แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 587

บทที่ 587 จะโอ๋จนฉันเสียคนได้นะ

“นี่คุณเป็นคนของตรินท์เหรอ! ตอนนั้นที่คุณโดนคนของตรินท์จับตัวไว้ ก็เป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าเหรอ?”

นรมนร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อย

บุริศร์จับมือของเธอไว้แน่นแล้วพูดขึ้นว่า “อย่าร้อนใจไป ที่รัก มันผ่านไปแล้วนะ หืม?”

อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับเป็นคนโง่คนหนึ่ง

เธอคอยระแวดระวังตัวมาตลอด แต่กลับคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วจะตกหลุมพรางของพวกเขาได้

“นี่ฉันโง่มากจริง ๆ เลย”

นรมนรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย

บุริศร์พูดอย่างปวดใจว่า “ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก ตรินท์เคยเรียนจิตวิทยามาก่อน แน่นอนว่าจะต้องรู้อยู่แล้วว่าจะจับจุดอ่อนในใจคนอื่นยังไง เขากับเลิฟคนหนึ่งแสดงเป็นคนดี คนหนึ่งแสดงเป็นคนร้าย เข้าขากันได้อย่างดี ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็คงแยกไม่ออกอยู่ดี นับประสาอะไรกับคุณ?”

“คุณกำลังปลอบใจฉันอยู่”

นรมนรู้สึกอัดอั้นขึ้นมาบ้างแล้ว

บุริศร์อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ใช่ ผมกำลังปลอบใจคุณอยู่ งั้นคุณจะให้เกียรตินี้กับผมไหม?”

น้ำเสียงที่ออดอ้อนวอนขอขนาดนี้ ทำให้นรมนรู้สึกอยากจะหัวเราะขึ้นมาแล้วจริง ๆ

“คุณอย่าโอ๋ฉันแบบนี้ มันจะโอ๋ฉันจนเสียคนได้นะ”

“ไม่เป็นไร ต่อไปเรื่องที่สำคัญที่สุดของผมก็คือคอยโอ๋คุณเลย”

ตอนนี้คำหวานของบุริศร์นั้น แค่อ้าปากก็เปล่งออกมาได้แล้ว นี่มันช่างทำให้นรมนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว

“มีคนอยู่ตั้งเยอะขนาดนี้ คุณเลิกพูดเถอะ”

“พวกเขาได้ยินกันเหรอ?”

บุริศร์ถามออกไปเสียงแข็งรอบหนึ่ง แล้วคนทั้งห้องรับแขกก็ส่ายหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน

ล้อเล่นแล้ว พวกเขาไม่ได้อยากจะทิ้งชามข้าวกันสักหน่อย

นรมนรู้สึกแต่เพียงว่าไอร้อนไอหนึ่งพวยพุ่งขึ้นมาบนใบหน้า จนทำให้เธอแทบอยากจะหารูสักแห่งแล้วมุดเข้าไปเลย

นี่ก็จริง ๆ เลย

บรรยากาศสถานการณ์สอบสวนที่เคร่งเครียด กลับถูกบุริศร์ทำให้กลายเป็นเหมือนกับสถานที่สารภาพรัก

นรมนมีความรู้สึกว่าปรับตัวไม่ค่อยได้ขึ้นมาแล้วจริง ๆ

เลิฟก็รู้สึกนิ่งอึ้งไปบ้างเหมือนกัน

นี่คือบุริศร์ที่โดนเรียกว่ายมทูตหน้าเย็นชาคนนั้นจริง ๆ เหรอ?

หรือจะบอกว่าเขาดูคนผิดไปแล้วเหรอ?

พอพฤกษ์เห็นเลิฟหยุดนิ่งไป ก็แตะเขาไปทีหนึ่งเลย

“มัวแต่ดูอะไรอยู่? รีบพูดมา”

แล้วเลิฟถึงตั้งสติกลับมาได้ แล้วพูดขึ้นว่า “ใช่ ตอนที่ผมไปหาคุณนายบุริศร์ที่สวนสนุกนั้น ประธานตรินท์เป็นคนวางแผนจริง ๆ แล้วต่อมาก็แกล้งทำเป็นว่าโดนคนของประธานตรินท์สะกดรอยตาม และยังโดนคนของเขาจับตัวไป ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเราวางแผนกันไว้ก่อนแล้ว เป้าหมายก็เพื่อให้คุณนายบุริศร์สงสัยในตัวผมน้อยที่สุด ต่อไปจะได้เอาของที่พวกเราอยากได้มาให้พวกเราได้”

“ของที่พวกคุณอยากได้คืออะไร? ไหนคุณบอกว่าจะพาฉันไปหาประธานเคนไม่ใช่เหรอ?”

แล้วนรมนถึงเพิ่งรู้ตัวว่า ตั้งแต่เริ่มต้นตัวเองก็หลงอยู่ในถ้อยคำโกหกของพวกเขาแล้ว

เลิฟพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ประธานเคนไม่รู้เรื่องเลยว่าผมทำแบบนี้ ประธานตรินท์รับปากกับผมไว้ว่า ขอแค่ผมทำให้คุณนายบุริศร์เจอกับประธานเคนได้ แล้วเอาของที่เขาอยากจะได้มา ก็จะให้เงินผมก้อนหนึ่ง และยังจะวางแผนให้ผมออกนอกประเทศด้วย”

“หลายปีมานี้ ประธานเคนคงไม่ได้ดูแลนายไม่ดีหรอกมั้ง?”

บุริศร์เปิดปากพูดขึ้นเสียงเรียบ

เลิฟก้มหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ผมติดหนี้พนันครับ”

พอนรมนฟังมาถึงตรงนี้ ก็ไม่อยากจะสนใจชีวิตคนคนนี้แล้ว คนคนหนึ่งพอพัวพันเข้ากับยาเสพติดและการพนันเข้า ชีวิตทั้งชีวิตก็ถือได้ว่าจบเห่แล้ว

พอรู้ว่าตัวเองโดนเลิฟหลอกเข้าแล้ว อย่างงั้นเรื่องต่อ ๆ มานรมนก็คิดตกแล้ว

“เพราะฉะนั้นตอนแรกคุณกะว่าจะไปเมืองAกับฉันด้วย แต่พอถึงเวลาก็ตีฉันจนสลบ แล้วก็พามาที่คฤหาสน์นี้ ก็เพื่อต้องการให้ประธานเคนมาพบฉันที่นี่เหรอ?”

“ใช่! แต่น่าเสียดายที่ประธานเคนออกไปข้างนอกแล้ว ไม่ได้อยู่บ้าน ผมก็เลยติดต่อเขาไม่ได้ ประธานตรินท์บอกว่าถ้าปล่อยตัวคุณไป ให้คุณไปเมืองAแล้วละก็ คิดว่าคงจะได้ผลที่ไม่เหมือนกัน”

คำพูดเลิฟทำให้นัยน์ตาของบุริศร์เย็นลงไปหลายองศา

“ผลที่ไม่เหมือนกันหมายความว่ายังไง?”

ที่จริงนรมนพอจะเดาอะไรได้บ้างแล้ว แต่ว่าอยู่ต่อหน้าบุริศร์ เธอไม่กล้าถาม และไม่กล้าพูด เพราะกลัวว่าบุริศร์จะฆ่าคนได้

แต่เลิฟกลับดูสีหน้าของนรมนไม่ออก แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ประธานตรินท์ให้ผมไปหาหมอประจำบ้าน แล้วขอยาแบบที่ยังทดลองไม่สำเร็จมา จุดประสงค์ก็เพื่อเอามาให้คุณสามารถมีพละกำลังพอให้ไปถึงเมืองAได้ ขอแค่คุณสามารถไปถึงเมืองA แล้วก็จะโดนคนขอท่านขุนอินจับตัวไว้ พวกเราก็จะมีตัวประกันมาบีบบังคับให้คุณชายบุริศร์ยอมมอบของออกมา และที่สำคัญเพื่อคุณแล้วคุณชายบุริศร์ก็ยอมมอบของออกมาจริง ๆ แล้วไม่ใช่เหรอ?”

“อะไรนะ?”

นรมนรู้สึกแปลกใจมาก

เธอมองไปที่บุริศร์ ของสิ่งหนึ่งที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไรมันคงจะสำคัญมาก แล้วทำไมเพื่อเธอแล้วเขาถึงยอมมอบของที่สำคัญขนาดนี้ออกไปให้พวกคนใจคดพวกนั้นได้เลยเหรอ?

“บุริศร์!”

“อย่าฟังเขาพูดไปเรื่อย”

บุริศร์ลูบไล้นรมนเบา ๆ ทีหนึ่ง จากนั้นก็มองไปที่เลิฟด้วยสายตาเย็นเฉียบ

“ยาของหมอประจำบ้านคนนั้นใครเป็นคนให้มา?”

“เขาผลิตขึ้นมาเองครับ”

“ยังไม่พูดความจริงอีก?”

พฤกษ์เห็นว่าเลิฟยังปากแข็งอีก ก็เลยเอามีดสั้นที่อยู่ในมือแทงเข้าไปที่ใจกลางน่องขาของเขาเลย

“อ้า!”

เลิฟร้องขึ้นมาอย่างทุรนทุราย หลังทั้งหลังก็โดนเหงื่อเย็นซึมออกมาจนเปียกไปหมดแล้ว

นรมนเหมือนกับว่าเพิ่งจะเห็นความโหดเหี้ยมครั้งแรกของบุริศร์ เขาในตอนนี้เหมือนกับว่าจะไม่สนใจอะไรเลย เพียงแต่ว่าความโกรธที่เหมือนจะแสดงออกและไม่แสดงออกมานั้น กลับทำให้คนอกสั่นขวัญแขวน

เธอไม่สงสัยเลยสักนิด ว่าที่พฤกษ์ลงมือนี้เป็นเจตนาของบุริศร์

บุริศร์เหมือนกับว่ามองไม่เห็นความเจ็บปวดของเลิฟเลยสักนิด และยังคงปลอกองุ่นให้นรมนเหมือนอย่างกับไม่มีคนอยู่รอบข้างเช่นเดิม และยังทำได้อย่างละเอียดมากด้วย

แล้วพฤกษ์ก็เอาเท้าเหยียบลงบนใจกลางน่องขาที่มีบาดแผลของเลิฟ

“อ้า!”

เลิฟเจ็บจนแทบจะหมดสติไปเลย แล้วก็ได้ยินพฤกษ์พูดขึ้นว่า “ถ้าหากนายสลบไปละก็ ฉันจะตัดขาข้างนี้ของนายออกแล้วเอาไปเลี้ยงหมาซะ”

“นี่นาย!”

เลิฟโกรธจนดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ แต่พฤกษ์กลับไม่ได้สนใจเลยสักนิด

“ฉันทำไมเหรอ? นายสู้ฉันได้เหรอ?”

คำพูดประโยคนี้ทิ่มแทงโดนจุดอ่อนของเลิฟเลย

เขากัดฟันพูดขึ้นว่า “ประธานตรินท์เป็นคนให้ยามาครับ! ประธานตรินท์เป็นน้องชายแท้ ๆ ของคุณ คุณลงมือกับน้องชายแท้ ๆ ของตัวเองไม่ได้ แต่กลับเอาความโกรธมาระบายกับผม บุริศร์ คุณมันก็แค่คนขี้ขลาดคนหนึ่ง”

มือของบุริศร์นิ่งไปครู่หนึ่ง แต่นรมนกลับอึ้งไปเลย

“ตรินท์เป็นคนให้ยามาเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย