บทที่ 632 เธอก็เป็นแม่คนหนึ่ง
หน้าต่างห้องเปิดค้างไว้!
นรมนจำได้ว่าแม่นว่าก่อนที่เธอจะหลับไปได้ตรวจดูห้อง ล็อกประตู ปิดหน้าต่างไว้หมดทุกบานแล้ว
ตอนนี้หน้าต่างกลับเปิดอยู่ นี่มันผิดปกติมากๆ!
เธอดีดตัวลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนสะเทือนแผลของตนเอง เจ็บจนต้องเบ้ปากแต่ก็ไม่ใส่ใจแล้ว
นรมนรีบตรวจดูตามตัวของกิจจา เมื่อพบว่าเขานอนหลับสนิทอยู่ถึงถอนหายใจออกมา
จากนั้นเหมือนกับว่านึกอะไรออก เธอจึงเดินไปตรวจดูกระเป๋าสตางค์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว พบว่าทั้งกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ได้หายไปแล้ว
เธอถูกขโมย!
ความรู้สึกไม่ดีไปทั่วร่างนรมน
เธอโชคร้ายและน่าเวทนามามากพอแล้ว ทำไมยังมีเรื่องแย่ๆ มากมายตามเธอมาอีก?
เงินที่พึ่งยืมมาจากนภดล วางแผนไว้ว่าจะออกจากที่นี่ไปยังที่ที่ไม่มีคนรู้จักแล้วพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่กับกิจจาตามลำพัง ไม่คิดว่าความเป็นจริงจะไม่ให้โอกาสเธอได้พักหายใจเลยแม้แต่น้อย
ไม่นึกเลยว่าจะมีโจรมาขโมยของพวกเขาไป!
นรมนแทบจะร้องไห้ออกมา
ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ ตอนนี้เธอกับกิจจาจะทำอย่างไรดี?
คนที่นี่ก็ไม่คุ้นเคย บนตัวก็ไม่มีเงินสักแดงเดียว พวกเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร?
นรมนไม่อยากปลุกกิจจาแล้ว
ในเวลานี้เด็กคนนี้ยังสามารถนอนหลับอย่างสบายได้ หลังจากไปจากที่นี่แล้วก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสได้หลับอย่างสบายแบบนี้อีกไหม ที่นอนต่อไปเป็นที่ไหนก็ยังไม่รู้เลย
นรมนคิดว่าการปลุกกิจจาขึ้นมาตอนนี้นั้นโหดร้ายเกินไป แต่ถ้าไม่ปลุกรอให้คนของโรงแรมมาไล่พวกเขาออกไปน่าอายยิ่งกว่า
หลังจากดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง นรมนก็ระงับความหงุดหงิดกับชีวิตลง
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก บอกกับตัวเองว่าทุกอย่างจะผ่านไป
เป็นไปไม่ได้ที่สวรรค์จะทำลายเธอเพียงคนเดียว ทุกอย่างจะดีขึ้น ตอนนี้มันเป็นเพียงชั่วคราว
เธอไม่หยุดให้กำลังใจตัวเอง
เมื่อสงบลงเพียงพอแล้ว นรมนจึงสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วยื่นมือไปสะกิดกิจจา
กิจจาลืมตาขึ้นยังคงสับสนสะลึมสะลืออยู่ มุดเข้าไปในวงแขนของนรมนอย่างไม่รู้สึกตัว
นรมนเห็นแบบนี้แล้วก็ยิ่งสงสารขึ้นไปอีก
เด็กมากับเธอ ก็ยังต้องลำบาก
ตอนนี้เธอรู้สึกขอบคุณมากที่กานต์กับกมลไม่ได้มากับเธอ ไม่อย่างนั้นเธอไม่รู้แล้วจริงๆ ว่าจะเลี้ยงดูพวกเขาได้ไหม
นรมนไม่ได้บอกอะไรกับกิจจา อุ้มกิจจาด้วยแขนเดียวลงไปชั้นล่าง
เถ้าแก่เนี้ยยังคงพิงกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ตรงนั้น ไม่ได้สนใจเธอที่เดินลงมา
นรมนเคาะลงบนเคาน์เตอร์
เถ้าแก่เนี้ยจึงลืมตาขึ้น
“มีอะไร?”
น้ำเสียงของเถ้าแก่เนี้ยไม่ได้น่าฟัง เจือเสี้ยวความหงุดหงิดที่ต้องตื่นนอน
นรมนหากระดาษกับปากกามาเขียน: “กระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์ของพวกเราถูกขโมยในห้อง คุณช่วยฉันตรวจดูหน่อยได้ไหม?”
“ถูกขโมย?”
เถ้าแก่เนี้ยเบิกตากว้างขึ้นทันที
“ตรงนี้เขียนไว้ชัดเจนว่าต้องดูแลทรัพย์สินให้ดี พวกเธอตอนนี้มาบอกว่าพวกเธอถูกขโมย? ฉันจะบอกพวกเธอให้ ฉันไม่รับผิดชอบชดเชยให้หรอกนะ! อีกอย่าง ถ้าพวกเธอจะแจ้งความล่ะก็ ฉันโทรให้ได้ แต่ถ้าโทรเสร็จแล้วพวกเธอก็รีบไปซะ ดูท่าทางแล้วพวกเธอก็ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องใช่ไหม? ซวยจริงๆ! เริ่มทำธุรกิจแรกของวันก็เป็นเสียอย่างนี้!”
เถ้าแก่เนี้ยพูดไปด่าไป ผลักโทรศัพท์ส่งให้นรมน
นรมนมองโทรศัพท์ ในใจรู้ดีว่าเธอแจ้งความไม่ได้
ถ้าเกิดแจ้งความ แผลบนตัวเธอจะอธิบายอย่างไร?
อีกอย่างหลังจากแจ้งความแล้วบุริศร์อาจจะตามหาเธอเจอได้ง่ายกว่าเดิม
นรมนคิดว่าหลังออกจากเมืองชลธีมาแล้วตัวเองจะต้องลำบาก ก็ลำบากจริงๆ แต่ให้เธอกลับไปเป็นคุณนายของตระกูลโตเล็กต่อไป จะพูดอะไรก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
เธอผลักโทรศัพท์ออกไป แล้วอุ้มกิจจาออกจากโรงแรม
เถ้าแก่เนี้ยก่นด่าอยู่ข้างหลัง “ถูกขโมยอะไร? ฉันว่าแค่อยากนอนโรงแรมฟรี! จริงๆ เลย เป็นใบ้ยังทำเหมือนตัวเองเป็นคนปกติ ฉันจะบอกเธอให้ เอาถ้วยไปขอทานที่ใต้สะพานลอยสิ ไม่แน่ว่าอาจจะหาเงินได้บ้าง”
ฝีเท้าของนรมนหยุดลง
ขอทาน?
เธอนรมนตกต่ำถึงขนาดนี้แล้วเหรอ?
ในที่สุดกิจจาก็ตื่น
เมื่อเขาตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ก็ดิ้นรนจะลงจากอ้อมกอดของนรมน แล้วมองไปที่แขนของนรมนด้วยความกังวลเป็นอย่างมาก
นรมนจึงรีบทำท่าทางบอกเขาว่าตัวเองไม่เป็นไร
กิจจามองตนเองกับนรมนยืนอยู่ที่ทางม้าลายก็อดที่จะสงสัยไม่ได้
นรมนจึงจำใจต้องบอกกิจจาด้วยวิธีของตนเองว่าพวกเขาถูกขโมยแล้ว ตอนนี้ไม่มีเงินติดตัวเลยสักแดงเดียว
กิจจาพยักหน้าบ่งบอกว่ารับรู้แล้ว ไม่มีแสดงอารมณ์อื่นใด
นรมนมองรถที่แล่นผ่านไปผ่านมาในเมืองที่ไม่คุ้นเคย ไม่รู้จริงๆ ว่าต่อไปตัวเองกับกิจจาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร
“ครืนๆ” ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องดังขึ้น
นรมนยังไม่ทันได้อุ้มหากิจจาหาที่หลบฝน สายฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา
ฝนตกกระทบร่างจนเจ็บไปหมด ที่สำคัญที่สุดคือบาดแผลที่แขนและหลังของนรมนโดนฝนตกใส่แบบนี้ก็รู้สึกว่าอักเสบขึ้นมาเล็กน้อย แต่นรมนก็ยังรีบถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกแล้วคลุมลงบนศีรษะของกิจจา อุ้มเขาด้วยแขนข้างเดียวแล้ววิ่งฝ่าสายฝน
ไม่ง่ายเลยกว่าจะหาศาลาหลบฝนได้ น่าเสียดายที่ทั้งร่างของนรมนไม่มีส่วนไหนที่แห้งอยู่เลย
เธอปล่อยกิจจาลง ให้กิจจาอยู่ห่างจากตัวเองเล็กน้อยถูกฝนพรำจนเปียกไปหมด แต่กิจจากลับไม่ให้ความร่วมมือเอาแต่จะอยู่ติดกับเธอ
การปกป้องที่ไม่มีคำพูดใดของกิจจา นรมนทั้งซาบซึ้งทั้งปวดใจ ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอ ถ้ากิจจายังอยู่เป็นคุณชายน้อยที่ตระกูลโตเล็กล่ะ
นรมนรู้สึกอยากจะร้องไห้
ในตอนนั้นเองเธอรู้สึกว่าทั้งโลกนี้กำลังทอดทิ้งเธอ รู้สึกว่าทั้งโลกนี้ทำให้เธอลำบาก
เมื่อลมหนาวพัดมา นรมนจึงตัวสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...