกับเขาเลย
ระหว่างที่แม่นรมนหันหน้าไปโดยไม่ตั้งใจก็มองเห็นสายตาที่โศกเศร้าของบุริศร์จึงอดไม่ได้ที่จะพูดกับนรมนว่า : “ไป ไปอยู่กับสามีเถอะ อย่ามาอยู่ขวางทางที่นี่”
“หนูขวางทางตรงไหนกันคะ? แม่ หนูกำลังช่วยอยู่นะคะ!”
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่นรมนถูกแม่ของเธอรังเกียจเสียแล้ว
“ไม่จำเป็นเลย เธอสู้กมลของพวกเราไม่ได้เลย ใช่ไหมจ๊ะกมล?”
ตอนนี้แม่นรมนมองไปที่กมลว่าดูดีแค่ไหนและเธอชอบมากแค่ไหน
“คุณยาย กมลรักคุณยายที่สุดเลยค่ะ!”
กมลตอบกลับอย่างรวดเร็ว
มองดูการแสดงที่ยอดเยี่ยมของทั้งคนแก่และเด็กน้อยสองคนนี้แล้ว นรมนก็ทอดถอนใจพร้อมกับส่ายหัว ไม่มีที่ให้เธอยืนอยู่ตรงนี้จริงๆ
“โอเคๆๆ หนูจะออกไป”
เธอถอนหายใจแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องครัว
ทันทีที่ออกจากห้องครัวก็มองเห็นสายตาของบุริศร์ ดูเหมือนมีบางคำอยากจะพูดกับเขา แต่ก็ลังเลและไม่ได้พูดออกไป
นรมนไม่ได้คิดไว้ว่าจะคุยกับเขา แต่ทว่าเรื่องเกี่ยวกับกมล เธอเองก็ไม่อาจที่จะไม่ถามได้
พอคิดแล้วเธอก้าวเท้าเดินไปหาบุริศร์
เห็นนรมนเดินมาหาตนเองแล้ว บุริศร์ก็เกิดความประหม่า
“นรมน”
บุริศร์รู้สึกว่าเสียงของตนเองนั้นสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
ไม่บ่อยนักที่นรมนจะเห็นบุริศร์เป็นเช่นนี้
เขาเคยเป็นคนที่อยู่เหนือทุกคน ยิ่งกว่านั้นยโสโอหังอย่างยิ่ง แล้วกลายมาเป็นคนที่ปฏิบัติต่อใครสักคนอย่างระมัดระวังตัวเมื่อไหร่กัน?
ถึงแม้ว่าในใจจะเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย แต่ว่านรมนยังคงไม่ละทิ้งสีหน้าของเธอ
“พฤกษ์พูดกับคุณเรื่องของกมลแล้วใช่ไหม?”
“อืม พูดแล้ว ผมจะรีบไปตรวจสอบ คุณวางใจได้ ผมย้ายบอดี้การ์ดที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลโตเล็กมาที่นี่หมดแล้ว จะต้องไม่เกิดเรื่องอะไรกับกมลแน่นอน”
บุริศร์กล่าวอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าเขาจัดเตรียมทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว นรมนก็หันหลังกลับเดินไปทันที
“นรมน พวกเราจะคุยกันดีๆได้ไหม?”
บุริศร์คว้าข้อมือของนรมนเอาไว้
เขารู้ว่าตอนนี้นรมนยังโกรธอยู่และอาจจะไม่ฟังคำอธิบายของเขา แต่ว่าเขาไม่มีทางทนช่วงเวลาแบบนี้ได้อีกแล้ว
เดิมทีเขานึกว่านรมนจะทะเลาะกับเขา หากว่าทะเลาะกันก็ยังดี แต่ตอนนี้นรมนไม่พูดไม่โวยวาย ความเงียบสงบทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจและกดดัน
เขาไม่ได้พูดว่าหนึ่งวันนานนับหนึ่งปี มันเป็นหนึ่งวินาทีเท่ากับหนึ่งปีเลยต่างหาก
นรมนมองไปที่มือขนาดใหญ่อันทรงพลังบนข้อมือของเธอและคิดว่าที่นี่คือตระกูลธนาศักดิ์ธน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็มองเห็นแม่และกมลกำลังแอบมองพวกเธออยู่ในครัว เธอจึงลดเสียงต่ำลงอย่างช่วยไม่ได้
“ปล่อยมือค่ะ”
บุริศร์ได้ยินคำพูดนี้แล้วลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ปล่อยมือนรมน
นรมนหันกลับมาแล้วนั่งลง แต่กลับอยู่ห่างจากบุริศร์มาก
“พูดมาสิ”
ที่จริงแล้วนรมนไม่ต้องการฟังคำอธิบายของเขาเลย เรื่องนี้ชัดเจนมากแล้วยังจำเป็นต้องต้องอธิบายงั้นเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...