บทที่ 477 เหมือนว่าคุณชายรัตติกรวรกุลตกทะเล
นรมนเปิดไทม์ไลน์ออก เมื่อเห็นสัญลักษณ์เล็กๆ สีแดง เธอยิ้มกว้างอย่างดีใจ
เธอไม่รู้ว่าบุริศร์จะตอบเธออย่างไร แต่ก็น่าจะคิดถึงเธอเหมือนกันล่ะมั้ง?
เมื่อคิดเช่นนั้น นรมนเอื้อมนิ้วจิ้มกดทันที หากแต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจตต์ไปซะได้
“ที่รัก ผมเองก็คิดถึงคุณเหมือนกัน เราใจตรงกันเกินไปรึเปล่า?”
นรมนผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังคงตอบกลับไป “เสียดายที่คนที่ฉันคิดถึงไม่ใช่คุณ”
“แทงใจดีจังเลย”
เจตต์จับจ้องที่ข้อความบนโทรศัพท์ ด้วยความสลดอย่างมาก
นรมนกลับส่งสติกเกอร์รูปหน้ายิ้มกลับไป อย่างไร้ความปรารถนาที่จะสนทนาอีกต่อไป
คนที่คิดถึงที่สุดไม่มา คนที่ตอบกลับกลับไม่ใช่คนที่ตนรอคอย ความรู้สึกนี้ไม่ค่อยจะดีนัก
เธอลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ ก่อนที่จะปิดเครื่อง ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง
ในเมื่อบุริศร์ไม่อยู่ ถ้าอย่างนั้นเธอก็นอนเถอะ
บางทีจะอาจจะได้พบกับบุริศร์ในฝันก็ได้
พวกเขาแยกจากกันได้หกวันแล้ว!
อีกสองวัน บุริศร์ก็จะกลับมาแล้ว
อีกสองวันเธอไม่รู้ว่าจะผ่านมันไปได้อย่างไร?
นรมนพลิกไปตะแคงมา ยังไงเธอก็นอนไม่หลับ ท้ายที่สุดเธอได้แต่ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตนเอง นอนไปอย่างพยายาม
เจตต์จับจ้องหน้าจอโทรศัพท์นิ่ง อย่างใช้ความคิดว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะไม่ให้นรมนเบื่อตน แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็คิดศัพท์เพื่อที่จะตอบเธอไม่ได้
เขารอคอยข้อความของนรมน แต่ผ่านไปนาน กลับไร้ปฏิกิริยาใดๆ
เจตต์จ้องมองนาฬิกา เวลานี้นรมนคงหลับไปแล้ว
ชายหนุ่มจับจ้องภาพของนรมนบนหน้าจอโทรศัพท์ เจตต์ยิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดี
เขากดเซฟรูปภาพลงในโทรศัพท์อย่างระมัดระวัง เสมือนกับเป็นที่ของที่ล้ำค่า
เที่ยงคืน ด้านนอกเงียบสงัด
เจตต์กลับสวมชุดสีเข้มออกจากโรงแรม
เขาตั้งใจออกจากโรงแรมด้วยประตูหลัง หันมองซ้ายขวาเมื่อพบว่าไม่มีคนสะกดรอยตามมาด้วย จึงขึ้นไปบนรถคัน หนึ่งก่อนที่จะมุ่งไปสู่ยอดเขาแห่งหนึ่ง
ซึ่งมีเครื่องบินลำหนึ่งได้จอดรออยู่ก่อนแล้ว
เพราะภารกิจครั้งนี้เป็นความลับสุดยอด ของจึงไม่ได้พาใครไปเลย เขาบังคับเครื่องบินออกจากเมืองด้วยตนเอง
ขณะที่เขาออกเดินทางไม่นาน โรงแรมที่เขาได้อาศัยอยู่ภายในห้องหนึ่งชายปริศนาคนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นสื่อสารกับกิมจิที่อยู่อีกทาง “หัวหน้ากิมจิ คุณชายรัตติกรวรกุลออกไปแล้วครับ เราได้ติดเครื่องรับสัญญาณเอาไว้แล้ว กำลังสแกนอยู่ นอกจากนี้ตัวรับสัญญาณที่ฝังไว้ในเนกไทของคุณชายรัตติกรวรกุลก็ใช้งานได้เช่นกันครับ”
“รู้แล้ว จำเอาไว้ ห้ามแตะต้องโทรศัพท์ของเจตต์เป็นอันขาด นั่นเป็นฟิลด์ของคุณชายกานต์ หากคุณชายกานต์รู้ขึ้นมาเราแย่แน่”
“ครับ!”
ในขณะที่ด้านนี้เริ่มปฏิบัติการ
เจตต์กลับไม่รู้ว่าตนถูกสะกดรอยตาม เขามุ่งไปนามเส้นทางที่กานต์ให้ไว้ ในเวลาอันสั้นเขาได้มาถึงสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
ทางด้านกานต์เองก็กำลังจับตาดูทุกสิ่ง ด้วยความรู้สึกว่าสัญญาณของเจตต์มีสิ่งรบกวน
“อาเจตต์ อาได้ใกล้ชิดกับใครที่โรงแรมบ้างไหม?”
คำถามของกานต์ทำให้เจตต์ประหลาดใจ
“นอกจากพนักงานเข้ามาทำความสะอาดแล้ว ไม่ได้พบใครที่ไหนเลย มีอะไร?”
“แปลกจัง ผมรู้สึกว่าโทรศัพท์คุณอามีสิ่งอื่นรบกวนอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบนเครื่องบินหรือสัญญาณติดตามอื่นกันแน่”
กานต์บ่นอุบด้วยความประหลาดใจ
ประโยคของเขา ทำให้เจตต์ขมวดคิ้วเป็นปม
“แกหมายความว่า มีคนจับตามองฉันอยู่?”
“ไม่รู้สิ ทางด้านฉันตรวจไม่ได้ อีกฝ่ายคงเป็นยอดฝีมือ”
น้อยครั้งนักที่กานต์จะยอมรับว่าตนสู้คนอื่นไม่ได้ ครั้งก่อนที่แข่งกับบุริศร์ เขาแพ้ให้กับบุริศร์ ครั้งนี้จะเป็นใครกันนะ?
เจตค์ค่อนข้างระวังตัวมาก เมื่อนึกได้ดังนั้น เขาจึงเอ่ยเสียงแผ่ว “ฉันมีวิธี แต่แกต้องรอฉันติดต่อกลับไป”
“วิธีอะไร?”
กานต์พูดจบ ก็ได้พบกับเครื่องบินของเจตต์มุ่งลงไปยังด้านล่าง
“อาเจตต์!”
กานต์หัวใจหล่นวูบ
ด้านล่างเป็นทะเลสาบนะ!
แต่เจตต์กลับไม่ทิ้งท้ายอะไรไว้ เขาบังคับเครื่องบินลงไปสู่ทะเลสาบ
หลังจมสู่ทะเลสาบ ความอึดอัดแล่นเข้ามา
เจตต์มีความสามารถในการว่ายน้ำระดับสูง เขาเปิดประตูออก หนีออกจากเครื่องบิน
ทางด้านกิมจิสูญเสียสัญญาณทุกอย่างไปในพริบตา
“หัวหน้ากิมจิ เราสูญเสียสัญญาณทั้งหมดไป คุณชายรัตติกรวรกุลเหมือนว่าตกสู่ทะเลไปครับ”
“ตกทะเล?”
กิมจิประหลาดใจ
เจตต์เป็นนักบิน ความสามารถของเขาถือว่าเป็นยอดฝีมือ จะตกทะเลไปได้อย่างไร?
มีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือพวกเขาถูกค้นพบแล้ว
“บ้าเอ๊ย! เราตามเขาไม่ทันแล้ว”
กิมจิไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้อยู่ดี
มาถึงขนาดนี้แล้ว ต่อให้พวกเราวางแผนทั้งหมดใหม่ ก็หาตัวเจตต์ไม่เจออีกแล้ว
เจตต์จัดการโทรศัพท์ตนเองเรียบร้อยก่อนลงทะเล อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างมีปัญหา ยกเว้นโทรศัพท์มือถือ
เขาหนาวจนตัวสั่น หลังจากที่ขึ้นฝั่งได้ เขาจัดการสภาพที่น่าอนาถของตนยังบริษัทในเครือของเขาที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนที่จะออกเดินทางต่อด้วยเครื่องบินส่วนตัวลำอื่น พร้อมกับเปิดโทรศัพท์ของตนเป็นโหมดการบิน และทำการเปลี่ยนเบอร์ในโทรศัพท์อีกเครื่อง
ขนาดนี้แล้ว อย่าว่าแต่กิมจิเลย ต่อให้เป็นกานต์เองที่ต้องการตามหาตน ก็ต้องเสียกำลังอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...