บทที่ 562 ฉันก็มาตามหาคนเหมือนกัน
“ขโมย? ที่ไหนมีขโมย?”
คนรอบกายเครียดขึ้นมาทันที
นรมนรีบแตะกระเป๋าตัวเองอย่างรวดเร็ว โทรศัพท์ยังอยู่ แต่ตราประทับที่เพิ่งนำกลับมาหายไปแล้ว
แย่แล้ว!
ตราประทับเป็นของสำคัญมากๆ ถึงมันจะเป็นชื่อภาษาอังกฤษ แต่มันก็มากพอที่แสดงสถานะของบุคคล
นรมนกังวลใจอย่างมาก แต่ทุกคนล้วนตื่นตระหนก ทำให้เธอก้าวไปข้างหน้าไม่ได้
บริกรเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ก็รีบแจ้งที่สำนักงานรักษาความปลอดภัย
บอดี้การ์ดรอบๆ ก็รีบมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
ถึงแม้นรมนจะกังวลใจ แต่ก็เดินไม่ได้ ทำได้แค่ยืนอยู่กับที่
พอหัวหน้ารักษาความปลอดภัยพาคนมา ถึงจะรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยได้
“เกิดอะไรขึ้น?”
“หัวหน้า คุณผู้หญิงท่านนี้โดนขโมยของ บอกว่าเมื่อกี้นี้มีขโมยผ่านไป”
บริการรีบพูดขึ้น
หัวหน้าเหลือบมองนรมน ถามขึ้น “อะไรหายครับ?”
“ตราประทับไม้หวงฮวาหลี”
คำพูดนรมนทำให้หัวหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ตราประทับ?”
“ใช่!”
“ออกมาข้างนอกเอาตราประทับมาทำอะไรครับ?”
“ใครออกกฎว่าออกมาข้างนอกแล้วห้ามนำตราประทับมา?”
บรรยากาศระหว่างนรมนและหัวหน้าตึงเครียดทันที
คนรอบๆ เห็นสถานการณ์นี้ ก็ไม่รู้ว่าใครพูดประโยคหนึ่งขึ้นมา
“ในเมืองใต้ดินของห้ามหาย แบบนี้ต่อไปเราเข้ามาก็ต้องนำตู้เซฟมาหรือเปล่า? เมื่อก่อนไม่เคยเห็นมีเรื่องแบบนี้เลย”
“จริงด้วย ถึงตราประทับจะไม่ได้แพง แต่มันก็เป็นสิ่งของส่วนตัว ถ้ามีคนเอาตราประทับไปทำอะไรขึ้นมา ใครจะไปรู้ล่ะ”
หัวหน้าได้ยินคนรอบๆ พูดแบบนี้ คิ้วก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้นทันที
“เอาล่ะๆ ฉันจะแก้ไขเรื่องนี้ คุณผู้หญิงท่านนี้ทิ้งวิธีติดต่อเอาไว้ เมื่อหาเจอแล้วฉันจะติดต่อคุณไป”
นรมนบอกวิธีการติดต่อของตัวเองไว้ นี่คือเบอร์โทรศัพท์ที่ตั้งขึ้นในนามคนอื่น หาตัวตนของเธอไม่เจอแน่นอน
เหตุการณ์นี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
คนรอบๆ ถูกไล่ให้กระจายหายไป นรมนมาถึงห้องส่วนตัวหมายเลขสามด้วยการนำทางของบริกร
“คุณผู้หญิง นี่คือกุญแจของคุณ ในนั้นมีสิ่งของทุกอย่าง ต้องการประมูลอะไร แค่กดบิดอย่างลับๆ ก็ได้แล้ว”
“รู้แล้ว”
นรมนรับกุญแจมาแล้วเข้าไป
เธอเพิ่งเข้าประตูไปก็สังเกตเห็นมีคนในห้อง
“ใคร?”
นรมนอยากยื่นมือออกไปด้วยจิตใต้สำนึก แต่โดนคนปิดปากจากด้านหลัง
“ชู่——อย่าพูด! ฉันขออยู่สักพัก เดี๋ยวจะสำเร็จแล้ว”
เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง
นรมนชะงักนิดหน่อย รู้สึกได้ถึงกลิ่นน้ำหอมชาแนลบนตัวผู้หญิงด้านหลัง
เธอไม่ได้ชอบน้ำหอมเท่าไรนัก ขมวดคิ้วทำท่าจะปล่อยมือ
อีกฝ่ายดูเหมือนจะเข้าใจก็พูดเสียงทุ้ม “ฉันจะปล่อยเธอ คุณห้ามเรียกคนเข้ามาได้ไหม? ฝากด้วยนะ!”
นรมนพยักหน้า
เธอก็ไม่อยากสร้างความเดือดร้อนเช่นกัน
หลังจากหญิงสาวปล่อยมือ นรมนก็หันตัวไปมอง แต่ก็ตกตะลึงทันที
นี่มันเธอ!
ผู้หญิงคนนั้นที่โดนเกรทจับตรงประตูทางเข้า! ผู้หญิงคนนั้นที่คล้ายกับตัวเอง!
“ทำไมคุณหน้าตาเหมือนฉันได้ขนาดนั้น?”
หญิงสาวเอ่ยปากด้วยจิตใต้สำนึก ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
นรมนเองก็ประหลาดใจ แต่ก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ฉันใส่หน้ากาก คุณก็มองออกเหรอว่าฉันกับคุณหน้าคล้ายกัน?”
“หน้ากากคุณมันครึ่งเดียวเอง ฉันมองรูปลักษณ์ของคุณได้จากอีกครึ่งหน้าของคุณ”
คำพูดของหญิงสาวทำให้นรมนตกตะลึงนิดหน่อย
เธอไม่มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ดูเหมือนมาถึงที่นี่แล้วไอคิวเธอก็จะลดลงเช่นกัน
เห็นหญิงสาวมองใบหน้าครึ่งหนึ่งของตัวเอง นรมนก็ถอดหน้ากากออก สองคนยืนด้วยกันก็คล้ายกันมากจริงๆ คล้ายกันถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์
“ค-คุณคงไม่ใช่ลูกสาวนอกสมรสของแด๊ดดี้ฉันใช่ไหม?”
พอหญิงสาวพูดคำนี้ออกมา เกือบทำให้นรมนสำลักแทบตาย
“คุณคิดเยอะไปแล้ว”
นรมนนั่งบนโต๊ะข้างๆ มองไปที่ฉากด้านล่าง การประมูลยังไม่เริ่มต้น เธอรินน้ำให้ตัวเองหนึ่งแก้ว ยังไม่ทันได้ดื่มหญิงสาวก็แย่งไป
“ขอบคุณนะ!”
เธอดื่มรวดเดียวจนหมดแก้วโดยไม่เกรงใจ ไม่มีความเป็นผู้หญิงเลยสักนิด
นรมนส่ายหน้าอย่างขำๆ แล้วรินน้ำให้เธออีกแก้ว
“คุณใจดีจัง”
เธอดื่มอีกครั้ง แล้วนั่งลง พูดขึ้น “คนที่พวกเขาต้องการจับคงไม่ใช่คุณหรอกใช่ไหม? ยังไงแล้วฉันก็ไม่รู้จักพวกเขา”
“ฉันก็ไม่รู้จักพวกเขาเหมือนกัน”
นรมนไม่ยอมรับหรอก
หญิงสาวเท้าคางมองนรมน จู่ๆ ก็พบอะไรบางอย่างแล้วพูดขึ้น “คุณทำศัลยกรรมเหรอ? คุณทำศัลยกรรมให้เป็นฉันจริงๆ ด้วย! ฉันว่าคุณคงไม่ได้แอบชอบฉันหรอกนะ ก็เลยทำแบบนี้? อุ๊ยตาย ฉันจะบอกคุณให้นะ ฉันชอบแค่ผู้ชายเท่านั้น!”
นรมนพูดไม่ออกสุดๆ
“ใบหน้านี้คนอื่นช่วยฉันแก้ไขมัน ฉันไม่รู้ว่ามันเหมือนคุณขนาดนั้น”
“คนอื่นคือใครอ่ะ?”
หญิงสาวสนใจมาก แต่นรมนไม่อยากพูด ถึงแม้จะแตกหักกับรเมศแล้ว แต่อย่างไรก็เคยรู้จักกัน เธอไม่ค่อยอยากแฉรเมศต่อหน้าคนอื่น ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...