บทที่ 457 ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะบ้าไปแล้ว
“คุณบอกว่าผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดของบริษัทร่วมทุนตามหาคุณเหรอ?”
เสียงนรมนแปลกนิดหน่อย
“ใช่ พี่สะใภ้ ทำไมเหรอ?”
ตอนแรกเพราะตรินท์ร้อนรนใจ เลยไม่ได้ฟังดีๆ ตอนนี้ได้ยินเสียงนรมนเป็นแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
“พี่สะใภ้ ตอนแรกพี่เขาให้ผมพุ่งเป้าไปที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ก่อนหน้านี้ไม่นานให้ผมตึงเครียดภายในแล้วผ่อนคลายภายนอก ตอนนี้ไม่รู้ว่าหมายความว่าไงกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดากันแน่? ผมอยากเข้าใจอ่ะ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับตระกูลโตเล็กเราอยู่ที่เมืองชลธีมานานขนาดนี้ พี่ผมคงไม่คิดจะยึดตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นของตัวเองหรอกมั้ง? ถ้าไม่ดำเนินการต่อ ทางผมต้องถอนตัวหรือเปล่า? ช่วยชี้แนะให้ผมรู้เรื่องหน่อย? คุณก็รู้ ตอนนี้บริษัทเราทนต่อความสิ้นเปลืองนี้ไม่ได้ มันคือกลยุทธ์ที่เสียเปรียบทั้งคู่ เวลามันไม่รอใคร ผมติดต่อพี่ผมไม่ได้ พี่สะใภ้ช่วยติดต่อพี่ผมที ให้เขาโทรหาผมหน่อยได้ไหม?”
ตรินท์ร้อนรนใจมากจริงๆ
พนักงานหลายคนในบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดรอเงินจากเขาอยู่ เขาคุยกับบุริศร์ก่อนหน้านี้แล้ว บุริศร์สั่งเขาให้ปฏิบัติการ ตอนนี้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทร่วมทุนแบกรับความกดดันเหล่านี้ไม่ได้ แต่ละคนตามหาตรินท์ มันทำให้ตรินท์ต้องตามหาบุริศร์เพื่อขอกลยุทธ์
แต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้ไม่ว่าจะโทรหาบุริศร์อย่างไรก็โทรไม่ติด
นรมนได้ยินคำพูดของตรินท์ ใจก็หล่นวูบ แต่ก็ยังพูดขึ้นเสียงทุ้ม “ฉันจะลองติดต่อดู แต่คุณติดต่อไม่ได้ ฉันก็น่าจะติดต่อไม่ได้ ถ้ามันไม่ได้ผล คุณก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดไปเลยแล้วกัน”
“ขอลองฟังความหมายของพี่ชายผมก่อนดีกว่า พี่สะใภ้ ฝากด้วยนะ”
ตรินท์พูดจบก็วางสายไป
สีหน้าท่าทางนรมนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
คมทิพย์ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร ถามขึ้นอย่างค่อนข้างกลัดกลุ้ม “คุณเป็นอะไร? ใครโทรมา? น้องสามีของคุณเหรอ? ทำไม? ตอนนี้ธุรกิจตระกูลโตเล็กคุณก็สนใจเหรอ?”
นรมนมองคมทิพย์ นึกถึงคำพูดเมื่อครู่นี้ของคมทิพย์ ในใจก็ไม่เพียงแต่บ่นพึมพำ
บุริศร์ไม่ได้ไปต่างประเทศ!
บริษัทสาขาต่างประเทศไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย!
ถ้าอย่างนั้นเขาไปไหน?
ทำไมต้องโกหกเธอด้วย?
ตอนนี้ปิดเครื่อง ใครโทรหาก็ไม่รับมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ชุดคำถามยังเกิดขึ้นในสมองนรมนอย่างต่อเนื่อง
คมทิพย์เห็นนรมนไม่พูด ก็รู้สึกกังวลขึ้นมานิดหน่อย
“เฮ้ นรมน คุณคิดอะไรน่ะ? เกิดอะไรขึ้น? เกิดเรื่องใช่ไหม? แต่ฉันจะบอกเธอให้นะ ตอนนี้สภาพร่างกายเธอไม่เหมาะที่จะทำอะไรยุ่งเหยิง นอกจากเรื่องของบุริศร์ของพวกคุณ เรื่องอื่นๆ คุณไม่ต้องไปยุ่งนะรู้ไหม?”
“ถ้าเรื่องที่ฉันคิดมันคือเรื่องของบุริศร์ล่ะ?”
เมื่อนรมนพูดออกไป คมทิพย์ก็ตกตะลึงทันที
“หมายความว่าไง? ฉันคงไม่ได้พูดถูกจริงๆ หรอกนะ? บุริศร์ทำผิดต่อเธอเหรอ?”
คมทิพย์อดไม่ได้ที่จะนึกย้อนตัวเอง เมื่อครู่นี้เธอไม่ได้พูดอะไรไม่ดีกับบุริศร์ใช่ไหม?
“นั่นอะไร ฉันจะโทรหาบุริศร์ ถามเขาว่าจะกลับมาเมื่อไร”
ขณะที่พูดคมทิพย์ก็รีบโทรหาบุริศร์ แต่น่าเสียดายที่โทรศัพท์บุริศร์ปิดเครื่อง
นรมนได้ยินเสียงผู้หญิงเย็นชาดังขึ้นมา ใบหน้าก็จมลง
เขาเคยบอกว่าจะไม่โกหกตนอีก!
เรื่องที่กมลถูกลักพาตัวไป เธอฝืนให้ตัวเองผ่านมันไป บอกว่าเขาหวังดีกับพวกเขา แต่ครั้งนี้มันเพราะอะไรอีก?
ทั้งๆ ที่รู้ว่าเรื่องของกมลตนเองยังไม่ได้ปล่อยไปอย่างเต็มที่ ถ้าหลอกตนอีกครั้ง ตอนนี้ขนาดที่ว่าไม่เจอตัว ไม่รับโทรศัพท์ เขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?
จิตใจนรมนรู้สึกแย่มาก รวมถึงร่างกายอ่อนแอ ยิ่งทำให้หงุดหงิดมากขึ้น
“ไม่ต้องโทรหาเขาแล้ว เปลี่ยนคนโทร”
คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์ตกตะลึง
“โทรหาใครอ่ะ?”
“พฤกษ์!”
คมทิพย์ตกตะลึงอีกครั้งทันที
“พฤกษ์เหรอ?”
“ใช่”
นรมนมองคมทิพย์ ด้วยดวงตาเป็นประกาย
ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมนรมนจะตามหาพฤกษ์ แต่คมทิพย์ก็ยังโทรหาพฤกษ์
เมื่อได้รับโทรศัพท์จากคมทิพย์ พฤกษ์ก็รีบกลับมา หลังจากเห็นนรมน ก็ถามขึ้นอย่างค่อนข้างงุนงง “คุณนาย เกิดอะไรขึ้นครับ? เกิดเรื่องเหรอ?”
“ตอนนี้บุริศร์อยู่ที่ไหน?”
นรมนถามอย่างไม่อ้อมค้อม
พฤกษ์เป็นผู้ช่วยพิเศษของบุริศร์ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ให้เขาทำ ตอนนี้เดาว่าไม่มีใครรู้ที่อยู่ของบุริศร์ดีไปกว่าพฤกษ์แล้ว
“คุณนาย ประธานบุริศร์ไม่ได้ไปทำงานต่างประเทศเหรอ?”
ความไร้เดียงสาของพฤกษ์ทำให้คมทิพย์ค่อนข้างรำคาญเล็กน้อย เธอเตะที่น่องพฤกษ์ พูดขึ้นอย่างขุ่นเคือง “นายช่วยเขาปกปิดใช่ไหม? นรมนรู้หมดแล้ว นายรีบพูดซะ บุริศร์อยู่ที่ไหน?”
ถูกคมทิพย์เตะจนค่อนข้างเจ็บ พฤกษ์พูดขึ้นอย่างน้อยใจ “ฉันไม่รู้จริงๆ ประธานบุริศร์แค่ให้ฉันดูแลคุณนายให้ดี ครั้งนี้ไปไหนไม่ได้บอกฉันเหมือนกัน งานของฉันคือรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของคุณนายคุณชายและคุณหนู มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ?”
คำพูดของพฤกษ์อดไม่ได้ที่จะมองอีก และไม่ได้พูดอะไร
คมทิพย์เห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “นรมน เขาอาจจะไม่รู้จริงๆ เดี๋ยวคุณหมอโพนี่จะมาแล้ว คุณไปถามเธอได้ ไม่แน่ว่าคุณหมอป้องอาจจะรู้อะไร”
“ใช่ๆๆ ก่อนที่ประธานบุริศร์จะไปต่างประเทศเขาอยู่กับคุณหมอป้อง ฉันได้ยินว่าพวกเขาออกไปคลับอะไรด้วยกันมา”
พฤกษ์พูดจบก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อย เพราะเขาเห็นความสงสัยบนใบหน้านรมน
“คลับ? บุริศร์ไปคลับเมื่อไร?”
พฤกษ์รีบปิดปาก
“พูดออกมา!”
คมทิพย์รู้สึกว่าตอนนี้พฤกษ์ยังกำลังปกป้องบุริศร์อยู่ และเล่นละครตบตาตัวเองและนรมน
“ฉันไม่รู้ อาจจะทะเลาะกับคุณนายจนไม่ค่อยสบอารมณ์ ประธานบุริศร์เลยออกไประบายอารมณ์มั้งครับ แต่คุณนายไม่ต้องคิดมากนะ ประธานบุริศร์ไปคลับไม่ได้ไปทำอย่างอื่นหรอก ส่วนมากก็ดื่มเหล้านิดหน่อยแค่นั้น”
ในเมื่อพฤกษ์พลั้งปากพูดไปแล้ว ตอนนี้ก็ต้องพูด แต่ยังคงแก้ตัวให้บุริศร์นิดหน่อย
ไม่รู้ว่านรมนเป็นอะไร จิตใจอึดอัดมากเกินไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...