บทที่ 544 ไม่ต้องอยู่ขวางตาแล้ว
“เกรท?นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง” เจตต์รู้สึกเหลือเชื่อ
เกรท คือพรรคพวกของเขา อยู่ที่เมืองชลธีตลอด จะมาปรากฏตัวที่ดินแดนรกร้างห่างไกลนี้ได้อย่างไรกัน แถมยังเป็นคนออกบัตรผ่านเมืองใต้ดินอีก
ในหัวสมองของเจตต์นึกถึงเมื่อหลายเดือนก่อนที่คมทิพย์เกือบถูกตัวเองดูหมิ่นที่คลับเฮาส์ ตอนนั้นดูเหมือน เกรท ก็อยู่ที่นั่นด้วย
เขาไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ก็คิดถึงเรื่องนี้ เขาเพียงแต่มอง เกรท แวบหนึ่ง
แน่นอนว่าคนที่รู้สึกเหลือเชื่อเหมือนกันย่อมเป็น เกรท ขณะเดียวกันที่เขาเห็นเจตต์ตกตะลึง ยิ้มอย่างเก้อเขิน
”คุณชายเจตต์ คุณมาที่นี่ได้ไงครับ”
“ฉันควรเป็นฝ่ายถามนายมากกว่าไหม นายอยู่เมืองชลธีไม่ใช่หรือ มาถึงนี่ทำเรื่องบัตรผ่านเมืองใต้ดินคือทำบ้าอะไรกัน ว่าไง นายเป็นคนเปิดเมืองใต้ดินนี่หรือ”
“คุณชายเจตต์พูดเล่นแล้ว ผมจะไปมีความสามารถมากขนาดนั้นได้ไง ก็แค่คนออกบัตรเท่านั้น” เกรท ยิ้มฝืนๆ
“ออกบัตรผ่านงั้นหรือ ออกให้ใคร ตอนนี้ฉันอยากไปเมืองใต้ดิน ว่าไง เราสนิทกันขนาดนี้ ยังให้ฉันต้องพูดอะไรไหม” เจตต์พูดจบก็แบมือไปทาง เกรท
เกรท ค่อนข้างลังเล
“ว่าไง เมืองใต้ดินมีอะไรปิดบังหรือ ฉันไปไม่ได้หรือ ฉันเป็นใครในเมืองชลธีใช่ว่านายไม่รู้ ฉันแค่อยากหาของเล่นใหม่ เรื่องแค่นี้นายคงไม่ถึงกับไม่ให้พี่น้องกันดูใช่ไหม”
ตั้งแต่ เกรท ปรากฏตัวที่นี่ ในใจเจตต์ก็เต้นเร็ว
ก่อนหน้านี้ที่รู้ว่าตัวเองเกือบล่วงเกินคมทิพย์โดยไม่ตั้งใจก็รู้สึกแปลกๆ แต่สืบตั้งนานก็ไม่มีเบาะแสอะไร แถมเขาจำได้วันนั้นตัวเองไม่ได้โทรหาคมทิพย์จริงๆ แต่นึกไม่ถึงคมทิพย์จะมาเพราะโทรศัพท์ของเขา แถมยังเกิดเรื่องวุ่นวายที่จัดการไม่ได้ ตอนนี้คิดขึ้นมา วันนั้นคนที่อยู่กับตัวเองตลอดก็คือ เกรท
เจตต์ไม่เคยสงสัย เกรท มาก่อน เขาเป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวกับ เกรท แต่ก็เป็นคนที่โตมาด้วยกัน ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็ติดต่อกับ เกรท เปรียบเหมือนเป็นพี่ใหญ่ของ เกรท เกรท คอยวิ่งเรื่องต่างๆ ให้เขา ไม่เคยเห็นต่างแต่อย่างใด เขานึกไม่ถึงว่าคนที่ถูกสงสัยจะเป็น เกรท
เกรท เห็นสีหน้าของเจตต์ไม่ค่อยดี น้ำเสียงก็ไม่ค่อยดี ตัวเองรู้จักเขามาหลายปี ย่อมรู้อารมณ์ของเจตต์ดี รีบพูด “ไม่ใช่อย่างนั้น ก็แค่คนในเมืองใต้ดินซับซ้อนมาก ฉันกลัวนายเข้าไปแล้วจะไม่พอใจ”
“เห็นฉันเป็นคนอารมณ์เสียง่ายหรือ ฉันก็แค่อยากเข้าไปดูสนุกๆ ไม่ต้องพูดไร้สาระแล้ว นายจะให้บัตรผ่านฉันไหม”
เห็นเจตต์ทำท่าจะต้องเข้าไปให้ได้ เกรท ก็หยิบบัตรผ่านออกมา กระซิบ “นายเข้าไปแล้วอย่าทำตัวเด่นละกัน ถ้าอยากแค่มาดูสนุกๆ งั้นก็แค่ดูอย่างเดียวไม่ต้องพูดอะไรมาก อย่าหาเรื่องล่ะ”
“นายพูดอะไร เห็นฉันเป็นคนชอบหาเรื่องหรือไง”
เจตต์ไม่พอใจที่ เกรท เตือน ทำเอา เกรท ไม่รู้ควรจะพูดอะไรอีกดี เขายื่นบัตรผ่านให้เจตต์ และบอกกฎข้างใน
เจตต์ไม่ฟังเขาพูดมาก ได้บัตรผ่านก็เข้าไปในเมืองใต้ดินทันที
เจ้าของโรงแรมเห็นพวกเขารู้จักกัน เดินเข้าไปถาม “คุณชายเกรท ในเมื่อพวกคุณรู้จักกัน จะคืนเงินค่าบัตรผ่านของเขาให้ฉันได้ไหม ไม่มีฉันพวกคุณก็ไม่ได้เจอกันจริงไหม”
“ใช่แล้ว ไม่มีเธอพวกเราก็ไม่เจอกัน งั้นเธอสมควรตาย” สีหน้า เกรท เคร่งขรึม
เจ้าของโรงแรมตะลึง ยังไม่ทันเข้าใจว่าคือเรื่องอะไรกันแน่ ก็ถูกปิดปากลากตัวออกไป
เกรท หรี่ตา รีบกดโทรศัพท์
“เถ้าแก่ เจตต์มาแล้ว เพิ่งเข้าไปเมืองใต้ดิน ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องบุริศร์หรือเปล่า คุณหาคนจับตาเขาหน่อย เขาเป็นคนจริงจัง หรือบางทีอาจจะแค่มาดูสนุกๆ อีกอย่างฝีมือเขาไม่ธรรมดา ไม่ด้อยกว่าบุริศร์ ถ้าเขาแค่มาดูสนุกจริงๆ พวกเรายังไม่ต้องหาเรื่อง ถ้าเขามาเพราะบุริศร์ล่ะก็ เถ้าแก่ คุณต้องระวังหน่อย”
พูดจบเขาก็วางสาย
เจตต์เข้าไปในเมืองใต้ดินแล้ว ทำทีเดินสำรวจไปทั่ว ก็รู้ตัวว่ามีคนคอยตามจับตาดูตัวเอง เขามองกล้องวงจรปิด อดไม่ได้ที่จะยิ้มเย็น
พนักงานต้อนรับมานำทางเจตต์ พาเขาเข้าไปในห้องส่วนตัว และให้บริการเขาเป็นอย่างดี
เจตต์เอ็นจอยเต็มที่ มองงานประมูลข้างล่าง ถามอย่างสนใจ “เด็กผู้หญิงพวกนี้อายุเท่าไรกัน ซื้อไปทำอะไรได้ หรือว่ายังต้องเอาไปเลี้ยง”
“เรื่องนี้ เอ่อ ความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ บางคนก็ชอบเด็กผู้หญิง”
คำพูดของพนักงานต้อนรับกำกวม แต่เจตต์ฟังเข้าใจ สีหน้ายุ่งยากใจ
ถึงเขาจะเป็นเพลย์บอย แต่กับผู้หญิงคือสองฝ่ายเต็มใจ ไม่มีทางขย้ำคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
เมื่อได้ยินเรื่องเช่นนี้ เจตต์รู้สึกรับไม่ได้
“เอาล่ะ ไม่ต้องอยู่ขวางตาแล้ว ฉันอยากจะอยู่ตามลำพัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...