แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 465

บทที่ 465 ฉันกลายเป็นผีก็ไม่มีทางปล่อยพวกแกแน่

โพนี่และป้องกำลังโต้เถียงกันอยู่ในห้องทำงาน

“ไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็จะต้องตามบุริศร์กลับมาให้ได้!”

นี่เป็นเจตนาของโพนี่ และก็เป็นท่าทีที่แข็งกร้าวของเธอ

แต่ป้องกลับพูดอย่างแน่วแน่ว่า “ไม่มีทาง คุณและผมต่างก็รู้ว่า ถ้าบุริศร์กลับมาตอนนี้มันจะหมายความว่ายังไง”

“แต่ว่านรมนก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว ใครก็รับประกันไม่ได้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ถ้าหากว่าเธออดทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ หรือว่าคุณทนทำใจให้สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้เจอกับสามีตัวเองเหรอ? ป้อง คุณสามารถหวังดีต่อพี่น้องของคุณได้ แต่ว่าคุณเองก็เป็นหมอคนหนึ่ง คุณลองคิดดูดี ๆ นะ ถ้าหากว่าวันนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเป็นฉัน ถ้าหากว่าไม่มีใครบอกอาการป่วยของฉันกับคุณ รอถึงตอนที่คุณกลับมา แล้วสิ่งที่เห็นคือศพของฉัน หรือว่าเป็นฉันที่ป่วยจนมีสภาพร่อแร่แล้ว คุณจะทำยังไง?”

การเปรียบเทียบของโพนี่ทำให้ป้องไม่สบายใจมากเลย

“คุณไม่มีทางเป็น!”

“ฉันก็เป็นคน! ฉันก็เป็นผู้หญิง!”

“โพนี่ ทั้งคุณและผมต่างก็เป็นหมอ และที่สำคัญฝีมือการแพทย์ก็สูงขนาดนั้น ผมรู้ว่าคุณเป็นยอดฝีมือทางด้านเฉพาะทางสตรี และผมก็รู้ว่าโรคที่ลำบากที่คนอื่นจัดการไม่ได้ คุณก็สามารถทำได้ ขอแค่อดทนให้ผ่านไปอีกสามวัน หลังจากสามวันแล้ว ไม่ว่านรมนจะเป็นยังไง ผมก็จะบอกให้บุริศร์กลับมา ได้ไหม?”

คำพูดของป้องทำให้โพนี่รู้สึกหมดแรงแล้ว

“ถ้าหากว่านรมนอดทนได้ไม่ถึงสามวันล่ะ?”

ป้องอึ้งไปครู่หนึ่ง

“ก็คุณบอกว่าการผ่าตัดสำเร็จมากไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ การผ่าตัดสำเร็จมาก แต่ว่าร่างกายของเธอนั้นอ่อนแอมาก และที่สำคัญมดลูกได้รับความเสียหาย หลังจากครั้งนี้แล้วจะตกเลือดอีกหรือเปล่า ก็ไม่อาจรู้ได้ ฉันแค่เพียงช่วยเธอห้ามเลือดได้ชั่วคราวเท่านั้น ต่อไปจะเป็นยังไง ฉันก็ไม่รู้ ทั้งคุณและฉันต่างก็เป็นหมอ หลังการผ่าตัดแล้วจะเกิดภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้างทั้งคุณและฉันต่างก็ชัดเจนดี ตอนนี้ทั้งคุณและฉันก็เข้าใจ ทางที่ดีที่สุดก็คือให้บุริศร์กลับมา หรือบางที หรือบางที……”

คำพูดต่อไปโพนี่ไม่ได้พูดอีก แต่ว่าป้องเข้าใจแล้ว

เขาไม่ได้ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ แต่ว่าเขาก็ยังคงยืนหยัดต่อความแน่วแน่ของตัวเองอยู่

“ผมบอกแล้ว สามวัน! ขอแค่ให้ผ่านสามวันสุดท้ายนี้ ผมก็จะให้บุริศร์กลับมา ผมรู้ว่าในใจของคุณเป็นทุกข์ คุณเองก็สงสารนรมน แต่ว่าบุริศร์อยู่ที่ไหนมีแต่ผมเท่านั้นที่รู้ ถ้าหากว่าคุณอยากจะให้สามีตัวเองโดนคนข้างนอกพวกนั้นมารุมโจมตีแล้วละก็ คุณก็ไปบอกพวกเขาเลยว่าผมรู้ว่าบุริศร์อยู่ที่ไหน”

ป้องพูดจบก็หมุนตัวเดินจากไปเลย

โพนี่โกรธจนกัดริมฝีปากล่างเอาไว้ แล้วก็รู้ว่าตัวเองไม่มีทางทนดูป้องโดนตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ตระกูลโตเล็กและตระกูลรัตติกรวรกุลร่วมมือกันมาโจมตีได้

ที่แท้คนที่เห็นแก่ตัวไม่ได้มีเพียงแต่ป้องเท่านั้น ยังมีเธอด้วย

คนเราขอแค่แตะต้องโดนคนที่ตัวเองใส่ใจแล้ว ถึงได้รู้ว่ามีจริยธรรมบางอย่างนั้นไม่สามารถรักษาไว้ได้จริง ๆ

โพนี่นั่งลงบนเก้าอี้เต็มตูด ในใจนั้นรู้สึกเป็นทุกข์มากมาย

ในตอนที่เจตต์วิ่งมานั้น ก็เห็นป้องออกไปจากห้องทำงานอย่างสีหน้าไม่สู้ดี แต่เขากลับไม่มีเวลาให้คิดมาก แล้วก็เคาะประตูห้องของโพนี่เลย

“คุณหมอโพนี่ ไม่ดีแล้วครับ นรมนอาการไม่ดีแล้วค่ะ คุณรีบไปดูเถอะครับ!”

น้ำเสียงของเจตต์กลายเป็นแข็งกร้าวขึ้นมา

โพนี่รีบลุกขึ้นมา แล้วก็วิ่งไปทางห้องรอดูอาการผู้ป่วยหนักทันที

ในตอนที่เธอมาถึงห้องรอดูอาการนั้น ก็เห็นท่าทางร้อนรนไม่รู้จะทำยังไงของคมทิพย์ แล้วก็รีบไปตรวจดูอาการของนรมน

“ความดันเลือดสูง เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ไม่คงที่ เรื่องอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นในฝันของเธอกำลังรบกวนเธออยู่ แต่ว่ายังดี ที่ไม่เป็นไข้ เดี๋ยวฉันจะฉีดยานอนหลับในเธอสักเข็ม จะได้ให้เธอนอนหลับได้สบายขึ้น คืนนี้พวกคุณก็ตื่นตัวหน่อยก็แล้วกัน จะต้องคอยสังเกตตัวเลขอุปกรณ์การแพทย์ที่อยู่ข้างกายของเธอพวกนี้ให้ดี เข้าใจไหม?”

โพนี่สั่งกำชับไว้ แล้วก็รีบฉีดยานอนหลับให้นรมนเข็มหนึ่ง

จิตใจที่ว้าวุ่นอยู่ไม่สุขของนรมนค่อย ๆ สงบลงภายใต้การกระตุ้นของยา

พอมองเห็นนรมนสงบลงอีกครั้งหนึ่ง เจตต์และคมทิพย์ถึงได้วางใจลงได้

“ผมอยู่ข้างนอก มีเรื่องอะไรก็เรียกผมได้นะ”

คำพูดของเจตต์ทำให้คมทิพย์ต้องพยักหน้าน้อย ๆ

ยังดีที่เมื่อกี้มีเจตต์อยู่ด้วย ชั่ววินาทีนั้นเธอลนลานไปแล้วจริง ๆ

“ได้”

โพนี่มองดูพวกเขา ที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ยกฝีเท้าแล้วเดินออกไป

ความมืดของค่ำคืนกำลังเข็มค้น ไม่ว่าจะเป็นคมทิพย์หรือว่าเจตต์ ต่างก็ไม่มีอารมณ์จะกินอะไร พวกเขาคนหนึ่งอยู่ข้างในคนหนึ่งอยู่ข้างนอก คอยเฝ้าดูอยู่

รอจนถึงช่วงครึ่งคืนให้หลัง เจตต์เริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาบ้างแล้ว

เขามองไปรอบข้าง ในที่ไม่ไกลนักมีบอดี้การ์ดที่พฤกษ์พามายืนอยู่ คมทิพย์เพราะกลัวว่าตัวเองหลับไป จึงเอาเข็มอันหนึ่งมา แล้วก็คอยทิ่มตัวเองอยู่เป็นพัก ๆ เพื่อให้ตัวเองยังคงตื่นตัวอยู่

เจตต์หาวทีหนึ่ง แล้วก็อยากจะไปสูบบุหรี่สักม้วนที่ห้องน้ำ

เขาลุกยืนขึ้น มองดูซ้ายขวา แล้วก็เดินไปทางห้องน้ำเลย

มีพยาบาลคนหนึ่งเข็นรถอุปกรณ์การแพทย์เดินไปทางห้องรอดูอาการผู้ป่วยหนัก

ในตอนที่เจตต์เดินสวนทางกับเธอนั้น ก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปประโยคหนึ่ง

“นี่คุณจะเอายาไปให้นรมนเหรอ”

“ใช่ คุณหมอโพนี่บอกว่าคุณนายบุริศร์ร่างกายอ่อนแอเกินไป จำเป็นจะต้องให้ยาเพิ่มค่ะ”

พยาบาลพูดเสียงต่ำขึ้น

เจตต์พยักหน้า แล้วรู้สึกว่าเสียงของพยาบาลคนนี้มีความคุ้นหูอยู่บ้าง แต่ว่าก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

“ระวังหน่อยนะ เบา ๆ หน่อย อย่าทำให้นรมนตกใจตื่นล่ะ”

“ได้ค่ะ!”

พยาบาลเข็นรถเข็นเดินผ่านข้างกายของเขาไป

เจตต์เข้ามาในห้องน้ำแล้วจัดการธุระของตัวเองไปครู่หนึ่ง ในตอนที่หยิบบุหรี่ออกมาสูบนั้น อยู่ ๆ ก็นึกถึงพยาบาลคนเมื่อกี้ขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย