บทที่ 574 เพื่อความสุขของภรรยา อะไรก็ได้ทั้งนั้น
ราวกับมองเห็นความละอายใจของบุริศร์ นรมนจึงกุมมือของเขาพลางเอ่ยขึ้น “อะไรกันคะเนี่ย สีหน้าที่ดูกำลังขอโทษฉันอยู่นี้ หรือว่าคุณไปมีคนอื่นกันคะ ”
“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง บนโลกนี้มีผู้หญิงไม่กี่คนที่จะอยู่ในสายตาผม นอกจากคุณก็ไม่มีใครอีกแล้ว
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกสบายใจอย่างมาก
“คุณทำให้ฉันมีความสุขมากๆ”
“ผมพูดจริงๆนะ นี่คุณยังไม่รู้ใจผมอีกเหรอ”
น้อยครั้งที่บุริศร์จะพูดคำหวานๆออกมา จนบางครั้งนรมนก็รู้สึกว่าเขาเป็นตอไม้ แต่ตอนนี้เขามักจะพูดประโยคบอกรักออกมาบ่อยๆ ทำให้เธอรู้สึกกลับไปเป็นสาวแรกรุ่นอีกครั้ง
“ถึงตอนนี้จะพูดอย่างนี้ แต่ถ้าวันนึงที่ฉันต้องจากไป เวลาจะเป็นยารักษาที่ดีที่สุด บางทีคุณอาจจะลืมฉันในปีสองปี อาจจะมีผู้หญิงที่สวยกว่าฉัน และคุณอาจจะตกหลุมรักเธอ”
นรมนพูดอย่างทีเล่นทีจริง
แต่สีหน้าของบุริศร์ดูจะลำบากใจ
“พูดเพ้อเจ้ออะไรอีกแล้ว เรายังมีหนทางอีกยาวที่ต้องเดิน แม้ว่าวันนึงเราจะต้องแก่ลง หรือป่วย ผมก็จะตามคุณไป เมื่อถึงเวลานั้น เด็กๆก็คงจะแต่งงานและสร้างเนื้อสร้างตัวกัน แล้วก็ไม่ต้องการผมแล้วล่ะ โลกที่ไม่มีคุณมันโดดเดี่ยวเกินไป ผมจะอยู่กับคุณ”
บุริศร์พูดด้วยท่าทีที่ดูสบายๆ แต่กลับทำให้นรมนรู้สึกตกใจ
เธอรู้ดีว่าบุริศร์จะทำอย่างนั้นจริงๆ
ถ้าหลังจากสองวันนี้เธอไม่สามารถอยู่ได้แล้วจริงๆ ตอนนั้นแล้วบุริศร์จะทำอย่างไร
นรมนมิอาจรู้ได้เลย แต่ก็เกิดรู้สึกกลัวขึ้นมา
เธอมองไปที่บุริศร์ พลางค่อยๆพูดออกมาอย่างจัง “บุริศร์คะ คุณสัญญากับฉันได้ไหม ไม่ว่าในอนาคตฉันจะจากคุณไม่นานแล้วกี่ปี คุณจะต้องใช้ชีวิตนี้ให้ดีๆ พวกเรายังมีลูกสาว ลูกชาย เด็กๆยังเล็กมาก หลังจากที่สูญเสียแม่ไปแล้วพวกเขาไม่สามารถอยู่โดยไม่มีพ่อได้ คุณเป็นแบบนี้ไม่ได้นะคะ ฉันหวังว่าหลังจากที่ฉันตายไป คุณจะลืมฉันและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่อยากให้คุณตามฉันไปและปล่อยให้ลูกของเราเป็นเด็กกำพร้า คุณสัญญากับฉันนะคะ!”
สายตาของนรมนดูจริงจังมาก
คิ้วของบุริศร์ขมวดขึ้นเป็นปม
“คุณเป็นอะไรไป”
“เป็นอะไรงั้นเหรอคะ”
“คุณมีเรื่องอะไรปิดบังผมอยู่หรือเปล่า”
บุริศร์สัมผัสได้ถึงความกังวลของนรมน จึงรีบเอ่ยถาม “ฉันจะปิดบังอะไรคุณล่ะคะ หรือคุณคิดว่าฉันจะปันใจไปรักคนอื่นแล้วงั้นเหรอ”
“อย่าเปลี่ยนประเด็นสิ ทำไมผมรู้สึกว่าคุณปิดปกติไป เหมือนกับว่าคำที่พูดไปเมื่อกี้เหมือนจะเป็นคำสั่งเสียอย่างไรอย่างนั้น”
“บุริศร์ นี่แทบอยากจะให้ฉันตายจริงใช่ไหม เมื่อกี้เราก็พูดกันถึงตรงนี้ไม่ใช่เหรอ หรือว่าคุณอยากจะให้ฉันตายไปจริงๆ”
จู่ๆนรมนก็โกรธขึ้นมา
เมื่อเห็นว่านรมนโกรธ บุริศร์ก็รีบพูดขึ้น “ผมคิดแบบนั้นที่ไหนกันเล่า! ผมอยากจะอยู่กับคุณไปนานๆใจจะขาด อยู่กับคุณไปทุกๆชาติเลย”
อยู่ด้วยกันไปนาน อยู่ด้วยกันทุกๆชาติงั้นเหรอ
ฉันกับเขา เราจะเป็นไปได้ไหม
นรมนรู้สึกขมขื่นภายในใจ เธอแสร้งว่าโกรธพลางเอ่ยขึ้น “งั้นคุณหมายความว่าอะไร ที่บอกว่าสิ่งที่ฉันพูดเป็นคำสั่งเสีย หมายความว่ายังไงกันคะ”
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมก็แค่...”
“ก็แค่อะไรคะ ฉันบอกคุณแล้วไง สิ่งที่ฉันพูดเป็นสิ่งที่ใช้ได้ในชีวิตนี้ ถ้าคุณไม่สัญญากับฉัน ชาติหน้าฉันจะหนีให้ห่างจากคุณ ไม่ให้คุณเจอฉันอีกเลย”
นรมนสะบัดมือของบุริศร์ด้วยความโกรธ พลางเดินจ้ำอ้าวไปข้างหน้า แต่ภายในใจกลับรู้สึกเศร้าหมอง
ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเวลาจะผ่านไปเร็วเพียงนี้ เขาหวังว่าเวลาจะหยุดอยู่แค่นั้น และสามารถอยู่กับนรมนตลอดไป แต่มันจะเป็นอย่างนั้นได้เหรอ
นรมนไม่มีเวลาอีกแล้ว
เมื่อบุริศร์เห็นว่านรมนโกรธ จึงรีบดุตัวเองที่พูดอะไรออกไป
เขารีบเดินตามไปพลางเอ่ยขึ้น “อย่าโกรธกันเลยนะ ผมผิดเอง คุณพูดอะไรผมก็สัญญาทั้งนั้น ขอให้คุณไม่โกรธผมก็พอแล้ว”
“จริงนะคะ คุณพูดเองนะ”
นรมนมองเขาอย่างจริงจัง
บุริศร์รีบพยักหน้า
“ผมรับประกัน”
“แบบนี้ก็โอเค”
จู่ๆนรมนก็หัวเราะออกมา
บุริศร์ส่ายหัว พลางเขี่ยปลายจมูกของเธออย่างแผ่วเบา “คุณนี่นะ แกล้งผมอยู่เรื่อย”
“ก็คุณอยากทำให้ฉันแกล้งเองนี่หน่า!”
นรมนรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเขา เพื่อซ่อนน้ำตาที่แทบจะกลั้นไว้ไม่อยู่กับสายตาอาลัยอาวรณ์
บุริศร์ลูบผมยาวสลวยของเธอพลางเอ่ยขึ้น “ได้ คุณแกล้งผมได้ ผมให้คุณแกล้งผมไปตลอดชีวิตเลย”
“ตลอดชีวิตนี่มันนานแค่ไหนกัน”
นรมนอดไม่ได้ที่จะถาม
ตลอดชีวิตของคนๆนึงอาจกินเวลาเป็นสิบๆปี เธอเองก้เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถอยู่กับบุริศร์ไปได้ชั่วชีวิต แต่ตอนนี้ ชั่วชีวิตของเธอกลับมีเวลาอีกแค่สองวัน
ไม่มีใครรู้ว่าภายในใจของเธอตอนนี้ขมขื่นเพียงใด อาวรณ์แค่ไหน แม้ว่าเธออยากจะกลับไปดูกมลและกานต์เด็กสองคนที่เป็นคนเธออุ้มท้อง เธออยากจะเห็นพวกเขาเหลือเกิน
แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย
โชคดีที่มีบุริศร์อยู่เคียงข้าง
โชคยังดีที่ในวาระสุดท้ายของชีวิต เธอได้ใช้เวลาไปกับคนที่เธอรักมากที่สุด
บุริศร์ไม่รู้ว่าในใจของนรมนคิดอย่างไร เขาเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน “ชั่วชีวิตของเรา จะยาวนานเท่าที่คุณต้องการ”
“ดูพูดเข้าสิ อย่างกับว่าคุณมีอำนาจ ทำให้เวลาหยุดเดินได้อย่างนั้นแหละ”
“ก็ได้น่ะสิ!”
ทันใดนั้นบุริศร์ก็คว้ามือของนรมนไว้ พาเธอไปยังสวนดอกกุหลาบที่สวนหลังโรงพยาบาล เขาหยิบโทรศัพท์ของนรมนพลางกดเปิดกล้อง เขาปรับมุมกล้องก่อนจะหันมาที่เขาสองคน
“เอ้า ยิ้ม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...