บทที่ 565 นี่มันเกินความคาดหมายแท้ๆ
“ทำยังไงดี?”
นรมนค่อนข้างร้อนใจแล้ว
นภดลมองไปรอบๆ ที่นี่เหมือนโกดัง ไม่ได้มีของอะไรมากมาย มีแค่เสื้อผ้าเก่าๆ วางอยู่ ตามหลักการแล้วห้องแบบนี้คงไม่มีพวกเครื่องจักรอะไร
เขาสูดจมูก พูดเสียงทุ้ม “ห้องนี้น่าจะมีทางออกอื่น”
“อะไรนะ?”
นรมนมองนภดลอย่างไม่เข้าใจ
นภดลพูดขึ้น “ฉันได้กลิ่นที่ต่างออกไป”
“ได้กลิ่น? คุณเป็นจมูกหมาจริงๆ เหรอ?”
นี่นรมนไม่ได้ประชด นภดลฟังออก ถึงจะไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็พูดขึ้นว่า “ห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ ในห้องมีกลิ่นฝุ่นอยู่ แต่ในนี้ยังมีกลิ่นอื่นๆ ปนอยู่ด้วย เหมือนเป็นกลิ่นน้ำโซดา”
“น้ำโซดา?”
นรมนตามความคิดของนภดลไม่ทันเลย
ที่นี่ทำไมมีน้ำโซดาล่ะ?
นภดลไม่สนใจข้อสงสัยของนรมน เขารีบตามหาอย่างรวดเร็ว
ประมาณไม่กี่นาที นภดลก็ยืนขมวดคิ้วเล็กน้อยอยู่หน้ากำแพง
“เป็นอะไร?”
“ที่นี่น่าจะมีทางออก แต่ฉันหาไม่เจอว่าสวิตช์มันอยู่ที่ไหน”
ได้ยินนภดลพูดแบบนี้ นรมนก็เดินเข้าไปเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เธอมองคร่าวๆ ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร
“ฉันว่าฉันต้องปรึกษาใครสักคน”
“ใคร?”
นภดลไม่รู้ว่านรมนยังมีการช่วยเหลือจากข้างนอก
นรมนพูดเสียงทุ้ม “ลูกชายฉัน คนที่เพิ่งคุยโทรศัพท์กับฉันเมื่อกี้”
“ลูกชายคุณอายุเท่าไร?”
“สี่ขวบ!”
นรมนพูดจบ ก็ไม่ไปมองสีหน้าประหลาดใจของนภดล เปิดโทรศัพท์ทันที เชื่อมต่อหากานต์
“ลูกรัก ลูกดูหน่อยว่าที่นี่มีทางออกไหม? จะออกไปจากกำแพงนี้ได้ยังไง?”
กานต์ดูผ่านวิดีโอ แล้วพูดเสียงทุ้ม “หม่ามี้ เปิดสายข้อมูลโทรศัพท์ของคุณออก ผมต้องใช้คอมพิวเตอร์ปฏิบัติการสักหน่อย”
“โอเค”
นรมนทำตามทั้งหมดแล้ว
นภดลยืนข้างๆ เมื่อเห็นฉากนี้ก็ประหลาดใจนิดหน่อย เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโลกใบนี้มีเด็กอัจฉริยะแบบนี้ แต่เมื่อนึกถึงประสบการณ์ของตัวเอง เขาก็สงบลงอีกครั้ง
ถ้าแม้แต่ตัวประหลาดอย่างเขาก็ปรากฏบนโลกใบนี้ได้ มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีกล่ะ?
กานต์มองนภดลที่อยู่ข้างๆ นรมน ยิ้มแล้วพูดขึ้น “หม่ามี้ พี่สาวคนนี้หน้าตาสวยจัง”
สีหน้านภดลเปลี่ยนไปนิดหน่อย
นรมนกระแอมไออย่างอายๆ หนึ่งทีก่อนพูดขึ้น “ไม่ใช่พี่สาว พี่ชายจ้ะ”
“ฮะ? งั้นคุณบุริศร์ก็น่าสงสารแล้ว”
“กานต์!”
นรมนไม่รู้จริงๆ ว่าลูกชายตัวเองยังเด็กขนาดนี้แต่รู้เรื่องราวมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร
กานต์แลบลิ้นออกมาอย่างซนๆ จากนั้นก็รีบเคาะแป้นพิมพ์ บรรทัดรหัสบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เลื่อนอย่างรวดเร็ว
เสียงดังขึ้น “ติ๊ง” กำแพงตรงหน้านรมนก็ขยับทันที จากนั้นก็ถอยออกมาประมาณครึ่งเมตร
“เชี่ย”
นรมนรู้สึกนี่มัน/เกินความคาดหมายแท้ๆ
ถ้านภดลไม่พบที่นี่ แม้ว่าเธอจะขังที่นี่ไปตลอดชีวิต ก็ไม่คิดว่ากำแพงนี้มันจะขยับได้จริงๆ
“มีทางออกจริงๆ ด้วย”
“หม่ามี้ มันไม่มีอะไรเลย แค่ใช้นาโนเทคโนโลยีเพื่อสร้างผลกระทบ ให้พวกคุณคิดว่าเป็นกำแพง จริงๆ แล้วไม่ใช่ แต่มันคือประตูอิเล็กทรอนิกส์ และมีรหัสผ่าน แต่การถอดรหัสผ่านมันท้าทายเกินไปสำหรับผม”
กานต์ยักไหล่อย่างหมดหนทาง ท่าทางนั้นทำให้รู้สึกรำคาญ โดยเฉพาะนรมน
เจ้าเด็กแสบนี่ด่าเธออ้อมๆ ว่าโง่เหรอ?
เห็นสีหน้านรมนไม่ค่อยดี กานต์ก็รีบพูดขึ้น “หม่ามี้ เวลาในการสื่อสารนานเกินไปไม่ได้ มันมีการตรวจจับสัญญาณ ผมดักจับสัญญาณนานเกินไปไม่ได้ วางก่อนนะ มีอะไรก็มาหาผม”
พูดจบเขาก็รีบวางสาย
นรมนส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง
ความสามารถในการสังเกตสีหน้าและคำพูดของกานต์นี่ไม่เลวจริงๆ
นภดลเห็นเด็กที่ฉลาดและน่ารักแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา
นรมนต้องยอมรับ รอยยิ้มของนภดลทำให้ไม่สามารถต้านทานได้จริงๆ
“เดี๋ยวถ้าเจอสามีฉัน ทางที่ดีคุณห้ามยิ้มต่อหน้าเขา”
“หืม?”
นภดลค่อนข้างประหลาดใจ แต่ก็พยักหน้า
หลังจากสองคนเดินเข้ามา มีสวิตช์ก็ปิดมันทันที กลิ่นน้ำโซดาเข้มข้นพุ่งเข้าจมูก
“ใคร?”
นรมนเพิ่งเข้ามา ก็มีคนโจมตีทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...