บทที่ 581 ความลับของตระกูลโตเล็ก
“ท่านขุนอิน คุณหมายความว่ายังไง?”
สีหน้าของบุริศร์ดูเยือกเย็นขึ้นมา
ท่านขุนอินจ้องมองบุริศร์ แล้วยิ้มและพูดขึ้นว่า “คุณชายบุริศร์ฉลาดซะขนาดนั้น จะไม่รู้ความหมายของผมได้ยังไง?”
มือของบุริศร์กำเข้าหากันแน่น จนเส้นเอ็นสีเขียวก็โผล่ออกมาแล้ว
ตั้งแต่เขาเกิดมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยคุกเข่าให้ใครมาก่อน แต่วันนี้ท่านขุนอินที่อยู่ตรงหน้าคนนี้กลับยื่นข้อเสนอแบบนี้ออกมา เห็นได้ชัดว่าอยากจะขัดถูความฮึกเหิมของเขาให้หมดไป
“ยังไง? คุณชายบุริศร์ไม่ชอบใจเหรอ”
ท่านขุนอินท่าทางอย่างกับมีความสุขในความทุกข์ของผู้อื่น
ในใจของบุริศร์นั้นอัดอั้นจนหงุดหงิด นี่ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อน เขาก็คงจะเดินหน้าเข้าไปต่อยเขาหมัดหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้นรมนอยู่ในอันตรายตั้งแต่เช้ายันค่ำ และเขากลับทำอะไรไม่ได้เลย
ถ้าเทียบกับชีวิตหนึ่งชีวิตของนรมนแล้ว แค่ศักดิ์ศรีและความฮึกเหิมของตัวเองจะเป็นไรไป
พอคิดมาถึงตรงนี้ บุริศร์ก็มองท่านขุนอินด้วยสายตาเยือกเย็นทีหนึ่ง จากนั้นก็ค่อย ๆ คุกเข่าลง
ไม่ว่ายังไงท่านขุนอินก็คิดไม่ถึงว่าเพื่อผู้หญิงคนเดียวแล้วบุริศร์จะสามารถละทิ้งศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของตัวเองไปได้ ก็เลยอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง
“บุริศร์ เพื่อผู้หญิงแค่คนเดียวแล้ว คุณคุ้มเหรอ? ดูคุณตอนนี้ซิ ส่วนไหนยังมีสง่าราศีของราชาแห่งเมืองชลธีบ้าง?”
ตอนที่ได้ยินท่านขุนอินพูดแบบนี้ บุริศร์ก็พูดเสียงเรียบขึ้นว่า “ตอนนี้ราชาแห่งเมืองชลธีไม่ใช่ผม ผมเป็นแค่สามีคนหนึ่ง ผู้ชายธรรมดา คนหนึ่ง คนที่ร้อนใจอยากจะรีบไปช่วยภรรยาตัวเองเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าคุณพอใจแล้วละก็ คุณก็ช่วยกรุณาเอาตัวยาที่ผมต้องการออกมาให้ผมด้วย”
บุริศร์รู้ว่า เวลาของตัวเองมีไม่เยอะแล้ว
ยมราชพูดได้ถูกต้อง เขาสามารถให้คนไปซื้อของพวกนี้จากตลาดมืดได้ แต่ว่าของพวกนี้ค่อนข้างล้ำค่ามาก แล้วก็หาได้ยากด้วย ถ้าจะซื้อให้พอละก็ คาดว่าอย่างเร็วที่สุดก็จะต้องเป็นพรุ่งนี้ แต่สิ่งที่เขาต้องการที่สุดในตอนนี้ก็คือเวลา
ที่ท่านขุนอินนี้มีทุกอย่าง ถ้าเขาจะเสียหน้าและศักดิ์ศรีไปบ้างแล้วจะยังไง? เสียความภาคภูมิใจไปบ้างแล้วจะยังไง?
ขอแค่สามารถช่วยชีวิตนรมนได้ จะเอาชีวิตของเขา เขาก็ให้ได้
ท่านขุนอินจ้องมองบุริศร์ เหมือนกับว่าไม่อยากจะเชื่อว่าคนคนนี้จะคือบุริศร์ที่เคยเรียกลมสั่งฝนได้ในเมืองชลธีมาก่อน
“ผู้ชายคนหนึ่งเพื่อผู้หญิงแค่คนเดียว ถึงกับไม่สนใจอะไรเลย ถ้าอย่างงั้นบุริศร์ ของที่ผมต้องการคุณคิดว่าจะให้ผมได้หรือยังล่ะ?”
ร่างกายของบุริศร์นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
“กรรมสิทธิ์บ่อน้ำมันดิบทั้งหมดในอาหรับของตระกูลโตเล็ก ผมจะให้คุณ ขอแค่คุณให้ตัวยาที่ผมต้องการมา”
นัยน์ตาของบุริศร์มีความเยือกเย็นเล็กน้อย
บ่อน้ำมันดิบเป็นสิ่งที่ทำให้ตระกูลโตเล็กสามารถเรียกลมสั่งฝนในเมืองชลธีได้ และเป็นตัวแปรพื้นฐานที่ทำให้กลายเป็นราชาแห่งโลกธุรกิจ
ใคร ๆ ก็นึกว่าความร่ำรวยของตระกูลโตเล็กนั้นสืบทอดต่อมาจากคนรุ่นก่อน มีเพียงแต่คุณนายตระกูลโตเล็กและคุณท่านโตเล็กที่ตายไปแล้วเท่านั้นที่รู้ ว่าก่อนที่ตระกูลโตเล็กจะตกทอดมาถึงมือของบุริศร์ ได้บริจาคเงินออกไปมากมาย เพื่อสนับสนุนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ พอถึงตอนที่บุริศร์มารับช่วงต่อ ตระกูลโตเล็กก็ไม่ได้เฟื่องฟูและต่างจากเมื่อก่อนมากแล้ว
เพราะบุริศร์ไปซื้อที่ดินไว้ที่อาหรับหลายผืน และในใต้ดินของที่ดินเหล่านั้นก็อุดมไปด้วยทรัพยากรที่เป็นน้ำมันดิบ จึงทำให้ตระกูลโตเล็กมีเงินทองไหลมาเทมาได้
แล้วหลังจากที่บุริศร์รับช่วงสืบทอดตระกูลโตเล็กมาแล้ว เขาก็ใช้ทรัพยากรและความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในมือ มาซื้ออุโมงค์ขุดเจาะอีกหลายแห่ง และก็ได้กลายมาเป็นมหาเศรษฐีที่ได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ส่วนตัวในการขุดเจาะมากที่สุดในอาหรับ
ถ้าเอาตามรายได้ที่ได้รับในตอนนี้ของบ่อน้ำมันดิบพวกนี้มาพูดแล้ว ถึงจะผ่านไปอีกสามร้อยปีตระกูลโตเล็กก็ยังคงสามารถยืนหยัดอยู่ได้ไม่ล้มแน่
และสำหรับเรื่องนี้ก็มีแต่บุริศร์กับคุณนายตระกูลโตเล็กและคุณท่านตระกูลโตเล็กที่เสียไปแล้วเท่านั้นที่รู้ ต่อมาตอนที่ตรินท์เกิดเรื่องขึ้น คุณนายตระกูลโตเล็กก็เอาเรื่องนี้บอกกับตรินท์ ตอนนั้นตรินท์ก็เข้าใจบุริศร์ และยอมสละสิทธิ์ผู้สืบทอดตระกูลโตเล็กไป แล้วก็ย้ายไปยูนนาน ไปเป็นคนของอาณาจักรรัตติกาล
เรื่องนี้กลายเป็นความลับของตระกูลโตเล็ก แม้แต่นรมนที่แต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลโตเล็กแปดปีแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าตกลงตระกูลโตเล็กมีทรัพย์สินเท่าไหร่
เพราะฉะนั้นตอนที่ท่านขุนอินอยากจะถามหาข่าวเกี่ยวกับบ่อน้ำมันดิบพวกนี้ออกมา บุริศร์ถึงได้แปลกใจเป็นอย่างยิ่ง
เขาเดามาตลอดว่าตรินท์เป็นคนบอกท่านขุนอิน
แต่ว่าจะเป็นไปได้จริง ๆ เหรอ?
ตอนนั้นเขาสละสิทธิ์ผู้สืบทอดไป แล้ววันนี้จะมาทำแบบนี้จริง ๆ เหรอ?
ถ้าหากเขาอยากจะได้ความร่ำรวยนี้ เขาให้เขาได้แล้วยังไง? ในเมื่อทั้งสองคนเป็นพี่น้องฝาแฝดที่เกิดมาจากแม่คนเดียวกัน
แต่ว่าทำไมตรินท์ถึงไม่พูดกับเขาให้ชัดเจนเองล่ะ? แต่กลับให้คนนอกมาขอสิทธิ์การบริหารการขุดเจาะนี้งั้นเหรอ?
แต่ว่าถ้าตรินท์ไม่ได้เป็นคนบอกท่านขุนอิน งั้นเขาจะมาถึงที่นี่ได้ยังไง? หรือว่าจะไม่ใช่ตรินท์เป็นคนวางแผนเอาไว้เหรอ?
นี่ถึงจะเป็นจุดที่ทำให้บุริศร์หนาวใจมากที่สุด
ต่อสู้กันเองในครอบครัวน่ะได้ แต่ว่ายืมมือคนนอกมาทำลายตระกูลโตเล็กนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่คนของตระกูลโตเล็กควรทำ และก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่ตรินท์จะทำออกมาได้
ตอนนี้เพื่อช่วยนรมนแล้ว เขาจะสนใจอะไรมากขนาดนั้นไม่ได้แล้ว เขาเชื่อว่า คุณนายตระกูลโตเล็กก็ไม่มีทางยอมปล่อยนรมนไปเพียงเพราะบ่อน้ำมันดิบพวกนั้นหรอก
ท่านขุนอินจ้องมองบุริศร์พูดคำพูดพวกนี้ออกมาโดยที่หัวคิ้วไม่ขยับเลยสักนิด และอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเกรง ๆ ขึ้นว่า “หือ หือ เป็นคุณชายบุริศร์ที่ร่ำรวยและใจกว้างไม่เหมือนใครจริง ๆ บ่อน้ำมันดิบที่คนทั่วไปห่างไกลจนแทบไม่เห็นฝุ่น แต่เพื่อผู้หญิงคนเดียวแล้วคุณกลับพูดว่าให้ก็ยกให้เลย นี่คุณไม่กลัวตระกูลโตเล็กจะล้มละลายเลยเหรอ?”
“ไม่มีบ่อน้ำมันดิบพวกนี้แล้ว แน่นอนว่าตระกูลโตเล็กก็คงสู้เมื่อก่อนไม่ได้แล้ว แต่ว่าในเมื่อฉันบุริศร์มีปัญญาทำให้ตระกูลโตเล็กฟื้นคืนชีพครั้งที่หนึ่งขึ้นมาได้ ก็จะต้องมีปัญญาทำให้ตระกูลโตเล็กฟื้นคืนชีพครั้งที่สองได้แน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...