บทที่ 474 คุณก็คิดถึงฉันอยู่ใช่ไหม
เจตต์มั่นใจว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง เขาเคยเป็นนายทหารมาก่อน ความรู้สึกของการถูกสะกดรอยตามเขารู้ดี
เขาลงจากรถอย่างเงียบเชียบ ก่อนที่จะจอดรถทิ้งเอาไว้ที่สนามบิน ถึงได้เดินไปซื้อตั๋วเครื่องบิน ไปประเทศที่อยู่ใกล้เคียง
คนที่สะกดรอยตามเจตต์เห็นว่าเขาขึ้นเครื่องไปแล้ว หลังจากที่สืบหาเที่ยวบินของเขา ก็ได้ต่อสายหาใครอีกคน เพื่อคอนเฟิร์มว่าทางนั้นมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับตระกูลรัตติกรวรกุลจริงๆ และอยู่ในขั้นตอนการเซ็นสัญญา ถึงได้วางใจ
เจตต์เดินทางไปในประเทศที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก็ไม่ลืมที่จะสื่อสารกับกานต์ทางเครื่องคอมพิวเตอร์
“ไอ้เด็กบ้า ฉันถูกสะกดรอยตามทันทีที่ออกจากเมืองชลธีเลย แกรู้ไหม?”
กานต์ขมวดคิ้วแน่น
“ไอคิวอย่างคุณคงไม่ได้บินไปเลยโดยตรงหรอกนะ?”
“แกคิดว่าฉันโง่นักหรือไง?”
จบประโยคเจตต์ ก็ได้พบกับกานต์ที่ผงกศีรษะ
เขารู้ว่าเจตต์มองไม่เห็นเขา ก็เลยไร้ความกังวลใดๆ
เมื่อไร้การตอบรับจากกานต์ เจตต์เอ่ยต่อ “ฉันจะเข้าไปจัดการเรื่องงานที่บริษัทก่อน เที่ยงคืนค่อยแอบออกไปแล้วกัน แต่ฉันบอกเอาไว้ก่อน หากแกให้เส้นทางผิดมา พาฉันลงหลุมเข้าถ้ำละก็ ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่”
“ไม่มีทางหรอกหน่า!”
เจตต์และกานต์พูดคุยกันอีกหลายประโยค ก่อนที่จะตัดสายทิ้งไป
เมื่อคุณนายโตเล็กเข้ามา กานต์กำลังเล่นเกมในเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่
“ต้องพักผ่อนแล้ว ห้ามเล่นคอมตลอดเวลาเข้าใจไหม?”
“หากพรุ่งนี้แกดีขึ้น ฉันจะพาแกไปเยี่ยมแม่ของแกที่โรงพยาบาล ฉันว่าแม่ของแกก็คงจะคิดถึงแกมากเหมือนกัน ตอนนี้กมลไปด้วยไม่ได้ แกเป็นลูกคนโต ต้องไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ของแกบ้างใช่ไหมล่ะ?”
เมื่อเห็นว่าคุณนายโตเล็กว่าอย่างนั้น กานต์เอ่ยเสียงแผ่ว “รออีกสักสองวันผมค่อยไปดีกว่า คุณย่าฮะ ไข้ผมยังไม่หายดี ผมไม่อยากเอาไปติดหม่ามี้ด้วยฮะ ไม่อย่างนั้นอีกเดี๋ยวผมจะคอลไปหาเธอ พูดคุยกับเธอสักหน่อย”
“ก็ได้ แกเป็นคนมีความคิด ในเมื่อแกกลัวว่าจะเอาไปติดแม่ของแก ถ้างั้นก็เอาอย่างที่แกว่าแล้วกัน”
คุณนายโตเล็กเผยรอยยิ้มหวาน ก่อนที่จะเดินออกจากห้องของกานต์ไป
หลังจากที่ออกมาจากห้อง คุณนายโตเล็กได้มุ่งมาที่ร้านดอกไม้
นี่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเธอ น้อยนักที่จะมีใครที่สามารถเข้ามาได้ ดอกไม้ที่นี่คุณนายโตเล็กเป็นคนปลูกสร้างกับมือ ทุกต้นล้วนเป็นหยาดเหงื่อแรงใจของเธอ
เธอหยิบบัวรดน้ำขึ้นรดน้ำให้กับดอกไม้ ดูแล้วอิ่มเอมใจ
ไม่นาน เงาร่างปริศนาหนึ่งมุ่งเข้ามา พร้อมเอ่ยทักทายอย่างนอบน้อมเมื่อเห็นคุณนายโตเล็ก “คุณนาย”
“มาแล้วเหรอ?”
แม้ว่าคุณนายโตเล็กจะไปหันกลับไป แต่เธอก็รู้ว่าผู้ที่มาใหม่เป็นใคร
“ครับ มาแล้ว”
กิมจิรับบัวรดน้ำในมือของคุณนายโตเล็กมาไว้
คุณนายโตเล็กให้เขานั่งลงที่เก้าอี้หวาย “เจตต์ออกนอกประเทศแล้วเหรอ?”
“ครับ ผมสั่งให้คนสะกดรอยตามแล้ว แต่เขารอบคอบมาก เขาบินไปดูงานที่บริษัทเขาครับ”
ประโยคของกิมจิทำให้คุณนายโตเล็กหัวเราะออกมา “ถือว่าไอ้หมอนี่มีสมอง คนของเราคงถูกเขาพบเข้าแล้ว ตอนกลางคืนสั่งให้คนอื่นคอยตามเอาไว้ ครั้งนี้ฝีมือใช้ไม่ค่อยได้”
“ครับ! แต่ว่าคุณนาย ทำไมท่านถือนึกสะกดรอยตามเจตต์? หรือว่าเขาจะรู้ที่อยู่ของคุณชาย?”
“เขาไม่รู้ แต่กานต์รู้”
คุณนายโตเล็กจับจ้องไปที่กิมจิที่อยู่ตรงหน้า พร้อมเอ่ยอย่างมีนัย “กานต์เป็นความหวังของตระกูลเรา พรสวรรค์ของเด็กคนนี้เหมือนกับบุริศร์ในวัยเด็กไม่ผิดเพี้ยน แม้ว่าอายุยังน้อย แต่รอบคอบ เขาสามารถใช้คอมพิวเตอร์แกะรอยของบุริศร์ได้อย่างไร้การเคลื่อนไหว สิ่งนี้นอกจากบุริศร์แล้วไม่มีใครที่สามารถทำได้ ในเมื่อเด็กคนนั้นไม่อยากบอกฉัน ฉันก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่ฉันเป็นแม่ของบุริศร์ ตอนนี้นอกจากสภาพแบบนี้ของนรมนแล้ว ฉันมีสิทธิ์ที่จะได้รู้ว่าลูกชายของฉันคิดจะทำอะไรกันแน่ ตกลงแล้วมันเกิดอะไรกัน”
เมื่อกิมจิได้ฟังคุณนายโตเล็ก เขาถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ทำไมถึงไม่ให้คุณชายรองสะกดรอยตามเจตต์แทนล่ะครับ?”
“ตรินท์? ตรินท์ช่วงนี้ยุ่งมาก ส่วนยุ่งอยู่กับอะไรนั้น ฉันไม่แน่ใจ งานที่บริษัทฮัวยูกรุ๊ปเองก็เยอะมาก ไม่จำเป็นต้องรบกวนเขาเพราะเรื่องนี้หรอก แกต้องเข้าใจ ว่าแม้ฉันจะให้แกสะกดรอยตามเจตต์ ให้ทุกคนในอาณาจักรรัตติกาลฟังคำสั่งของตรินท์ แต่แกต้องรู้ว่านายของแกคือใคร”
“ครับ!”
กิมจินิ่งไป ก่อนที่จะเข้าใจความหมาย
คุณนายโตเล็กเอ่ยเสริม “ฉันมองอาณาจักรรัตติกาลให้กับนรมนไปแล้ว นรมนก็คือนายของพวกแก แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาณาจักรรัตติกาล ฉันให้ตรินท์รับช่วงแทน แต่ความปลอดภัยของนรมนพวกแกก็ไม่สนใจแล้วงั้นเหรอ?”
เมื่อเห็นว่าคุณนายโตเล็กเริ่มเคร่งครัดขึ้นมา กิมจิหวาดสั่นเล็กน้อย
“คุณนาย เพียงแค่งานที่คุณชายรองสั่งค่อนข้างเยอะ เราไม่อาจขัดคำสั่งได้”
“ไม่อาจขัดคำสั่ง? บอดี้การ์ดตระกูลโตเล็กตั้งมากมาย ตรินท์ไปใช้พวกเขาได้อยู่แล้ว ไม่ต้องใช้คนของอาณาจักรรัตติกาลทุกเรื่องไป ส่วนภารกิจที่สำคัญที่สุดของพวกแกไม่ใช่การปกป้องนรมนงั้นเหรอ? เป็นถึงนายหญิงอาณาจักรรัตติกาล แต่กลับถูกลักพาตัว แถมคนที่ไว้วางใจได้ไม่มีสักคน! หากไม่ใช่เจตต์ไอ้หมอนั่นมีพรรคพวกอยู่บ้าง สืบค้นที่อยู่ของนรมนจนเจอ พวกแกคงได้แบกร่างที่ไร้วิญญาณของนายหญิงแกมาให้ฉันแล้ว”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ คุณนายโตเล็กโมโหขึ้นมา
เป็นถึงคุณนายตระกูลโตเล็ก แต่กลับถูกลักพาตัวอย่างโจ่งแจ้ง ที่น่าขันไปมากกว่านั้น ตอนนี้ยังไร้ข่าวคราวของพวกที่ลักพาตัวเธอว่าเป็นใครกันแน่ นี่เป็นความอัปยศของอาณาจักรรัตติกาล!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...