บทที่ 613 เพราะท่านไม่คู่ควร
“ท่านพูดว่าอะไรนะ”
“ฉันพูดอะไรอย่างนั้นเหรอ ฉันบอกว่าเธอมันขยะไร้ค่าไร้ประโยชน์! ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตระกูลโตเล็กไม่พอ เธอยังนำแต่ความเดือดร้อนมาให้ตระกูลโตเล็ก บุริศร์เหมือนดั่งดาวที่เจิดจรัส แต่เพื่อเธอแล้ว เขายอมสละทิ้งทุกอย่าง เธอมีดีอะไรกัน แค่อาศัยหน้าใบนี้อย่างนั้นเหรอ นรมน ฉันมอบอาณาจักรรัตติกาลให้แก่เธอ เธอคิดว่าฉันจะคาดหวังในตัวเธอ ให้เธอเป็นช้างเท้าหลังให้กับบุริศร์อย่างนั้นเหรอ ฉันแค่ต้องการให้เธอตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา ว่าเธอไม่มีทางทำหน้าที่ภรรยาที่ดีให้กับบุริศร์ได้! ใครจะไปคิดว่าเธอนั้นไม่ประมาณตน อีกทั้งยังโง่ไม่มีที่ติอีก”
คุณนายตระกูลโตเล็กพูดอย่างเย็นชา “ถ้าไม่ใช่เพราะเธอที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อเอายาถอนพิษมาให้ฉัน จนฉันรอดจากเส้นแห่งความตาย มีหรือที่ฉันจะมอบอาณาจักรรัตติกาลให้กับเธอ แต่ว่ามอบให้เธอเป็นไง สุดท้ายก็เน่าเฟะ สุดท้ายแล้วเธอมันก็แค่ขยะ!”
นรมนรู้สึกหนาวจุกไปทั้งตัว
เธอคิดมาตลอดว่าคุณนายตระกูลโตเล็กนั้นดีกับตัวเองจริงๆ แต่มาวันนี้ที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ร่างกายก็เหมือนกับถูกกริชที่แหลมคนทิ่มแทงบาดลึกเข้าไปที่ทรวงอก จนเลือดสดๆไหลออกมา เจ็บปวดรวดร้าวทรมาน
“ท่านไม่เคยบอกกับฉันมาก่อนเลย”
“เธอจะรู้ด้วยตัวเองไม่ได้เลยหรือไง ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กสองคนนั้นติดแจเธอ เธอคิดว่าฉันจะยอมให้เธอเข้าบ้านตระกูลโตเล็กเหรอ จะยอมให้เธอเป็นคุณนายบุริศร์ให้คนอื่นเรียกเหรอ เธอลองมองดูตัวเองซิ ตั้งแต่หัวจรดเท้ามีตรงไหนบ้างที่คู่ควรกับคำว่าคุณนายบุริศร์ เวลาห้าปีที่รเมศทำให้เธอกลายเป็นนักออกแบบจนมีชื่อเสียง เธอกลับมาแล้ว กลับมาเพื่อแก้แค้นล่ะสิ ฉันรู้มาโดยตลอด แต่ว่าเวลาห้าปีมานี้บุริศร์มีชีวิตที่อยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น ฉันเห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว ฉันคิดว่าเธอเปลี่ยนหน้ามาใหม่แล้ว วาสนาของเธอกลับบุริศร์ก็คงจะจบกัน และไม่คิดว่าเธอนั้นจะกลับมาจริงๆ เธอไม่เพียงแต่กลับมา เธอยังเอาไตของบุริศร์ไปข้างหนึ่ง เธอมันเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้จักเจียมตัวและน่าขยะแขยงที่สุด!”
แต่ละคำพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กทำให้นรมนรู้สึกว่าตัวเองได้ตกสู่อุโมงค์ห้องเก็บน้ำแข็ง
“ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน กมลจะกลายเป็นแบบนั้นได้อย่างไร จนเธอรอต่อไปไม่ไหว ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากมลรอไม่ไหว ฉันไม่มีทางที่จะกลับมา ยิ่งไม่มีทางที่คิดแก้แค้นโดยการเอาไตของบุริศร์ไป”
“ก็แค่เด็กผู้หญิงคนเดียว ตายแล้วยังไง กานต์ก็ยังอยู่ทั้งคน ทุกอย่างของตระกูลโตเล็กก็ต้องตกอยู่ในมือของลูกผู้ชาย ถึงแม้ว่าจะไม่มีลูกของเธอ ก็ยังมีกิจจา กิจจาเป็นลูกชายของตรินท์ ขอเพียงพวกเธอไม่ปรากฏตัว กิจจาก็จะกลายเป็นทายาทและผู้สืบทอดสกุลตระกูลโตเล็กได้อย่างราบรื่น ต่อยอดทุกอย่างที่เป็นของตระกูลโตเล็ก! และเป็นเพราะเธอที่ทำลายทุกอย่าง! เป็นเพราะเธอ!”
คุณนายตระกูลโตเล็กยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห แต่นรมนยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าความคิดของเธอช่างน่ากลัว
“ทำไมท่านถึงพูดเช่นนี้ กมลก็เป็นคน เป็นหลานของตระกูลโตเล็ก ต่อให้เกิดเป็นผู้หญิงแล้วยังไง ตระกูลโตเล็กบ้านก็ใหญ่โตธุรกิจก็ใหญ่โต จะไม่มีที่สำหรับหลานสาวสักที่เลยหรือ”
“มี แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ด้วย ตระกูลโตเล็กในตอนนี้ล้วนต้องประคองโดยบุริศร์ ไม่มีเขาก็ไม่มีตระกูลโตเล็ก แต่เธอกลับให้เขาบุริศร์บริจาคไตข้างหนึ่งเพื่อลูกสาวของเธอ นี่เธออยากให้ตระกูลโตเล็กตกอยู่ในเหวที่มืดมิดไม่มีวันจะเห็นเดือนเห็นตะวันอย่างนั้นหรือ กิจจายังเด็ก ตรินท์เสียไปแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับบุริศร์อีก แล้วใครจะประคับประคองตระกูลโตเล็ก ตั้งแต่วันที่เธอปรากฏตัว ก็ไม่เคยทำให้ตระกูลโตเล็กได้สงบสักวัน มีแต่นำความเดือดร้อนมาให้อย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อเธอแล้ว รเมศต้องกลายมาเป็นศัตรูกับบุริศร์ กลายมาเป็นศัตรูกับตระกูลโตเล็ก ตลาดในอเมริกาที่ดีๆ เพื่อเธอแล้ว บุริศร์ต้องยกให้กับตระกูลวัชโรทัย จุดใดในร่างกายของเธอที่ควรค่าแก่บุริศร์ให้ทำเช่นนี้ ควรค่าแก่ตระกูลโตเล็กทำเพื่อเธอเช่นนี้ แค่อาศัยที่เธอให้กำเนิดลูกสองคนแก่ตระกูลโตเล็กอย่างนั้นหรือ ถ้าหากไม่มีเธอ มีผู้หญิงที่มีความสามารถพอมาต่อแถวให้กำเนิดลูกแก่บุริศร์อีกมากมาย”
นรมนโกรธจนแน่นหน้าอกไปหมด
เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่อาจจะทนฟังต่อไปได้อีก ถ้าทนฟังต่อไปอีก เธออาจจะสามารถฆ่าคนได้
มองไปทางกิจจาที่ยังนอนหลับใหลอยู่ นรมนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดกับคนที่อยู่ด้านนอกว่า “มาพาคุณนายกลับห้องได้แล้ว! ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน อย่าได้ให้เธอมาที่ห้องของกิจจา”
“ดูสิ ใครจะกล้า!”
คุณนายตระกูลโตเล็กส่งเสียงขู่ขึ้นทันใด ทำให้บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกถึงกับตกอกตกใจ
“คุณนาย ท่าน…..”
“นรมน เธอคิดว่าเธอเป็นเจ้านายตัวจริงของตระกูลโตเล็กเหรอ ฉันยังไม่ตายเลยนะ เธอคิดว่าฉันมอบอาณาจักรรัตติกาลให้กับเธอแล้ว เธอก็จะกลายเป็นนายหญิงแห่งตระกูลโตเล็กอย่างนั้นรึ ตอนนี้ยังอยากจะมาควบคุมฉัน จำกัดเสรีภาพของฉัน เธอคู่ควรเหรอ แม้แต่กิมจิ สมุนพี่เก่งกาจของเธอ ก็ยังอยากจะสังหารเธอ เธอจะสามารถทำอะไรได้อีก ทั้งอาณาจักรรัตติกาล นอกจากกิมจิแล้ว เธอยังรู้อะไรอีก ไม่มีคำสั่งของกิมจิ เธอคิดว่าเธอจะสามารถออกคำสั่งคนของอาณาจักรรัตติกาลให้ทำตามเธอ ทุกอย่างที่เป็นของเธอล้วนแต่ฉันเป็นคนให้ ฉันอยากจะเอากลับคืนมาเมื่อไหร่ก็เอากลับคืนได้เมื่อนั้น ในบ้านตระกูลโตเล็ก ยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะมาออกคำสั่งกับฉัน ตรงกันข้ามถ้าฉันอยากให้เธอตายง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก”
คำพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กยิ่งทำให้นรมนรู้สึกแดกดันประชดประชัน
“ กิมจิเป็นคนของท่าน เพราะฉะนั้นการที่เขามาฆ่าฉันก็ต้องเกี่ยวข้องกับท่านใช่ไหม”
“ใช่แล้วจะทำไม”
เมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กพูดจบ เธอก็สังเกตเห็นหน้าถอดสีของนรมน และก็รู้ตัวว่าได้พูดอะไรออกไป จึงได้หันไปพูดกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆขึ้น “ปิดประตู แล้วไสหัวออกไปซะ! ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน อย่าให้ใครย่างกรายเข้ามา”
“ครับ!”
บอดี้การ์ดไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของคุณนายตระกูลโตเล็ก จึงหันไปมองนรมน จากนั้นก็ออกไปโดยไม่มีการพูดจาใดๆ
นรมนเศร้าเสียใจ เพิ่งรู้ว่าตัวเองอยู่ในตระกูลโตเล็กนั้น ไม่มีอำนาจใดๆและที่สำหรับเธอเลย
ทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ ล้วนเป็นคุณนายตระกูลโตเล็กและบุริศร์ให้จริงๆ
ไม่แปลกใจเลยว่าที่รามิลพูดเช่นนั้นกับเธอ ที่แท้ทุกอย่างก็เป็นแบบนี้นี่เอง
นรมนรู้สึกเสียใจ
เสียใจที่ต้องสูญเสียการเป็นตัวของตัวเองเพื่อความสัมพันธ์ในครั้งนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...