บทที่ 546 กินเสร็จแล้วส่งกลับบ้านเก่า!
เจตต์ชีวิตนี้ใช้ชีวิตสุขสบาย นึกไม่ถึงสุดท้ายจะต้องมาตายในที่สกปรกที่แทบไม่มีคนรู้จัก เจตต์มองมีดสั้นพุ่งมาที่อกตัวเองอย่างหมดหวัง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
ขณะที่มีดสั้นแตะเสื้อผ้าของเจตต์ มองเห็นมันกำลังจะทะลุเสื้อผ้าแทงเข้าอกเขา จู่ๆ มีดสั้นนั้นก็หยุดชะงัก เขาตะลึง เงยหน้ามอง ก็เห็นบุริศร์มองเขาเจ็บปวด เหมือนพยายามซ่อนความลำบากใจ
“ไป!”
เสียงของบุริศร์แหบพร่า
“ไปด้วยกัน! ฉันรับปากนรมนแล้ว ฉันต้องพานายกลับไปด้วยกัน” เขาพูดพลางจับมือบุริศร์แน่น
บุริศร์กุมหัวตัวเองแน่น พูดเสียงแผ่ว “ตอนนี้ผมไปไม่ได้ ออกไปก็ไม่ได้ คุณไปเถอะ ไปซะ!”
“ไม่ได้! ฉันไม่สนใจนายเป็นอะไร ฉันต้องพานายไปด้วย วางใจเถอะ ข้างนอกยังมีป้อง ไม่ว่านายเป็นอะไรไป เขาต้องหาทางรักษานายได้แน่ นายไปกับฉันก่อน นรมนรอไม่ไหวแล้ว นายยังไม่รู้ น้องชายชั่วของนายทำอะไรไว้บ้าง”
ขณะที่เจตต์กับบุริศร์ฉุดกระชากกันอยู่ การ์ดก็เข้ามาล้อมพวกเขาแล้ว
“จัดการพวกมันก่อนค่อยพูด”
บุริศร์สลัดเจตต์ออกทันที พุ่งเข้าต่อสู้กับกลุ่มการ์ด เจตต์ก็ไม่กล้าชักช้า ร่วมมือกับบุริศร์ต่อสู้ฝ่ายตรงข้าม
เด็กหญิงวิ่งหนีสุดชีวิตออกไปข้างนอก ระหว่างทางเจอเข้ากับการ์ด คิดจะขวางเธอไว้ เธอควักเอาบัตรผ่านของเจตต์ให้ดู
เมื่อการ์ดดูแล้ว ก็ให้เธอไปได้
เด็กหญิงไม่รีรอเช่นกัน รู้ดีว่าพวกเขาจะไปทางเจตต์กับบุริศร์ เธอเพียงชะงักฝีเท้านิดหนึ่ง หันไปมองแวบหนึ่ง แล้ววิ่งออกไปทางด้านนอก
“เร็ว! ขวางเด็กนั่นไว้! อย่าให้เธอหนี!” ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้น เด็กหญิงตกใจวิ่งหนีให้เร็วที่สุด จะให้พวกเขาจับตัวไม่ได้!
ไม่ได้เด็ดขาด!
บางทีเป็นเพราะคุ้นเคยกับที่นี่มาแล้ว เด็กหญิงคุ้นชินทางเป็นอย่างดี เหมือนปลาช่อนมุดไปมุดมา
การ์ดพรวดเข้ามาทางเด็กหญิง เธอมีความสามารถหลบหนี แม้ทุกครั้งเกือบจะถูกจับได้ แต่ก็รอดไปได้ทุกครั้ง มองเห็นประตูใหญ่อยู่ตรงหน้า เด็กหญิงดีใจ แต่พวกเขาดึงประตูกันขโมยลง
เด็กหญิงหน้าถอดสี
ถ้าประตูเคลื่อนลงมาปิด ถึงเธอจะมีความสามารถมากอย่างไรก็ไม่มีทางหนีรอดออกไปได้ อีกอย่าง บุริศร์กับเจตต์ยังรอเธออยู่
เด็กหญิงกัดฟัน พยายามออกแรงสุดกำลัง พุ่งออกไป ขณะที่ประตูกำลังเลื่อนลงมา เธอกลิ้งบนพื้น พุ่งออกไปได้
เสียง “ปัง” ดังสนั่น ประตูกั้นการ์ดกับเด็กหญิงออกกันคนละโลก เด็กหญิงมองดวงดาวข้างนอก สูดลมหายใจลึก
ในที่สุดเธอก็เป็นอิสระ!
น้ำตาไหลรินเป็นสายจากขอบตาของเธอ
เด็กหญิงยกหลังมือป้ายหน้า หันไปมองประตูที่ปิดลง รีบวิ่งต่อไป
เธอไม่รู้ โรงแรมอิมพีเรียล อยู่ที่ไหน และยังพูดไม่ได้ ได้แต่คลำทาง ในที่สุดเธอก็เห็นชื่อ โรงแรมอิมพีเรียล ตอนฟ้าใกล้รุ่งสาง
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเด็กหญิง
เธอรีบวิ่งเข้าไป แต่ถูกการ์ดขวางไว้
เด็กหญิงอยากจะอธิบาย แต่ติดที่พูดไม่ได้ เธอร้อนใจจนหน้าแดง
“รีบไปซะ! ที่นี่ โรงแรมอิมพีเรียลโรงแรมห้าดาว ใช่ที่เด็กขอทานอย่างเธอจะเข้ามาหรือไง ไปๆๆ!”
การ์ดไล่เด็กหญิงออกไป
เด็กหญิงพูดจาอ้อแอ้อะไรบางอย่าง อยากจะอธิบาย แต่ไม่อาจสื่อสารกันรู้เรื่อง
การ์ดหัวเราะเยาะ “เป็นขอทาน แล้วยังเป็นใบ้อีก ไสหัวไป! ไม้งั้นฉันตีแน่!” พูดพลางยื่นมือมาทำท่าจะตีเด็กหญิงจริงๆ
เด็กหญิงไม่หวาดหวั่น พยายามจะพุ่งเข้าไปข้างใน แต่แรงของเธอนิดเดียว ถูกการ์ดดึงผม
“กวนบาทาหรือ”
การ์ดโกรธจนรีบยกมือขึ้น
เด็กหญิงกุมหัวตัวเองแน่น ยอมถูกตีแต่ต้องเข้าไปให้ได้
เวลานี้เอง ก็มีเสียงดังกังวานขึ้น
“ทำอะไรกัน”
“ผู้จัดการแก้วตา!”
การ์ดมองคนที่เดินเข้ามา รีบทำความเคารพ จึงปล่อยเด็กหญิง เด็กหญิงมองคนที่เดินมา เป็นหญิงสาวสวยมากคนหนึ่ง
“มีเรื่องอะไรกัน”
ผู้จัดการแก้วตา มองเด็กหญิงแวบหนึ่ง ไม่ได้สนใจมากนัก
การ์ดรีบพูด “ผู้จัดการแก้วตา เด็กขอทานนี้เป็นใบ้ จะเข้าไปข้างในให้ได้ครับ ผมกำลังไล่มันไป”
“อ้อ รีบๆ ไล่ไปซะ พวกเราที่นี่มีคนเข้าออก อย่ารบกวนธุรกิจเรา”
ผู้จัดการแก้วตา พูดจบจะเดินเข้าไปข้างใน
เด็กหญิงรีบดึงชายเสื้อ ผู้จัดการแก้วตา ส่งเสียงอ้อแอ้อยากจะบอกอะไรบางอย่าง
ผู้จัดการแก้วตา ขมวดคิ้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...