แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 466

บทที่ 466 ไม่รอบคอบเท่าผู้ชายอย่างเจตต์

คมทิพย์ยังคงมึนงง แต่พอเห็นพฤกษ์คุมตัวตังเมเอาไว้ เธอถึงได้เข้าใจทุกอย่าง

เมื่อสักครู่ เธอเกือบทำให้นรมนต้องตกอยู่ในอันตราย!

พอรู้แบบนี้ก็ยิ่งทำให้คมทิพย์เริ่มกรุ่นโกรธ

เธอเดินมาหยุดตรงหน้าของตังเม จากนั้นก็ยกเท้าขึ้นถีบเธออย่างกระหืดกระหอบ “นรมนกับแกบาดหมางอะไรกันแน่ แกถึงได้เล่นงานเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้? ตังเม แกยังเป็นคนอยู่ไหม?”

เพราะว่าตังเมถูกพฤกษ์คุมตัวและปิดปากเอาไว้ ตอนนี้จึงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ทำได้แค่ส่งสายตาอาฆาตเหมือนงูพิษไปให้คมทิพย์

แต่คมทิพย์ไม่กลัว ซ้ำยังถีบเธออีกครั้งด้วยความรุนแรง แต่พฤกษ์กลับพูดขึ้นมาว่า “รีบไปเรียกพยาบาลมาก่อนเถอะ ถ้าปล่อยให้เจตต์เสียเลือดอยู่อย่างนี้ต่อไปล่ะก็ คงหมดสติแน่ๆ”

ประโยคนี้ทำให้คมทิพย์ค่อยๆหันไปมอง จึงพบว่ามีดสั้นที่เคยปักอยู่บนไหล่ของเจตต์ตอนนี้ถูกเขาดึงออกมาอย่างไม่คิดลังเล เป็นเหตุให้เลือดสดๆกระเด็นไปรอบทิศ

“เขาช่วยนรมนเหรอ?”

คมทิพย์เอ่ยถามพฤกษ์ด้วยเสียงที่ไม่ได้ดังมากนัก

พฤกษ์พยักหน้า

แววตาของคมทิพย์พลันแปรเปลี่ยนไป

เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก จากนั้นก็รีบพุ่งตัวออกไปข้างนอกด้วยความรวดเร็ว เพื่อไปตามพยาบาลเข้ามาช่วย

ทางด้านโพนี่ที่อยู่ในห้องทำงานตลอด เมื่อได้รู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับนรมน ก็รีบตามมาทันที

พฤกษ์พาตัวตังเมออกไปแล้ว

เมื่อโพนี่เห็นลดสดๆบนตัวของเจตต์ ก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “เดี๋ยวฉันทำเอง”

เธอรับหน้าที่แทนพยาบาล ด้วยการทำแผลให้เจตต์อย่างตั้งอกตั้งใจ

“แผลไม่ลึกเท่าไหร่ แต่ทางที่ดีสองสามวันนี้ก็อย่าให้แผลโดนน้ำนะ คุณได้แผลขนาดนี้ คุณกลับไปพักก่อนดีกว่า วันนี้นรมนดูท่าจะยังไม่ฟื้นหรอก”

โพนี่อ่านความรู้สึกของเจตต์ที่มีต่อนรมนจากแววตาของเขาออก

พูดตามตรง โพนี่รู้สึกขัดแย้งในใจมากๆ

เธออยากให้เจตต์ดูแลปกป้องนรมน แต่อีกใจหนึ่งเธอก็ไม่อยากให้เขาทำอย่างนั้น

เพราะถึงยังไงในใจของนรมนก็มีแต่บุริศร์

เจตต์กลับพูดออกมานิ่งๆว่า “ไม่เป็นไร เมื่อก่อนตอนอยู่ในสนามรบ แผลเล็กแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก อีกอย่างผมก็เคยผ่านช่วงที่ต้องอดหลับอดนอนมาแล้ว ไม่ได้นอนอีกสักคืนจะเป็นไรไป รอพรุ่งนี้ให้ธรณีมาค่อยพูดกันอีกทีเถอะ ถ้าปล่อยให้คมทิพย์ที่เป็นผู้หญิงเฝ้าอยู่คนเดียว ผมไม่สบายใจ”

ประโยคนี้ทำให้คมทิพย์รู้สึกผิด

“ฉันประมาทเอง ฉันนึกว่าเป็นพยาบาลของคุณหมอ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นตังเม”

พูดมาถึงตรงนี้ คมทิพย์ก็รู้สึกโทษตัวเองเป็นอย่างมาก

“เราจัดการดูแลได้ไม่เข้มงวดต่างหาก ทางโรงพยาบาลก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ”

คำพูดของโพนี่ทำให้เจตต์ต้องพูดออกมานิ่งๆว่า “ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาบอกว่าใครผิดใครถูก ผมแค่อยากรู้ว่า เธอจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่? แล้วพอฟื้นขึ้นมาจะไม่มีอาการอะไรใช่ไหม?”

เมื่อได้ยินที่เจตต์ถาม โพนี่ก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ไม่แน่ใจ อาจจะเป็นอันตรายได้ตลอดเวลา แต่ยังไงก็ต้องเฝ้าดูแลให้ดีๆ สองสามวันมานี้อาการของเธอทรุดลงอย่างหนัก ไม่ควรให้เธอกินอะไรเข้าไป หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมา ทางที่ดีควรประคองเธอเดินรอบๆก่อน แล้วค่อยให้เธอกินอาหารเหลว แต่ห้ามให้กินเยอะนะ”

“ได้ ฉันจะจำไว้!”

คมทิพย์เอ่ยปากรับคำอย่างรวดเร็ว

โพนี่ยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่พูด

เมื่อเธอเดินออกมา ทุกก้าวเดินก็เป็นไปด้วยความหนักอึ้ง

เจตต์มองคมทิพย์กับนรมนสลับกัน จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันออกไปนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ข้างนอกนะ เมื่อกี้ฉันผิดเอง ฉันไม่น่าไปเข้าห้องน้ำเลย ตอนที่เดินผ่านกับตังเมฉันเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าเธอจะมาฆ่านรมน เพราะงั้นเธอไม่ต้องโทษตัวเองแล้วนะ ถ้าง่วงก็นอนพักเถอะ มีอะไรก็ตะโกนเรียกฉันได้ ฉันจะเฝ้าอยู่ข้างนอกนี่แหละ ครั้งนี้ฉันรับรองว่าจะไม่ไปไหนแล้ว”

พูดจบ เจตต์ก็หันหลังเดินออกไป

จริงๆแล้วเขาอยากเฝ้าอยู่ข้างใน แต่เขาเองก็รู้ว่าคมทิพย์พูดถูก

ระหว่างเขาและนรมนเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่สามีภรรยา หลายๆเรื่องเขาจึงไม่สะดวกที่จะทำ โดยเฉพาะเรื่องอะไรแบบนั้นของผู้หญิง

ในตอนที่เดินมาถึงหน้าประตู เจตต์ก็นิ่งไปสักพัก จากนั้นก็พูดขึ้นมาโดยไม่ได้หันหลังกลับไปว่า “นรมนสลบอยู่ก็จริง แต่ประจำเดือนก็มาปกติ เมื่อกี้ฉันเห็นรอยเปื้อนเลือดบนเตียง ถ้าเธอสะดวก ก็ช่วยนรมนเปลี่ยนหน่อยนะ”

พูดจบ เจตต์ก็เปิดประตูออกไปทันที

คมทิพย์ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นถึงได้เข้าใจความหมายที่เจตต์พูดมา

เธอเริ่มรู้สึกผิด

เพราะหลังเที่ยงคืนเป็นช่วงเวลาที่ง่วงที่สุด เธอจึงมัวแต่ห้ามตัวเองไม่ให้หลับ แต่กลับลืมเปลี่ยนผ้าอนามัยให้นรมนไปซะอย่างนั้น พอตอนนี้ได้ยินเจตต์เอ่ยเตือน คมทิพย์ถึงได้รู้สึกผิดขึ้นมา

เธอเป็นผู้หญิง แถมยังเป็นเพื่อนรักของนรมนอีก แต่กลับไม่รอบคอบเท่าผู้ชายอย่างเจตต์

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การที่เจตต์ใส่ใจต่อปัญหาต่างๆของนรมน ทำให้คมทิพย์ต้องมองเขามุมใหม่จริงๆ ถึงขนาดคิดว่าถ้าเขากับนรมนลงเอยกัน บางทีนรมนคงไม่ต้องมาเจออะไรเลวร้ายขนาดนี้ก็ได้

บวกกับตอนนี้ไม่มีข่าวคราวอะไรจากบุริศร์เลย ก็ยิ่งทำให้คมทิพย์รู้สึกผิดหวังกับบุริศร์

เมื่อเธอเปลี่ยนผ้าอนามัยให้นรมน จึงพบว่ามันซึมเปื้อนออกมาจริงๆ

คมทิพย์รีบทำความสะอาดให้นรมนอย่างรวดเร็ว แล้วก็เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้เสร็จสรรพ จากนั้นถึงได้นั่งลง

เมื่อมองทะลุกระจกหน้าต่างออกไป ก็พบว่าเจตต์กำลังนั่งคิดอะไรไม่รู้อยู่บนเก้าอี้ ทว่าสายตาก็หันมามองทางนี้เป็นระยะๆ ท่าทีเอาจริงเอาจังของเขาทำให้คมทิพย์เริ่มประทับใจและชื่นชม

สถานการณ์ดูน่ากลัวแต่กลับไม่มีอันตรายใดๆ ส่วนนรมนเองก็หลับใหลอย่างสงบ

ในตอนที่แสงสว่างเริ่มปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้า คมทิพย์ก็ขยับไหล่ที่เหน็บชา จากนั้นก็ลุกขึ้น

เธอเห็นเจตต์ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมราวกับเป็นรูปปั้น เขาไม่ไหวติงและขยับไปไหนเลยจริงๆ

คมทิพย์จึงเทน้ำอุ่นๆแล้วเอาออกไปให้เขา

“อะ ดื่มน้ำให้ร่างกายอบอุ่นสักหน่อย”

“นรมนเป็นยังไงบ้าง?”

เจตต์ยังคงเป็นห่วงนรมน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย