บทที่ 589 นี่คุณจงใจจะทำให้ฉันตกใจตายใช่ไหม
“ทำไมคุณถึงได้น่ารักขนาดนี้ และดีขนาดนี้กันนะ?”
คำชื่นชมนี้ทำให้นรมนรู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉันไม่ได้ดี ฉันก็แค่ไม่อยากให้คุณกลายเป็นคนบาป ฉันรู้ว่าที่จริงแล้วคุณชอบรับราชการทหารมาก ถ้าหากว่าให้ตัวคุณเลือกเอง คุณคงไม่เลือกปลดประจำการแล้วเอาตัวมาเข้าสู่วงการธุรกิจที่เล่ห์เหลี่ยมจัดหรอก คุณยังคงชอบกรมทหารอยู่ใช่ไหม? ฉันไม่เข้าใจมาตลอดเลยว่า คุณก้าวหน้าอยู่ในกรมทหารขนาดนั้น แล้วทำไมอยู่ ๆ ถึงได้ปลดประจำการ พวกเขาบอกว่าระหว่างที่คุณไปทลายแก๊งค้ายาเสพติดที่ยูนนานได้รับบาดเจ็บมาถึงได้ปลดประจำการ แต่ว่าฉันเป็นภรรยาของคุณ ร่างกายของคุณเป็นยังไงนั้นฉันรู้ดีที่สุด มาวันนี้ฉันถึงได้เข้าใจแล้ว ว่าคุณนั้นปลดประจำการมาเพราะว่าได้รับมอบหมายหน้าที่มา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจะมาทำให้ชีวิตของคุณมีรอยด่างพร้อยเพิ่มขึ้นได้ยังไงกัน?”
“คุณไม่ใช่รอยด่างพร้อย ในทางกลับกัน คุณกลับเป็นดวงดาวที่สว่างที่สุดในชีวิตของผม ผมตอบตกลงว่าจะให้รูปออกแบบกับพวกเขาแล้ว แต่ผมไม่ได้พูดว่ารูปออกแบบที่จะให้พวกเขาเป็นแผ่นเดียวกันกับที่ให้ทางกรมทหาร”
“หมายความว่ายังไง?”
นรมนรู้สึกสงสัยขึ้นมาทันที
บุริศร์หัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “ผมออกแบบรูปรถถังขึ้นมาใหม่แผ่นหนึ่ง แล้วให้กานต์ปริ๊นออกมาแล้วส่งให้ป้อง ตอนนี้พฤกษ์ได้ไปเอากลับมาแล้ว ป้องได้นำเสนอกับผู้บังคับบัญชาของทางกรมทหารแล้ว และยินยอมให้ผมใช้แผนซ้อนแผนเพื่อหลอกล่อคนที่อยู่เบื้องหลังออกมา คนที่จ้องจะตะครุบสิ่งของของกรมทหารอยู่ คงจะไม่ใช่คนดีเด่อะไรแน่ นี่เป็นอันตรายที่ซ่อนตัวอยู่ ทางกรมทหารเองก็หวังว่าจากเรื่องนี้จะสามารถหลอกล่อคนคนนั้นออกมาได้ เพราะฉะนั้น ก็ไม่ถือว่าผมขัดขืนคำสั่งของกรมทหารหรอก”
“จริง ๆ เหรอคะ?”
“ก็ต้องจริงอยู่แล้วซิ แต่ว่าเรื่องนี้จะต้องให้คุณช่วยด้วยถึงจะได้”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนอึ้งไปเล็กน้อย
“ฉันช่วยเหรอคะ? ฉันสามารถช่วยอะไรได้คะ?”
“นี่เป็นงานหลักของคุณนี่”
บุริศร์พูดไปแล้วก็เอารูปออกแบบรูปนั้นออกมายื่นให้นรมน
“ลองดูซิ มีปัญหาตรงไหนไหม?”
“ให้ฉันดูเหรอ?”
นรมนรู้สึกแปลกใจ
เธอรู้ว่าบุริศร์นั้นมีพรสวรรค์ทางด้านออกแบบอยู่แล้ว แล้วก็ที่ตัวเองเลือกออกแบบรถยนต์ตั้งแต่แรกก็เพราะว่าได้รับผลกระทบมาจากบุริศร์ทั้งนั้น
บุริศร์นั้นเป็นคนไม่ชอบชื่อเสียงอะไรพวกนั้น ไม่งั้นถ้าเขาเข้าร่วมแข่งขันการออกแบบระดับประเทศแล้วละก็ ยังจะมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับคนอย่างพวกเขาอีก
แต่พอวันนี้คนคนนี้กลับให้ตัวเองมาช่วยหาจุดบกพร่อง นรมนกลับรู้สึกว่าความกดดันนั้นสูงเท่าภูเขาเลย
“คุณพูดผิดแล้วมั้ง?”
“เปล่า รูปออกแบบใบนี้ผมคิดขึ้นกะทันหันตอนที่คุณอยู่ในห้องผ่าตัด ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ มีรายละเอียดบางอย่างก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คุณเป็นนักออกแบบ คุณช่วยผมดูหน่อยว่ามีตรงไหนที่จะต้องแก้ไขบ้าง”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกผิดขึ้นมาบ้าง
“ฉันจะช่วยคุณดูยังไงล่ะ? ฉันไม่ได้เป็นทหารสักหน่อย จะไปรู้ได้ยังไงว่ารถถังต้องออกแบบยังไง”
“ที่ให้คุณออกแบบไม่ใช่รถถัง รูปใบนี้ต่อไปผมจะจดสิทธิบัตรแล้วค่อยให้พวกเขา นี่เป็นสิ่งที่เราสองสามีภรรยาช่วยกันออกแบบกันมา ผมจะเอาไว้เป็นแบบที่ระลึก”
บุริศร์พูดความคิดของตัวเองออกมา
นรมนอึ้งไปเล็กน้อย แล้วก็รู้สึกดีอกดีใจขึ้นมา
“คุณจะบอกว่า รูปออกแบบอันนี้จะให้เราสองคนทำให้สำเร็จร่วมกัน? แล้วคุณจะร่วมลงทุนผลิตขึ้นมาเหรอคะ?”
“ไม่ได้เหรอ?”
แล้วนรมนก็ดีใจขึ้นมาทันที
“ได้แน่นอนอยู่แล้วค่ะ!”
“แต่ว่าอย่าเหนื่อยมากเกินไป ถึงแม้ว่าผมจะตอบตกลงว่าให้พวกเขาแล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่ และที่สำคัญก็ยังจะต้องแสดงละครให้สมบทบาทด้วย ตอนนี้ประธานเคนไปประชุมอยู่ที่แคนาดา ถ้าจะให้กลับมายังต้องใช้เวลาอีกสักพัก ช่วงระยะเวลานี้เรื่องที่พวกเราสามารถทำอะไรได้ยังมีอีกเยอะ ผมกลัวว่าคุณอยู่บ้านเฉย ๆ จะเบื่อเกินไป ก็เลยเอามาให้คุณลองออกแบบดู ถ้าหากว่าคุณทำให้ตัวเองพักผ่อนไม่เพียงพอเพราะสิ่งนี้ละก็ ผมก็จะริบกลับมาแน่”
“ไม่ได้!”
พอนรมนได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ ก็กอดรูปออกแบบไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือเลย ท่าทางเหมือนอย่างกับเด็กแบบนั้นทำให้บุริศร์อดที่จะยิ้มขึ้นมาไม่ได้
“พอรู้ว่าตอนนี้ตระกูลโตเล็กเหลือแค่เปลือกกลวง ๆ แล้ว คงจะเสียใจที่แต่งงานกับผมแล้วใช่ไหม? ถึงแม้ว่าผมยังบริษัทร่วมลงทุนอยู่ แต่ไม่ว่ายังไงตระกูลโตเล็กก็ไม่เหมือนก่อนแล้ว”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกอัดอั้นขึ้นมาบ้าง
เธอจ้องบุริศร์เขม็งทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ที่ฉันแต่งงานกับคุณไม่ได้เพราะว่าเงินสักหน่อย และที่สำคัญฉันก็วาดรูปออกแบบเป็น พอถึงตอนนั้น ฉันเลี้ยงดูคุณก็ได้”
“เลี้ยงดูผมเหรอ?”
นี่เป็นครั้งแรกที่บุริศร์ได้ยินว่าผู้หญิงคนหนึ่งพูดว่าจะเลี้ยงดูเขา
มีคนตั้งมากมายถึงกับยอมขายศักดิ์ศรีตัวเองเพื่อให้ได้เข้ามาเกาะตระกูลโตเล็ก และสิ่งที่ต้องการก็แค่อำนาจและเงินทองของตระกูลโตเล็กเท่านั้น ไม่เคยมีใครพูดมาก่อนว่าจะเลี้ยงดูเขาที่เป็นราชาแห่งเมืองชลธี
แล้ววันนี้มามองผู้หญิงอ่อนแอที่อยู่ตรงหน้าคนนี้แล้ว บุริศร์กลับเห็นความรู้สึกและความจริงใจจากตัวเธอมากมาย
เขาเกือบจะสูญเสียผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ไปแล้ว
บุริศร์จับหัวของเธออีกครั้ง แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ได้ ผมจะรอให้คุณมาเลี้ยงผม”
พูดแล้ว เขาก็เอาเอกสารชุดหนึ่งออกมาจากลิ้นชักแล้วยื่นให้นรมน
นรมนอึ้งไปเล็กน้อย และเปิดออกมาดู แล้วก็ต้องตกใจสะดุ้งจนมือสั่น และเอกสารก็ตกลงไปบนเตียง
“นี่ นี่ นี่ นี่มัน……”
“เป็นของจริง!”
สิ่งที่บุริศร์เอาให้เธอคือหนังสือสัญญาผู้ถือกรรมสิทธิ์บ่อน้ำมันดิบสิบแห่งที่อาหรับ
นี่มันหมายถึงความร่ำรวยมากแค่ไหน นรมนเองก็คาดเดาไม่ออกด้วยซ้ำ
เธอจ้องมองบุริศร์อย่างรู้สึกแปลกใจ รู้สึกเหมือนกับว่าทุกอย่างนี้ช่างไม่ใช่ความจริงเลย
พอเห็นเธอเป็นแบบนี้ บุริศร์ก็หัวเราะอย่างมีความสุข
“ตกใจเลยละซิ?”
“ไหนคุณบอกว่าทรัพย์สินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของตระกูลโตเล็กเอาไปบริจาคแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ บริจาคไปแล้ว นี่เป็นทรัพย์สินที่ผมสร้างขึ้นมาในภายหลัง สามีของคุณเจ๋งไหมล่ะ?”
บุริศร์ต้องการการชื่นชม
นรมนจ้องมองเขาเหมือนกับจ้องมองสัตว์ประหลาด แล้วพูดขึ้นว่า “เป็นไปได้ยังไงกัน? บ่อน้ำมันดิบในอาหรับนั้นล้ำค่ามากแค่ไหน ทำไมคุณถึงมีได้ตั้งสิบแห่ง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...