แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 464

บทที่ 464 ก็คิดซะว่าเขาเห็นแก่ตัวเถอะ

คุณนายตระกูลโตเล็กไม่เคยคิดมาก่อนว่าชาตินี้จะต้องมาเจอกับทางเลือกแบบนี้ แต่ว่าบุริศร์ไม่อยู่ แล้วเธอก็เป็นแม่สามีของนรมน เธอควรจะเลือกยังไงล่ะ?

“คุณนายตระกูลโตเล็ก เรื่องนี้จะมาบุ่มบ่ามไม่ได้ ผมรู้สึกว่ายังไงก็ให้บุริศร์กลับมาเถอะ”

ธรณีเปิดปากพูดขึ้นโดยตรง

นรมนเป็นเด็กของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกเขา ไม่ว่ายังไง ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องสูญเสียมดลูกไปหมายความว่ายังไง คนทุกคนต่างก็เข้าใจดี

นรมนเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ ไม่ควรจะต้องมาแบกรับเรื่องพวกนี้

แม้แต่ธรณีที่เชื่อมั่นในตัวบุริศร์มาตลอด ตอนนี้ก็อดใจไม่ไหวอยากจะให้บุริศร์กลับมาแล้ว

คุณนายตระกูลโตเล็กนั้นมีความลำบากก็พูดได้ยากจริง ๆ

ถ้าหากว่าเธอรู้ว่าบุริศร์อยู่ที่ไหน ก็จะต้องให้เขากลับมาแน่ ๆ แต่ว่าตอนนี้เธอไม่รู้จริง ๆ

พฤกษ์และคมทิพย์ก็มองไปทางคุณนายตระกูลโตเล็ก ถึงแม้ว่าจะไม่พูดอะไร แต่ว่าความหมายก็ชัดเจนมากแล้ว

คุณนายตระกูลโตเล็กรู้สึกว่าความกดดันนั้นใหญ่เท่าภูเขาแล้ว

“ฉันไปโทรหาตรินท์ดู ดูซิว่าเขาจะสามารถติดต่อบุริศร์ได้หรือเปล่า”

คุณนายตระกูลโตเล็กเดินตรงไปที่มุมมุมหนึ่ง

ตอนนี้เธอเองก็อดใจไม่ไหวอยากจะหาบุริศร์ให้เจอมากจริง ๆ

หลังจากที่โทรศัพท์ให้ตรินท์แล้ว คุณนายตระกูลโตเล็กก็ให้เขาใช้คนของอาณาจักรรัตติกาลไปตามหาเบาะแสของบุริศร์ ตรินท์ตอบตกลงแล้ว แล้วก็ลวดถามอาการของนรมนด้วยประโยคหนึ่ง

ในตอนที่เขารู้สถานการณ์ของนรมนแล้วนั้น ก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “แม่ครับ ตอนนี้พี่ใหญ่ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย คงจะไม่ได้เกิดอะไรขึ้นด้วยหรอกนะครับ?”

“ไม่มีทาง บุริศร์ไม่มีทางเป็นอย่างงั้นแน่ เธอรีบไปหาคนเถอะ”

“ได้ครับ!”

หลังจากที่วางโทรศัพท์แล้ว คุณนายตระกูลโตเล็กถึงพบว่ากานต์มายืนอยู่ข้างหลังแล้ว

ไม่รู้ว่ากานต์มายืนอยู่ข้างหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ท่าทางดูเป็นกังวลเป็นอย่างมาก เห็นแล้วคุณนายตระกูลโตเล็กก็รู้สึกปวดใจไม่หยุด

“กานต์ไม่ต้องกลัวนะ หม่ามี้จะไม่เป็นอะไรหรอก”

“งั้นคุณบุริศร์ล่ะ? ทำไมถึงหาคุณบุริศร์ไม่เจอ? ผมใช้รหัสคอมพิวเตอร์ติดต่อเขาแล้ว แต่ว่าเขาก็ไม่ตอบผม เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลยนะครับ”

ใบหน้าเล็ก ๆ ของกานต์เกือบจะย่นเข้าหากันแล้ว

หม่ามี้อยู่ที่ข้างในเป็นตายก็ไม่รู้ แด๊ดดี้ก็ไม่รู้ว่าไปไหน ถึงแม้ว่าเขาบอกกับตัวเองว่าจะต้องเข้มแข็ง จะต้องมีสติ แต่ว่าในเมื่อยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ไม่ว่ายังไงก็สงบลงมาไม่ได้

คุณนายตระกูลโตเล็กเห็นกานต์เป็นแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเอาเขามาอุ้มไว้ในอก

“ไม่มีอะไรแล้ว หม่ามี้จะต้องไม่เป็นอะไร แด๊ดดี้ก็จะต้องไม่เป็นอะไร สวรรค์จะต้องคุ้มครองพวกเขาแน่นอนจ๊ะ”

พอมาถึงตอนนี้แล้ว คำพูดปลอบโยนทั้งหมดต่างก็กลายเป็นว่างเปล่าและไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา

เวลายังคงเดินต่อไป ในใจของทุกคนต่างก็ร้อนใจราวกับไฟแผดเผาอยู่

เจตต์เหมือนอย่างกับรากงอกอยู่ตรงหน้าห้องผ่าตัดแล้ว ขยับก็ไม่ขยับ

พฤกษ์ออกไปซื้อของกินมานิดหน่อย แต่ว่าทุกคนต่างก็ไม่มีใครอยากจะกิน

เวลาทุกนาทีทุกวินาทีผ่านพ้นไป และโพนี่ก็ไม่ได้ออกมาสักที แต่พยาบาลกลับนำเลือดส่งเข้าไปไม่หยุด เห็นจนใจคนอกสั่นขวัญแขวน

การผ่าตัดใช้เวลาติดต่อกันไปสิบกว่าชั่วโมง คนทั้งหมดต่างก็เหนื่อยล้าแล้ว

“พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ผมจะเฝ้าอยู่ที่นี่เอง”

น้ำเสียงของเจตต์แฝงไว้ด้วยความแหบแห้งเสี้ยวหนึ่ง

ธรณีส่ายคอที่เมื่อยล้าเล็กน้อยแล้วก็พูดขึ้น “ผมก็อยู่ต่อไปได้ คุณนายตระกูลโตเล็กครับ กานต์ยังเป็นเด็กอยู่ รอมาเป็นเวลานานขนาดนี้ก็ไม่ง่ายแล้ว คุณพาแกกลับไปก่อนเถอะครับ”

ทางด้านตรินท์ยังไม่มีข่าวคราวอะไรส่งมา

ตอนนี้คนทั้งหมดต่างก็หวังว่าบุริศร์จะสามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว หรือกระทั่งพฤกษ์แอบรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย

เขาได้โทรศัพท์หาบุริศร์อยู่ตลอด แต่ว่าโทรศัพท์กลับอยู่ในลักษณะที่ปิดเครื่องอยู่ตลอด เขายังใช้แม้กระทั่งการติดต่อด้วยโค้ตลับของกองทัพด้วย แต่น่าเสียดายบุริศร์ก็ยังคงไม่ตอบกลับ

นี่มันไม่ค่อยปกตินี่!

แต่เขาไม่สามารถพูดเรื่องแบบนี้ออกมาในสถานการณ์แบบนี้ได้

ความไม่สบายใจของพฤกษ์นั้นคมทิพย์มองเห็นมันอยู่ในสายตา แต่กลับไม่มีเวลาให้ถามไถ่

ไม่ว่าจะพูดยังไงกานต์ก็ไม่ยอมกลับไป เด็กคนนี้นั้นสงบเป็นอย่างมาก ไม่ร้องไม่งอแง แต่พอยิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกปวดใจ

ในที่สุด หลังจากที่การผ่าตัดผ่านไปสิบสี่ชั่วโมงแล้ว ไฟหน้าห้องก็ดับลงสักที

ในตอนที่โพนี่เดินออกมานั้น ทั้งคนก็ดูเหนื่อยล้ามาก ป้องรีบเดินขึ้นหน้าเข้าไปประคองไว้ แต่โพนี่กลับหลบหลีกออก

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าป้องก็รู้ว่า โพนี่นั้นโทษเขาแล้ว

ใช่ซิ!

ถ้าหากว่าคนที่อยู่ที่นี่ในวันนี้เป็นโพนี่ แล้วไม่มีใครบอกสถานการณ์ของภรรยาให้เขาที่เป็นสามีคนนี้รู้ คิดว่าเขาเองก็คงจะโกรธเหมือนกัน

แต่ว่าเขาเข้าใจก็ส่วนเข้าใจ แต่จะมาทำลายบุริศร์เพราะเหตุนี้ไม่ได้

ก็คิดซะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็แล้วกัน

เขาไม่สามารถมองเห็นพี่น้องที่ดีที่สุดของตัวเองจะต้องมาโดนทำลายไปตลอดชีวิตแบบนี้แน่ ถึงแม้ว่าภรรยาจะไม่เข้าใจเขาเช่นนี้ก็ตาม เขาก็ไม่เสียใจหรอก

ป้องทอดถอนใจและยืนอยู่อีกข้างหนึ่ง แต่กลับคอยสังเกตโพนี่อยู่ตลอดเวลา ราวกับว่ากลัวเธอจะแบกรับไม่ไหว

การผ่าตัดใหญ่แบบนี้นั้น เธอไม่ได้ทำมานานแล้ว

การปรากฏตัวของโพนี่ ทำให้ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นขึ้นมา แต่ว่ายิ่งตื่นเต้น ก็ยิ่งไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถาม

เหมือนกับว่าการถามสักคำถามหนึ่ง ก็จะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นยังไงอย่างงั้น แต่ว่าแววตาที่คาดหวังของทุกคนก็ทำให้โพนี่มีความกดดันใหญ่เท่าภูเขาเลย

“การผ่าตัดสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และตอนนี้อาการของนรมนก็คงที่แล้ว ไข้ก็ลดแล้ว แต่ว่าจะต้องเข้าไปนอนรอดูอาการในห้องรอดูอาการผู้ป่วยหนักคืนหนึ่งก่อน โรคของเธอนี่มีโอกาสที่จะติดเชื้อและเป็นไข้ได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นคืนนี้จำเป็นที่จะต้องมีคนคอยเฝ้าไข้ พวกคุณปรึกษากันดูละกัน ว่าจะให้ใครอยู่ที่นี่ดี”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย