แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 582

บทที่ 582 ผลประโยชน์ของประเทศอยู่เหนือสิ่งอื่นใด

“คุณชายบุริศร์ อันนี้ยังต้องคิดอีกเหรอ? บ่อน้ำมันดิบเป็นรากเหง้าของตระกูลโตเล็ก และยิ่งเป็นรากฐานทั้งหมดของตระกูลโตเล็ก ถ้าไม่มีอันนี้แล้ว ตระกูลโตเล็กของพวกคุณอย่าพูดว่าจะได้ใกล้เคียงตำแหน่งหัวมังกรของเมืองชลธีเลย แม้แต่สังคมชนชั้นสูงคิดว่าก็น่าจะแค่พอแตะขอบได้เท่านั้น กิจการที่มีรากฐานมาเป็นร้อยปีของตระกูลโตเล็ก คุณคงจะไม่ทำให้ขาดตอนไปจริง ๆ หรอกนะ? แต่ว่ากลยุทธ์การสร้างรถนี้ก็จะไม่เหมือนกันแล้ว คุณชายบุริศร์ฉลาดหลักแหลม และก็ยิ่งเป็นคนที่โดดเด่นกว่าผู้อื่น ผมเชื่อว่าโอกาสผลิตรถในอนาคตต่อไป จะยิ่งทำให้คุณชายบุริศร์ประเสริฐมากยิ่งขึ้นไปอีกไม่ใช่เหรอ? ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ต้องคิดทบทวนเพื่อของที่สามารถออกแบบขึ้นมาได้ง่าย ๆ อย่างนี้ตั้งครึ่งวัน คุณชายบุริศร์ไม่รู้สึกว่ามันน่าขำไปหน่อยเหรอ?”

คำพูดของท่านขุนอินทำให้สีหน้าของบุริศร์ดูไม่ดีขึ้นมา

“ความศรัทธาของประเทศเรา มันน่าขำขนาดนี้ในสายตาพวกคุณเลยเหรอ? ถ้าหากว่าจะให้ผมออกแบบรถคันหนึ่งง่าย ๆ ให้กับพวกคุณ ผมออกแบบให้ก็ได้ แล้วทำไมจำเป็นจะต้องมาเอาอันที่ออกแบบไว้ก่อนผมจะปลดประจำการด้วยล่ะ?”

การออกแบบอันนั้นรั่วไหลออกมาได้ยังไง บุริศร์เองก็ไม่รู้ แต่ว่าตอนนี้กลับไม่ได้เป็นแค่เรื่องของตระกูลโตเล็กแล้ว นี่มันเกี่ยวข้องไปถึงผลประโยชน์ของประเทศแล้ว เกี่ยวข้องไปถึงความลับของทางกรมทหาร ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางหักหลังทางกรมทหารแน่ นี่ถือว่าเป็นหลักการพื้นฐานของเขาที่เป็นทหารที่ปลดประจำการแล้ว

พอท่านขุนอินเห็นบุริศร์เป็นแบบนี้แล้ว สีหน้าก็ขรึมลงทันทีเลย

“นี่คุณชายบุริศร์หมายความว่ายังไง? หรือคุณรู้สึกว่ารูปออกแบบใบนี้สำคัญยิ่งกว่าตระกูลโตเล็ก สำคัญยิ่งกว่าภรรยาของคุณอีกเหรอ?”

“ผลประโยชน์ของประเทศสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด!”

บุริศร์จ้องมองท่านขุนอินอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้นว่า “ผมคิดว่าความสำนึกแบบนี้คนอย่างคุณคงจะไม่มีหรอก และก็คงรู้สึกไม่ถึงความภาคภูมิใจและความจงรักภักดีต่อประเทศที่สูงส่งไม่มีอะไรเทียบได้แบบนี้หรอก”

“คุณชายบุริศร์เป็นทหารที่ดีมากคนหนึ่งจริง ๆ แต่น่าเสียดายคุณเป็นสามีที่ดีคนหนึ่งหรือยัง? เป็นลูกชายที่ดีคนหนึ่งหรือยัง? แล้วเป็นพ่อที่ดีคนหนึ่งหรือยังล่ะ?”

คำพูดของท่านขุนอินเหมือนกับมีดทื่อ ๆ เล่มหนึ่งที่ทิ่มแทงเข้ามาในใจของบุริศร์

เขาเป็นทหารที่ดี ที่ยอมปลดประจำการเพราะรูปออกแบบอันนี้ และก็ยิ่งยอมมอบตระกูลโตเล็กทั้งตระกูลออกไปเพื่อรูปออกแบบอันนี้ เขารู้สึกมาตลอดว่านี่เป็นหน้าที่รับผิดชอบของเขาในฐานะที่เป็นทหารของประชาชน เป็นอะไรที่แน่นอนอยู่แล้ว แต่พอมาวันนี้ ในตอนที่เกี่ยวข้องถึงชีวิตของนรมนนั้น เขากลับรู้สึกปวดใจขึ้นมากะทันหันเลย

ความศรัทธาเปลี่ยนแปลงไม่ได้ รักแท้ก็ปล่อยไปไม่ได้ ตัวเลือกที่เลือกยากทั้งสองอย่างแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็เป็นสิ่งที่ยากลำบากทั้งนั้น

แต่คำพูดของท่านขุนอินกลับพูดได้ตรงใจลึก ๆ ของบุริศร์เลย

ภรรยาทหารจำเป็นจะต้องเสียสละอะไรของตัวเองไปมากมายเพื่อทหาร เพราะฉะนั้นภรรยาทหารจึงได้รับการยกย่อง แต่ว่านรมนกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย และนรมนก็ไม่ใช่ภรรยาทหาร ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นทหารแล้ว แต่ยังคงทำหน้าที่ของทหารอยู่เช่นเดิม

ท่านขุนอินเห็นสีหน้าของบุริศร์มีความเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ก็รีบพูดขึ้นว่า “ประเทศให้ผลประโยชน์กับคุณเท่าไหร่กัน? ตอนนี้คุณยังขาดอะไรอีกล่ะ? คุณเป็นถึงพี่ใหญ่ของหัวมังกรในเมืองชลธี คุณได้ครอบครองความร่ำรวยมากมายที่คนอื่นไม่สามารถมีได้ และตอนนี้ก็ยังมีภรรยาที่งดงามคนหนึ่ง ลูกที่น่ารักทั้งสองคน ครอบครัวของคุณควรจะมีความสุขอย่างมากมาตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ? และทำไมจะต้องมาสละครอบครัวตัวเองทิ้งเพื่อความศรัทธาบ้าบออะไรนั่นด้วย?”

บุริศร์รู้สึกผิดต่อนรมนขึ้นมาทันที แล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าทำให้เธอต้องมาเจอกับเรื่องพวกนี้กับตัวเองอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย มันเกินไปจริง ๆ แต่ว่าเขาเป็นทหารคนหนึ่ง ถึงจะปลดประจำการมาแล้ว แต่เขาก็ยังคงรู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไง

เขาจ้องมองท่านขุนอิน แล้วพูดไปทีละคำทีละประโยคขึ้นว่า “เอาตัวยามาให้ผม ให้ผมไปช่วยภรรยาก่อน บางทีผมอาจจะลองไปคิดทบทวนดูว่าจะเอารูปออกแบบมาให้คุณ”

“จริงเหรอ?”

ท่านขุนอินรู้สึกดีใจจนออกนอกหน้า

บุริศร์พูดขึ้นเสียงเย็นว่า “ผมบุริศร์มีตอนไหนที่ไม่รักษาคำพูดบ้างล่ะ?”

“ได้ ผมเชื่อคุณ!”

บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าบุริศร์แสดงออกมาว่ามีความลังเลขึ้นมาเล็กน้อย และท่านขุนอินรู้สึกว่าไม่มีใครที่จะสามารถเอาครอบครัวตัวเองมาแลกกับความศรัทธาที่ไม่มีค่าอะไร หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าชื่อเสียงของบุริศร์นั้นดีมาก เรื่องที่เคยตอบตกลงไว้ก็ไม่เคยผิดคำพูด เพราะฉะนั้นท่านขุนอินก็เลยเชื่อแล้ว

เขาให้คนเอาตัวยาที่ล้ำค่าเหล่านั้นออกมา แล้วก็ยื่นให้กับบุริศร์เองกับมือ

“คุณชายบุริศร์ หลังจากที่อาการป่วยของคุณนายบุริศร์หายแล้ว หวังว่าคุณชายบุริศร์จะรักษาสัญญานะ”

บุริศร์รับตัวยาที่อยู่ตรงหน้ามา แล้วก็พยักหน้าและจากไปเลย

เขาทนรอที่จะกลับไปโรงพยาบาลแทบจะไม่ไหวแล้ว

พอยมราชเห็นบุริศร์นำตัวยากลับมาถึง ก็อดไม่ได้ที่จะมองเขาสูงขึ้นมานิดหน่อย

“มองไม่ออกเลยนี่ ว่าคุณก็มีความสามารถอยู่บ้างเหมือนกัน ถึงได้สามารถหาของพวกนี้กลับมาจากเมืองใต้ดินได้เร็วขนาดนี้ ดูท่าคุณคงจะมีของอะไรที่ตาเฒ่าในเมืองใต้ดินนั่นต้องการแน่เลย?”

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว รีบไปช่วยชีวิตคนเถอะ”

บุริศร์ไม่ได้มีความต้องการที่จะพูดคุยกับยมราชเลยสักนิด

ยมราชเองก็ไม่ได้สนใจ สำหรับเธอมาพูด ได้ลูกศิษย์ของตัวเอง และได้เลือดของนภดลแล้ว แค่นี้ก็พึงพอใจมากแล้ว

“ได้ ฉันจะไปช่วยคน ในช่วงระยะเวลานี้ ห้ามใครมารบกวนฉันเข้าใจไหม?”

แล้วยมราชก็ให้คนเริ่มจัดเตรียมการผ่าตัด

นภดลโดนเข็นเข้าไปดูดเลือดไป400CC

พอเอาเลือดของนภดลมาแล้ว ยมราชก็ดูดออกมาเพียงเล็กน้อย ส่วนที่เหลือตัวเองก็เอาไปเก็บล็อกไว้ในตู้นิรภัย

บุริศร์ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“ไม่ใช่จะเอามาช่วยนรมนเหรอ?”

“ช่วยเธอใช้แค่ไม่กี่หยดก็พอแล้ว คุณคงไม่คิดว่าฉันขอเลือดมาเพียงเพื่อช่วยภรรยาคุณคนเดียวหรอกนะ? เลือดของมนุษย์ยาคนนี้นั้นล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง ฉันจะไม่เก็บไว้สักหน่อยได้ยังไงล่ะ?”

พอพูดจบ เธอก็ไม่สนใจการตอบสนองของบุริศร์ แล้วก็ให้คนเข็นนรมนเข้าไปในห้องผ่าตัดเลย

ไฟหน้าห้องผ่าตัดสว่างขึ้น

ดวงตาของบุริศร์จ้องไฟหน้าห้องผ่าตัดไว้เขม็ง หัวสมองกลับกำลังหมุนอย่างรวดเร็ว

รูปออกแบบที่ท่านขุนอินต้องการ ตอนนี้อย่าพูดว่าอยู่ในมือของประธานเคนเลย ถึงอยู่ในมือของตัวเอง เขาก็คงจะไม่ให้หรอก แต่ในเมื่อตอบตกลงกับท่านขุนอินไปแล้ว และเพื่อจะช่วยนรมน เขาจะไม่พูดโกหกก็ไม่ได้

ตอนนี้ ถ้าหากว่ายมราชสามารถรักษานรมนให้หายได้ เขาก็จะต้องมาคิดเรื่องของรูปออกแบบนี้สักหน่อยแล้ว

บุริศร์เอาโทรศัพท์ออกมาแล้วเดินไปสุดระเบียงทางเดิน แล้วก็โทรศัพท์หาป้องโดยตรง

“ช่วยตามหาคุณคริชณะให้หน่อยได้ไหม?”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”

ป้องอึ้งไปเล็กน้อย

คริชณะเป็นผู้บังคับบัญชาเบื้องบนของบุริศร์มาก่อน แล้วตอนนี้บุริศร์ปลดประจำการแล้ว แต่กลับยังมาตามหาคริชณะอีก ป้องรู้สึกว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วแน่ ๆ เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย