บทที่ 539 มอบร่างกายให้ผู้ช่วยชีวิตอย่างรู้บุญคุณ
“พี่ภาคิน โดนัทไม่มีแล้ว ในครัวไม่ให้หนำแล้ว พี่ไปบอกพวกเขาให้หน่อย”
เมื่อร่างของกมลปรากฏตัวต่อหน้านรมน นรมนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เธอก้าวไปข้างหน้าและกอดนรมนเอาไว้เสียแน่นพลางพูดด้วยเสียงสั่นครือ“เด็กคนนี้ ลูกวิ่งไปที่ไหนมา? หือ หนูรู้ไหมว่าแม่กับกิจจาห่วงหนูมากเท่าไหร่”
“หม่ามี้?”
กมลรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เธอมีความสุขมาก
“หม่ามี้ มาที่นี่ได้อย่างไรคะ? เจ๋งมากเลย พี่ภาคินโทรหาแม่หรือเปล่า? แต่หนูโทรไป มันขึ้นสายไม่ว่างตลอดเลย หม่ามี้คุยกับใครอยู่คะ? แด๊ดดี้หรือเปล่า? แด๊ดดี้ไม่ใช่ของหม่ามี้คนเดียวนะ ทำไมหม่ามี้มักจะยึดแด็ดดี้ละ? แด๊ดดี้กลับมาหรือยังคะ”
กมลพ่นออกมาแต่ละคำถามที่ทำให้นรมนรู้สึกเจ็บปวดใจ
บุริศร์ คุณรู้ไหมว่าเจ้าตัวน้อยของคุณกำลังรอให้คุณกลับมา
ใจของนรมนเจ็บปวด แต่กลับพูดด้วยเสียงต่ำ “โทรศัพท์ของหม่ามี้โทรไม่ติด หนูก็จะอยู่ที่บ้านคนอื่นไม่กลับไปแล้วเหรอ? ยังอยากจะกินโดนัทอยู่อีกเหรอ? ใจร้ายจริงๆเลย”
ภาคินได้ยินว่านรมนเป็นหม่ามี้ของกมล เขาจึงปล่อยตำรวจไป
“แท้จริงแล้วเป็นหม่ามี้ของกมลนี่เอง คุณน้าครับ อยากไปดื่มชาข้างในก่อนไหม? ผมเพิ่งจะแจ้งตำรวจเมื่อกี้ กมลบอกว่ามีคนลักพาตัวเธอไปครับ”
เมื่อได้ยินภาคินพูดเช่นนี้ กมลนิ่งไปเล็กน้อย เธอหันไปมองตำรวจข้างกายอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มพลางพูด “เด็กค่อนข้างอ่อนไหวนะค่ะ คงมีความเข้าใจผิด พวกคุณวิ่งวุ่นกันเชียว ขอโทษด้วยนะคะ คราวหน้าฉันจะให้บุริศร์ส่งน้ำชาไปที่สถานีตำรวจ ให้พวกคุณดื่มกัน”
นรมนพูดเช่นนี้ ตำรวจก็เข้าใจโดยทันทีว่าเรื่องของตระกูลโตเล็กพวกเขาไม่ต้องเข้าไปยุ่ง
ครอบครัวร่ำรวยเช่นนี้ ถ้ามีเรื่องอะไรที่ต้องบากหน้ามาขอให้ตำรวจช่วยจัดการ พวกเขาก็จะลำบากใจเล็กน้อย บางทีคงจะลงโทษใคร แต่จะลงโทษใครก็ไม่ดีทั้งนั้น เมื่อได้ยินนรมนพูดแบบนี้ พวกเขาก็เต็มใจที่จะจากไป
“เป็นแบบนี้นี่เองสินะครับ คุณนายบุริศร์ ไม่มีอะไรก็ดีแล้วครับ พวกผมขอตัว”
ตำรวจพูดจบก็จากไป
ภาคินขมวดคิ้วเล็กน้อย ผลลัพธ์เป็นแบบนี้เขามีท่าทีไม่ค่อยพอใจ
“คุณน้าทำอะไรครับ? คุณน้าไม่เห็นท่าทางตอนที่กมลนอนสลบอยู่ข้างถังขยะ เธอถูกลักพาตัวจริงๆนะครับ”
เมื่อได้ฟังว่าลูกรักนอนสลบอยู่ข้างถังขยะ ใจของเธอชาทันที แต่เธอไม่สามารถบอกอะไรกับภาคินได้
“ขอบคุณหนูมากนะ ภาคิน ที่ช่วยกมล มีผู้ใหญ่อยู่ในบ้านไหม? ป้าจะเข้าไปทักทายเสียหน่อย เรื่องวันนี้ คราวหลังป้าจะให้แด๊ดดี้ของกมลมาขอบคุณที่หน้าประตูด้วยตัวเอง”
“แด๊ดดี้กับหม่ามี้ของผมไม่อยู่ ผมช่วยกมลคนเดียว”
ภาคินพูดเสียงแผ่ว แต่นรมนกลับได้ยินความเหงาเล็กน้อยในเสียงของเขา
“หนูอายุเท่าไหร่?”
“เจ็ดขวบครับ”
ภาคินยิ้มเล็กน้อย ท่าทีสุภาพของเขา กลับทำให้รู้สึกปวดหัวใจ
“ถ้าอย่างนั้นป้าพากมลกลับก่อน ไม่เช่นนั้นหนูไปเล่นที่นั่นกับพวกเราไหม?”
นรมนรู้ดีว่าสถานการณ์ของเธอตอนนี้ไม่เหมาะที่จะดูแลเด็กอีกคน แต่เมื่อเธอเห็นท่าทางที่เข้มแข็งของภาคิน เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงกานต์
เด็กสองคนนี้คล้ายกันได้ขนาดนี้!
และเธอเคยเป็นหม่ามี้ที่ไม่สนใจกานต์
ภาคินยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ คุณน้า ตอนบ่ายผมมีเรียนเปียโน ไปบ้านคุณน้าไม่ได้หรอกครับ”
“พี่ภาคิน กลับกับพวกเราเถอะ บ้านหนูมีพี่ชายสองคน หนูจะแนะนำให้รู้จัก พวกเขาดีมากนะ”
กมลชอบภาคินมาก เธอรีบจับมือของภาคิน
ภาคินยิ้มอย่างอ่อนโยนมากขึ้น
“วันอื่นเถอะ วันนี้พี่ไม่มีเวลาจริงๆ เดี๋ยวคุณครูก็มาแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของภาคิน นรมนก็รู้เลย ว่าเด็กคนนี้ทั้งคำพูดและการกระทำมีขอบเขตมาก เหมือนกานต์ไม่มีผิด
“โอเค ถ้าหากหนูต้องการมาหาเรา โทรหาป้าได้ทุกเมื่อ นี่เบอร์โทรศัพท์ป้าจ้ะ”
นรมนให้เบอร์โทรศัพท์เธอไป
เมื่อเจตต์เห็นว่านรมนสามารถคุยกับเด็กอีกคนหนึ่งได้อย่างจริงจัง อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “”นรมน เธอปฏิบัติกับเด็กดีมาก เด็กคนนี้ช่วยกมล พูดมาเถอะ เธอต้องการทำอะไร แค่เธอพูดออกมา ฉันจะทำให้ เป็นไง?
ภาคินมองไปยังเจตต์ เก็บอาการบนใบหน้าเล็กน้อย ท่าทางเย็นชา แต่กลับพูดด้วยเสียงต่ำ “ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณครับ บ้านของผมไม่ขาดแคลนเรื่องเงิน”
คำพูดนี้ทำให้เจตต์ชะงักไปนิด
ดูเหมือนเขาจะถูกเด็กคนนี้โกรธเสียแล้ว
ครั้งที่แล้วคือเจตต์ ครั้งนี้ก็ไอ้หมอนี่ นี่เขาเจตต์ดูเหมือนคนที่ชอบรังควานอื่นหรือ?
“ไม่ใช่ หมายความว่าอะไร? รวยกว่าฉันใช่ไหม? ฉันจะบอกอะไรนายให้ ฉันคือคุณชายเจตต์แห่งเมืองชลธี นายคงจำได้ คนที่ทำให้ฉันพูดออกมาแบบนี้ได้มีไม่เยอะหรอกนะ”
“ขอบคุณครับ ผมไม่ต้องการ”
ภาคินพูดจบ ก็หมุนตัวกลับไปคุยกับกมลด้วย “กลับดีดีนะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่ เบอร์พี่เธอก็รู้อยู่แล้ว”
“อื้อ พี่ภาคิน หนูจะคิดถึงพี่”
กมลพูดอย่างเชื่อฟัง เธอกอดภาคินอย่างไม่อยากจากไปไหน
ภาคินกอดเธอเบาๆ ยิ้มพลางพูด “พี่ก็จะคิดถึงเธอ รู้บ้านของพี่แล้ว จะมาเล่นบ่อยๆก็ได้นะ”
“จริงไหม?”
“แน่นอน”
“สัญญาแล้วนะ ว่าที่บ้านพี่จะทำโดนัทให้กิน”
กมลพูดด้วยใบหน้าที่ดูสนใจอย่างมาก
“โอเค”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...