สรุปตอน บทที่ 523 เกือบไปแล้ว! – จากเรื่อง แค้นรักสามีตัวร้าย โดย เมียวเมียว
ตอน บทที่ 523 เกือบไปแล้ว! ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง แค้นรักสามีตัวร้าย โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 523 เกือบไปแล้ว!
“คุณอาป้อง ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ หลังจากนี้ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว คุณช่วยแด๊ดดี้ของผมด้วยเถอะนะ เขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายจริงๆ ก็ได้”
กานต์ร้องไห้ออกมาทันที
เรนนี่ถ้าไม่เคยเห็นกานต์ร้องไห้เลย ตอนที่เพิ่งมาถึงสโมสรเขาก็ร้องไห้แค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น ทว่าก็เก็บเอาไว้ในใจได้ทุกครั้ง แต่พอได้มาเห็นกานต์ร้องไห้เหมือนคนเจ้าน้ำตาแบบนี้แล้ว ก็รีบหยิบทิชชู่มาซับน้ำตาให้เขาทันที
หากแต่เด็กชายกลับไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาอยากจะลุกไปขอร้องป้อง
เมื่อโพนี่เห็นสภาพนี้ของเด็กชาย ก็อดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่ป้องแล้วพูดว่า “เอาละ คุณก็เลิกทำให้เด็กๆ กังวลได้แล้ว จริงๆ เลยเชียว คุณจะพูดเรื่องนี้กับตาหนูนี่ไปทำไม คุณชายบุริศร์เก่งกาจขนาดนั้นย่อมเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว”
“ผมก็แค่อยากสอนบทเรียนให้กับเขาว่าอย่าได้หนีออกจากบ้านอีก เธอจะหนีออกจากบ้านคนเดียวก็ช่างเถอะ แต่กระทั่งครอบครัวก็ยังพาไปสู่อันตรายด้วย เคยคิดถึงผลลัพธ์จากการกระทำนี้ของเธอบ้างหรือเปล่า ตอนนี้ร่องรอยแด๊ดดี้ของเธอก็ยังไม่แน่ชัด ตอนที่หม่ามี้ของเธอได้ยินว่าเธอหนีออกจากบ้านก็อาการทรุดหนักอีกครั้งทั้งที ต้องหยอดน้ำเกลือทุกวันเพื่อประคับประคองสภาพร่างกายให้เป็นปกติ กานต์ เธอก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง แน่นอนว่าสามารถเอาแต่ใจได้ แต่ตอนนี้เธอได้รู้ถึงผลลัพธ์ของการเอาแต่ใจตัวเองแล้วหรือยัง”
คำพูดของป้องทำให้กานต์รู้สึกผิดอย่างมาก
เขาไม่เคยคิดถึงผลลัพธ์พวกนี้เลยจริงๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะความเอาแต่ใจของตัวเอง บางทีก็อาจจะไม่เกิดเรื่องมากมายกับเขาเหมือนดั่งตอนนี้ก็ได้ และถ้าไม่ใช่เพราะว่าความเอาแต่ใจของตนเอง แด๊ดดี้กับหม่ามี้ก็คงไม่เป็นแบบนี้
กานต์ทั้งรู้สึกผิดและสำนึกเสียใจจะตายอยู่แล้ว
พอเห็นเด็กชายต้องเจ็บปวดแบบนี้ โพนี่ก็รู้สึกทนไม่ได้ขึ้นมา
“ป้องคะ พอเถอะนะคะ”
“เขาเป็นเด็กผู้ชาย ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาเป็นลูกชายของบุริศร์! วันข้างหน้าต้องทำเรื่องอะไร ต้องรับผิดสิ่งใด เขาควรที่จะเริ่มเรียนรู้เรื่องพวกนี้ได้แล้ว”
“แต่เขาก็เป็นแค่เด็กอายุสี่ขวบ!”
โพนี่รู้สึกว่าป้องเข้มงวดกับกานต์มากเกินไปแล้ว
แต่ป้องกลับหัวเราะออกมาพลางพูดว่า “เด็กอย่างนั้นเหรอ คุณเคยเห็นเด็กอายุสี่ขวบที่ไหนสามารถส่งข่าวมาจากสโมสรลับได้บ้าง เขาถูกลิขิตให้มีความพิเศษตั้งแต่แรกเกิด ก็ได้ ฉันจะไม่พูดเรื่องพวกนี้กับเธอแล้ว กลับไปแล้วแด๊ดดี้กับหม่ามี้ของเธอก็ต้องพูดกับเธออยู่ดี เธอไม่ต้องกังวลไปหรอก ถึงตอนนี้จะยังไม่สามารถติดต่อกับแด๊ดดี้ของเธอได้ แต่เขาก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายมากมายนะ เธอเองก็พักฟื้นอยู่ที่นี่ดีๆ เถอะ ฉันจะบอกหม่ามี้ของเธอให้เอง”
“ผมอยากกลับไปหาหม่ามี้”
เด็กชายยังคงไม่สบายใจ
ป้องกลับพูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เธอยังกลับไปไม่ได้ ฟังนะ เธอต้องอยู่ในการคุ้มครองของฉันกับคุณน้าโพนี่ที่นี่จนกว่าแด๊ดดี้ของเธอจะมารับตัวเธอกลับไป ขอแค่เธอสบายดี แด๊ดดี้กับหม่ามี้ของเธอก็จะสบายดีเช่นกัน เข้าใจไหม”
“แล้วกมลล่ะครับ คุณอาของผมเขา...”
กานต์ยังไม่ทันจะพูดจบก็ถูกป้องขัดเอาไว้
“กมลยังคงมีกิจจาอยู่ เธอดูแลตัวเองให้ดีก็พอแล้ว อย่ากลับไปให้หม่ามี้ของเธอเห็นเธออยู่ในสภาพเจ็บไปทั้งตัวแบบนี้เลย แบบนั้นจะทำให้นรมนปวดใจเอาได้”
เด็กชายไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
เขารู้แล้วว่าความเอาแต่ใจของตัวเองในครั้งนี้ได้ทำร้ายคนมากมาย ดังนั้นในเมื่อตอนนี้ป้องให้เขาพักอยู่ที่นี่ เขาก็จะอยู่ที่นี่แล้วกัน
ป้องกับโพนี่เอ่ยกำชับกานต์อีกสองสามเรื่อง จากนั้นก็ค่อยพากันออกไป
เรนนี่ริมน้ำให้กานต์อย่างรวดเร็ว เธอยังคงดูแลเอาใจใส่เด็กชายดังเช่นตอนที่อยู่ในสโมสรแห่งนั้น
กานต์ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “ที่ฉันเคยบอกไปว่าจะพาเธอออกมา ฉันทำได้แล้วนะ รอแด๊ดดี้ของฉันกลับมาแล้ว ฉันก็จะขอให้เขาช่วยตามหาเบาะแสพี่สาวของเธอให้ วางใจเถอะ มีฉันอยู่ ไม่มีทางที่จะปล่อยให้เธอต้องเจ็บช้ำน้ำใจแน่นอน”
ดวงตาของเรนนี่เปียกชื้นขึ้นมาทันที
“ขอบคุณนะ!”
เธอแสดงท่าทางให้กานต์ แต่กานต์ยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอก! ก็เธอเป็นฝ่ายดีกับฉันก่อนนี่นา”
เด็กทั้งสองคนต่างส่งยิ้มให้กันและกัน จากนั้นกานต์ก็กลับไปพักผ่อน
เขาเหนื่อยเกินไปแล้วจริงๆ
ทว่าทางฝั่งบุริศร์ที่อยู่บริเวณเมืองใกล้ๆ กลับต้องเสียเบาะแสของพวกค้ามนุษย์ไปอีกครั้ง
“คุณชายบุริศร์ครับ ผมคิดว่าพวกเราควรใช้พลังอำนาจของอาณาจักรรัตติกาลดีไหมครับ”
บุริศร์พยักหน้าเบาๆ ให้กับคำพูดของกิมจิ
“ใช้มันเถอะ จากนั้นนายก็ฉวยโอกาสตอนที่ฟ้ายังมืดกลับไปปกป้องดูแลพวกคุณนายที่ตระกูลโตเล็ก”
บุริศร์ออกคำสั่งอย่างใจเย็น
กิมจิพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ทางฝั่งนี้คุณสามารถจัดการคนเดียวได้ใช่ไหมคะ”
“ไม่มีปัญหา เทียบกับนรมนแล้วฉันยังถือว่าไม่เป็นไร ฉันกลัวว่าตรินท์จะลงมือกับเธอเข้า”
ไม่รู้ทำไมช่วงนี้บุริศร์ถึงได้รู้สึกจิตใจไม่สงบมากขึ้นเรื่อยๆ
“ครับ”
กิมจิส่งคนออกไปตรวจสอบข่าวคราว ส่วนตนเองหลังจากปลอมตัวเสร็จก็ขึ้นรถไฟความเร็วสูงกลับไปยังเมืองชลธี
เมื่อเห็นนรมนก็รู้สึกกังวลเป็นพิเศษ
“เป็นยังไงบ้าง บุริศร์ยังสบายดีอยู่ไหม”
“คุณนายวางใจเถอะครับ ตอนนี้คุณชายบุริศร์ยังไม่ได้เป็นอะไร เพียงแต่ระหว่างทางเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น”
กิมจิเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับบุริศร์ในระหว่างทางให้นรมนฟัง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็รู้ดีว่าบุริศร์ไม่ได้สบายดีเหมือนกับที่กิมจิพูดขนาดนั้น
“ให้ผมปกป้องพวกคุณเถอะครับคุณนาย”
“รีบไปเถอะ”
นรมนให้กิมจิรีบไป
ตอนนี้เธอไม่รู้เลยสักนิดว่าตรินท์จะมีปฏิกิริยาอย่างไรหลังจากที่สโมสรถูกบุกเข้าไป แต่เธอไม่มีทางที่จะฉีกกระชากหน้ากากของเขาออกมาก่อนอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นคนที่จะได้รับอันตรายมากที่สุดก็คือบุริศร์
เธอและกมลต่างก็เป็นตัวประกัน รับรองได้ว่าสามารถใช้จัดการบุริศร์ได้อย่างอยู่หมัดแน่นอน
นรมนสูดหายใจเข้าลึกๆ ตรินท์กำลังกลับมาแล้ว สิ่งที่เธอปรารถนามากที่สุดในตอนนี้ก็คือการที่บุริศร์จะกลับมาอย่างปลอดภัย
เธอเอนตัวลง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมกายแล้วแกล้งทำเป็นหลัก
หลังจากที่ตรินท์กลับมาถึงคฤหาสน์ เขาก็ขึ้นมายังชั้นสองแล้วตรงไปที่ห้องนอนของนรมนทันที
นรมนสัมผัสได้ว่าตรินท์ขยับเข้ามาใกล้ และยิ่งสัมผัสได้อีกว่าดวงตาอันเฉียบคมคู่นั้นของเขากำลังจ้องมองตัวเธออยู่
เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหายใจให้สม่ำเสมอ ซึ่งแทบไม่ต่างอะไรกับลมหายใจของคนที่นอนหลับไปแล้ว ถึงแม้หัวใจของเธอจะเต้นเร็วมาก็ตาม แต่เธอก็ยังคงอดทน มือทั้งสองข้างที่อยู่ใต้ผ้าห่มชื้นไปด้วยเหงื่อ
ตรินท์จับจ้องนรมนอยู่นาน เมื่อเห็นว่าการหายใจของเธอมีอัตราความถี่คงที่ ก็หมุนตัวเดินออกไป
เขาเป็นคนขี้ระแวงสงสัย ตอนที่ใกล้จะออกไปจากห้องของนรมน อยู่ๆ ก็หันกลับมาเสียอย่างนั้น
ดวงตาคู่นั้นคล้ายกับจะสามารถจ้องนรมนให้ทะลุได้
โชคดีที่นรมนไม่ได้ขยับอะไร เธอยังคงอยู่ในสภาพเช่นเดิม กระทั่งลมหายใจก็ยังสงบนิ่ง
ตรินท์ถึงได้หมุนตัวเดินออกไปแล้วจริงๆ ทั้งยังช่วยปิดประตูให้เบาๆ ราวกับตนเองไม่เคยมาที่นี่อย่างไรอย่างนั้น
หลังจากที่เขาออกไปนรมนก็ถอนหายใจแรงๆ อย่างโล่งอก
เกือบไปแล้ว!
เมื่อกี้ถ้าเธออดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ละก็ จะต้องเผยไต๋ออกมาแน่ๆ
ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าเธอกับลูกจะมีจุดจบอย่างไร และเธอก็ไม่กล้าที่จะคิดด้วย
ตอนนี้เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย
เขาจะลงมือกับพวกเด็กๆ ไหมนะ
เมื่อนึกถึงตรงนี้ นรมนก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว ความรู้สึกกระวนกระวายคอยวนเวียนจนเธออยู่ไม่เป็นสุข
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...