แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 463

บทที่ 463 ฉันจะอยู่ต่อ

“เกิดอะไรขึ้น?”

ตอนนี้เจตต์ออกเสียงได้เยือกเย็นลงแล้ว

ในตอนที่เห็นนรมนนั้น ตัวทั้งตัวของเขาก็สั่น แล้วในตอนที่ส่งนรมนเข้าไปในห้องผ่าตัดนั้น เขาก็ยิ่งวุ่นวายใจมาก แต่ว่าวินาทีนี้ เหมือนกับว่าเขาจะเรียกความสงบเยือกเย็นทั้งหมดกลับมาได้แล้ว เย็นจนเหมือนกับน้ำแข็งก้อนหนึ่งเลยทีเดียว

ธรณีอึ้งไปเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “ตุลยาหนีไปแล้ว”

“ตระกูลทวีทรัพย์ธาดามียอดฝีมือมากมายขนาดนั้น กลับปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งหนีไปได้ และที่สำคัญนรมนก็ถูกหาเจอในคลับของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาด้วย คุณชายธรณี คุณจะพูดว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว คุณคิดว่าผมจะเชื่อเหรอ?”

คำพูดของเจตต์นั้นมีแรงต่อต้านเป็นอย่างมาก และยังแฝงได้ด้วยกลิ่นอายของระเบิดด้วย

ป้องรีบเปิดปากพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้อาจจะมีอะไรอย่างอื่นแอบแฝงไว้ก็ได้ ไม่ว่ายังไงสำหรับตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาพูดแล้ว แค่ความสัมพันธ์ที่มีกับนรมน ก็คงจะไม่ทำอย่างนี้หรอก”

“นั่นก็ไม่แน่หรอก ก่อนหน้านี้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาทำยังไงกับนรมนบ้าง ทุกคนก็รู้แจ้งอยู่แก่ใจแล้ว แล้วตอนนี้มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จะพูดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกคุณ ผมไม่เชื่อหรอก วันนี้ผมจะพูดไว้ตรงนี้เลย นรมนไม่เป็นอะไรก็ดี แต่ถ้าเกิดนรมนเป็นอะไรไปแล้วละก็ ผมจะให้พวกคุณทั้งหมดไม่ได้อยู่ดีมีสุขแน่! ถ้าไม่เชื่อทุกคนก็รอดูกันต่อไปได้เลย!”

คำพูดของเจตต์ทำให้ทุกคนนิ่งอึ้งไปครูหนึ่ง

พฤกษ์ยิ่งขมวดคิ้วกันแน่นขึ้น แล้วรู้สึกว่าเจตต์พูดคำพูดแบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“คุณชายเจตต์ คุณนายเป็นคนของตระกูลโตเล็กเรา คุณชายเจตต์มีบุญคุณกับตระกูลโตเล็กของเรา แน่นอนว่าผมจะต้องรายงานให้คุณนายตระกูลโตเล็กทราบแน่ ตระกูลโตเล็กจะไม่มีวันลืมบุญคุณตระกูลรัตติกรวรกุลแน่ เพียงแต่ว่าเรื่องราวหลังจากนี้คงจะต้องขอเชิญให้คุณชายเจตต์หลบหลีกไปก่อนนะครับ”

“หลีกไป? พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาให้ผมหลีกไป? ตระกูลโตเล็กของพวกคุณเป็นคนตามหาคนเจอเหรอ? พวกคุณก็รู้ด้วยเหรอว่าเธอเป็นคุณนายของตระกูลโตเล็กของพวกคุณ? แต่ว่าพวกคุณทำให้เธอหายไป! วันนี้เป็นวันที่สี่แล้ว เธอต้องพบเจอกับอะไรมาบ้าง พวกคุณรู้ไหม? ประธานบุริศร์ของพวกคุณล่ะ? เขาอยู่ไหนล่ะ?”

พอเจตต์พูดมาถึงตรงนี้ก็มีไฟโกรธลุกขึ้นมาถึงที่สุดแล้ว

ถ้าหากว่าเป็นคนอื่นก็ช่างเถอะ แต่กลับเป็นบุริศร์คนที่นรมนใส่ใจที่สุด จนถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่มาอยู่ที่นี่ และไม่มีข่าวคราวอะไรเลย

เขาเป็นคนตายเหรอ?

ภรรยาของตัวเองโดนลักพาตัวไปสี่วัน เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีคนรายงานให้บุริศร์รู้

ในเมื่อรายงานแล้ว ทำไมคนถึงยังไม่มาล่ะ?

เพราะอะไร ทำไมไม่มีข่าวอะไรเลย?

ความรักแท้จริงตลอดชีวิตอะไร จะไม่ยอมให้นรมนต้องลำบากตลอดชีวิตคืออะไร นี่มันเป็นคำพูดลมปากทั้งนั้น!

เจตต์เห็นเพียงแต่นรมนต้องนอนเดียวดายอยู่บนพื้นคนเดียวเท่านั้น เหมือนอย่างกับว่าโดนทั้งโลกหลงลืมไปแล้วยังไงอย่างงั้น

ดูสิ้นหวังขนาดนั้น ดูเดียวดายขนาดนั้น ใครจะสามารถรับรู้ได้บ้าง?

ในตอนที่นรมนต้องการบุริศร์มากที่สุดนั้น เขาอยู่ที่ไหนล่ะ?

คำถามของเจตต์ถามจนพฤกษ์ไม่มีคำพูดที่จะตอบ

แล้วตอนนี้คมทิพย์ก็ไม่ช่วยบุริศร์แก้ตัวแล้ว

เธอเองก็รอคอยมาสี่วันแล้ว หวังว่าอยู่ ๆ บุริศร์ก็จะปรากฏตัวออกมาต่อหน้าพวกเขา หวังว่าบุริศร์จะสามารถตามหานรมนเจอ และสามารถพานรมนกลับมาได้

แต่ว่าตอนนี้ยังคงไม่มีข่าวคราวอะไรของบุริศร์ แล้วคนที่พานรมนกลับมากลับเป็นเจ้าเดนมนุษย์เจตต์คนนี้

ป้องเห็นว่าเจตต์คอยบีบคนทุกทางแบบนี้ ก็อดที่จะพูดขึ้นไม่ได้ว่า “บุริศร์ไม่ใช่คนที่แล้งน้ำใจอย่างที่คุณพูด เขาจะต้องโดนเรื่องอะไรรั้งเอาไว้แน่ ถึงได้กลับมาไม่ได้ หรือบางทีอาจจะเป็นไปได้ที่เขาไม่รู้เรื่องที่นรมนโดนลักพาตัวด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นคุณชายเจตต์ ช่วยพูดจาไว้หน้ากันบ้างนะครับ”

“พูดไว้หน้าเหรอ? คุณหมอป้องฝีมือทางการแพทย์ของคุณนั้นผมชื่นชมมาก แต่ว่าผมก็รู้ว่าคุณกับบุริศร์มีความสัมพันธ์ยังไงกัน ตอนนี้คุณช่วยแก้ตัวแทนเขา ผมก็ไม่โทษคุณหรอก แต่ว่าคุณเองก็อย่าหวังว่าจะมายุ่งเรื่องของผมได้ ผมก็ยังคงยืนยันคำเดิม เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เรื่องของนรมนก็เป็นเรื่องของผม ต่อไปเรื่องทุกอย่างของเธอผมจะมารับมือต่อเอง! ในเมื่อตระกูลโตเล็กไม่มีความสามารถซะขนาดนั้น ปกป้องภรรยาของตัวเองไว้ไม่ได้ ถ้าอย่างงั้น เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เปลี่ยนให้ผมเจตต์มาทำแทนเอง!”

การพูดอย่างนี้ของเจตต์ ดูเหมือนไม่มีความกังวลใด ๆ เลย

เมื่อก่อนนั้นเขาเห็นแก่นรมน เห็นว่านรมนชอบบุริศร์ ชอบมากซะขนาดนั้น และแน่นอนว่าเขาก็ต้องเก็บความชอบที่มีอยู่ในใจของตัวเองส่วนนั้นซ่อนเอาไว้

แต่ว่าตอนนี้ การถอยหนีของเขา การอดทนของเขา กลับไม่ได้แลกความปลอดภัยและความสุขของนรมนมาได้เลย ถ้าอย่างงั้นยังมีอะไรที่เขาจะต้องมากังวลอีก

“คุณชายเจตต์ คุณพูดแบบนี้ เคยคิดถึงความรู้สึกของนรมนแล้วหรือยัง?”

พอคุณนายตระกูลโตเล็กได้ข่าวก็รีบมาทันที แล้วก็พอดีมาได้ยินคำพูดนี้ของเจตต์เข้า จึงอดไม่ได้ที่จะเปิดปากพูดขึ้น

ถ้าหากว่าคนอื่นจะมีความคิดเห็นนั้น เจตต์ก็จะไม่สนใจเลยสักนิด แต่ว่าตอนนี้คุณนายตระกูลโตเล็กพูดถึงความคิดของนรมนแล้ว หัวคิ้วของเจตต์ก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย

“คุณนายตระกูลโตเล็ก คุณคิดว่าหลังจากที่ผ่านเรื่องนี้มาแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งที่รอให้สามีตัวเองมาช่วยในตอนที่สิ้นหวังที่สุด แล้วภายใต้สถานการณ์ที่รอแล้วไม่เจอ แล้วยังจะมีความรู้สึกลึกซึ้งหลงใหลในตัวลูกชายของคุณอยู่อีกเหรอ?”

คำพูดนี้ของเจตต์นั้น กลับทำให้คุณนายตระกูลโตเล็กหมดคำพูด ไม่รู้ว่าควรจะตอบเขายังไงดีแล้ว

บุริศร์ไปไหนแล้วนั้น เธอเองก็ไม่ชัดเจน แล้วก็ติดต่อไม่ได้ด้วย

กานต์ที่อยู่หลังคุณนายตระกูลโตเล็กเดินหน้าออกมา ในตอนที่เห็นเจตต์นั้น ก็โค้งคำนับต่ำ ๆ ให้เจตต์ทีหนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “คุณอาเจตต์ครับ ขอบคุณที่ช่วยหม่ามี้ของผมครับ”

ตั้งแต่ที่ช่วยนรมนกลับมา ไฟโกรธที่อยู่เต็มอกของเจตต์ก็ไม่มีที่ระบายออกมา แต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับโดนเด็กคนหนึ่งอย่างกานต์มาปลอมประโลมแล้ว

“ไม่เป็นไร”

เขาลูบหัวของกานต์เบา ๆ แล้วนัยน์ตาก็ดูแดงขึ้นมาเลย

กานต์จ้องมองเลือดที่อยู่บนตัวเจตต์ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาไม่มากก็น้อย แต่กลับยังคงถามขึ้นว่า “นี่เป็นเลือดของหม่ามี้เหรอครับ?”

“แม่ของเธอจะไม่เป็นอะไรหรอก”

เป็นครั้งแรกที่เจตต์ไม่รู้ว่าจะปลอบใจเด็กคนหนึ่งยังไงดี

นี่เป็นลูกชายของนรมนเลยเชียวนะ!

กานต์ไม่พูดอะไรอีก แล้วก็ยืนอยู่ข้างกายเจตต์อย่างเงียบ ๆ จ้องมองไฟห้องผ่าตัดที่สว่างอยู่ และไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย