บทที่ 573 ตอนนี้ไม่สะดวก
“หมายความว่ายังไงคะ
เมื่อนรมนได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ก็รู้สึกเหลือเชื่อ
แต่บุริศร์กลับไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก พลางเอ่ยอย่างยิ้มๆ “นอนพักเต็มอิ่มแล้วเหรอ”
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ จู่ๆใบหน้าของนรมนก็แดงฉ่าขึ้นมาทันที
“อื่อ!”
“ทำไมวันนี้เร่าร้อนเป็นพิเศษล่ะ”
บุริศร์ก้าวไปข้างหน้าพลางโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
นรมนพูดอย่างยิ้มๆ “แล้วคุณไม่ชอบเหรอคะ”
“ชอบสิ”
บุริศร์สัมผัสได้ถึงเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของนรมน ในใจของนรมนเกิดรู้สึกอาลัยอาวรณ์
ความหวานเช่นนี้ เหลือเวลาอีกเพียงแค่สองวันเองอย่างนั้นเหรอ
เธอไม่กล้าคิด ไม่กล้าถาม หรือกระทั่งไม่กล้าแม้แต่จะพูดออกมา
หลังจากที่ทั้งสองแต่งตัวเสร็จแล้ว นรมนก็พูดขึ้น :“ระหว่างที่รอคนของคุณมาถึง พวกเราไม่ควรหาเรื่องยมราชนะคะ”
“เงื่อนไขของผู้หญิงคนนั้นคืออะไร”
เมื่อได้ยินบุริศร์ถามเช่นนี้ นรมนก็รู้ได้ทันทีว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เธอจึงบอกบุริศร์เรื่องที่หล่อนขอให้กานต์มาพบ
“อยากจะเจอลูกของผมงั้นเหรอ เธอคิดว่าเธอเป็นใครกัน”
“อย่าสนเลยค่ะว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือก่อนที่พฤกษ์จะพาคนมาที่นี่ พวกเราต้องทำดีกับเธอ เพราะในตอนนี้ข้างนอกมีแต่คนของเมืองใต้ดินทั้งนั้น จริงสิ ที่เมืองใต้ดินนี้ ใครเป็นคนปลุกระดมกันแน่ ถึงได้สามารถทำให้เศรษฐีทั่วประเทศรู้จักสถานที่แห่งนี้ได้ อีกทั้งยังสามารถประมูลสิ่งของและคนได้อย่างโจ่งแจ้ง พื้นเพคนๆนี้จะต้องเป็นคนที่มีอำนาจมากแน่ๆ”
นรมนรู้สึกได้เช่นนี้นับตั้งแต่ที่เข้ามาที่นี่
บุริศร์พยักหน้าพลางเอ่ยตอบ “นั่นสิ ภายในยังมีเครื่องมือการแพทย์ที่ราคาสูงอีกต่างหาก ไหนจะนักสะกดจิตที่อยู่อันดับต้นๆของโลกอีก ภูมิหลังของคนๆนี้เป็นอะไรที่ไม่ควรมองข้ามเลยจริงๆ”
“หรือว่าจะเป็นตรินท์คะ”
นรมนเอ่ยถามไปอย่างไม่รู้ตัว โดยหลังจากที่ถามไปแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม เธอจึงรีบมองบุริศร์อย่างรู้สึกประหม่า
แต่บุริศร์กลับไม่รู้สึกกระทบอะไรมากนัก พลางเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ไม่ใช่เขาหรอก ถึงแม้ว่าเขาจะสนิทสนมกับเจ้าของเมืองใต้ดินก็ตาม แต่เขาไม่ใช่คนแบบนี้แน่นอน ตัวเขาเองก็ไม่มีอำนาจมากเท่านี้ หรือถ้าตรินท์แข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้ ก็คงไม่จะเป็นต้องกลับไปเมืองชลธีเพื่อไปมาหาสู่พวกเราหรอก ยิ่งไม่จำเป็นใช้บริษัทฮัวยูกรุ๊ปที่ผมถือหุ้นอยู่เป็นสะพานให้บรรลุเป้าหมายตัวเองหรอก”
“เป้าหมาย?ตรินท์มีเป้าหมายอะไรเหรอคะ
นรมนขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม
สายตาของบุริศร์จมดิ่ง น้ำเสียงแหบแห้ง
“เป้าหมายของเขาน่าจะเป็นผม”
“คุณ?เขาต้องการจะทำอะไรคุณคะ”
“ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะไม่มีความปรานีให้กันเลย หรือนับตั้งแต่ที่เขาตกหลุมรักเขมิกา ก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์พี่น้องระหว่างเราจะหายไป”
ขณะที่บุริศร์พูดถึงเรื่องนี้ ก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่มากล้น
เขมิกา!
คนๆนี้ตายไปแล้ว แต่ยังคงเป็นผู้หญิงที่เป็นฝันร้าย ที่ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับเธอตั้งแต่แรก
บุริศร์คิดเช่นนี้ในใจ
เมื่อนรมนได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยขึ้น “บางทีอาจจะอธิบายให้ตรินท์เข้าใจได้ก็ได้นะคะ”
“ถ้าอธิบายให้ชัดเจนก็คงไม่เกิดเรื่องราวอย่างทุกวันนี้ แต่แค่ผมยังสับสน ถ้าเขาต้องการบริษัทฮัวยูกรุ๊ป แค่พูดกับผมตรงๆก็จบแล้ว ทุกสิ่งที่ผมมี นอกจากคุณแล้ว ผมสามารถแบ่งให้เขาได้ทุกอย่าง ทำไมเขาต้องทำให้มันซับซ้อนด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง แม้ว่าสถานะจะแตกต่างกันก็ตาม แต่ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างคลับในเมืองชลธีนี่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคลับหรือสิ่งที่ตรินท์ทำอยู่ในตอนนี้ ผมมองไม่ออกจริงๆ ผมรู้สึกว่านอกจากภายนอกที่เขาเหมือนกับผมแล้ว นอกนั้นก็เปลี่ยนไปจนหมด”
นรมนชะงักกับคำพูดของบุริศร์
“เปลี่ยนไปงั้นเหรอคะ”
“อื่ม เหมือนกับเรื่องราวในเทพนิยาย ที่เปลี่ยนจิตใจของคนๆหนึ่งได้ ผมคิดว่าบางทีผมอาจจะบ้าไปแล้วก็ได้”
บุริศร์แค่นหัวเราะอย่างขมขื่น
ทว่านรมนกลับพูดอย่างตรงไปตรงมา “ไม่ค่ะ เจตต์เองก็บอกว่าแต่ก่อนตรินท์ไม่ใช่คนแบบนี้ ตรินท์ในเมื่อก่อนจะปกป้องคุณอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น เพื่อคุณ เพื่อตระกูลโตเล็ก เขาทำได้ทุกอย่าง”
“ตรินท์เคยเป็นอย่างนั้น แต่ตรินท์ในตอนนี้ทำให้ผมคาดเดาไม่ได้จริงๆ หากพูดถึงเรื่องในครั้งนี้ ถ้าเขาต้องการฆ่ากานต์จริง การที่มายด์ถูกพามาค้ามนุษย์ จึงเป็นแผนล่อให้ผมออกจากเมืองชลธี”
นรมนตกใจขึ้นมาทันที
“ที่คุณบอกว่าเขาอยากจะฆ่ากานต์ นี่เขารู้เรื่องที่กานต์และกิจจาแอบฟังงั้นเหรอคะ”
“ไม่มีอะไรรับประกัน ผมแค่คิดดู ใครเป็นคนสอนทักษะให้กานต์กับกิจจา ใครเป็นคนสอนทักษะให้คุณ ตรินท์ใช่ไหม เขาเป็นถึงผู้นำอาณาจักรรัตติกาล จะถูกเด็กสองคนหลอกได้ง่ายๆงั้นเหรอ บางทีผู้จัดการคนนั้นอาจจะไม่ได้สังเกตจริงๆว่ามีกิจจากับตรินท์อยู่ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าตรินท์จะรู้ตัวไหม มาคิดๆดูแล้ว ถ้าตอนนั้นเขาสังเกตเห็นกิจจากับกานต์ แล้วจงใจพูดออกมาว่าจะฆ่ากานต์ อย่างนั้นแล้วปฏิกิริยาต่อไปจะเป็นอย่างไร”
นรมนรีบพูดขึ้น “กิจจาจะทุกอย่างเพื่อปกป้องกานต์และรายงานพวกเราค่ะ”
“ใช่ แต่กิจจากลับวิ่งออกมาโดยทิ้งกานต์ไว้ข้างหลัง และกานต์เองก็บังเอิญถูกขังที่เดียวกับเรนนี่ ตอนนี้ เด็กๆเองก็ถูกขายออกจากคลับ ผมตรวจสอบแล้ว มีเด็กจำนวนมากที่เสียชีวิตจากการทารุณกรรมในคลับ แต่แทบไม่มีเด็กที่หลุดการขายเลย มายด์เป็นคนแรก”
เมื่อได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ นรมนก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น
“นี่จะพูดว่า ทั้งหมดเป็นฝีมือของตรินท์งั้นเหรอคะ เขาจงใจให้คนพามายด์ออกมา จากนั้นก็ทำให้เราเข้าใจผิดว่านั่นคือกานต์ ล่อให้คุณออกจากเมืองชลธีเพื่อมาที่นี่ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของเขาก็คือคุณ?”
เมื่อคิดได้เช่นนี้ นรมนก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ถูกคนใกล้ตัววางแผนเช่นนี้ บุริศร์จะรับกับความรู้สึกนี้อย่างไร เขาจะทนกับมันได้อย่างไร
นรมนจ้องมองบุริศร์ด้วยความกังวลใจ
บุริศร์กุมมือของเธอไว้แน่น “อย่างกังวลไปเลย ผมไม่เป็นไร แม้ว่าจะรู้สึกเศร้าในใจ เศร้าจนแทบจะขาดใจ แต่แค่มีคุณ มีลูกๆอยู่ข้างๆ ผมรับไหว”
“คุณคงลำบากแย่เลยสินะคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...