บทที่ 635 ใครจะเต็มใจเป็นใบ้
ท่าทางร้อนรนของคมทิพย์ทำให้หมอยากที่จะเอ่ยปาก
รีบเข้าไปเอ่ยถาม “หมอ เป็นอย่างไรกันแน่? พวกเรามีหวังเท่าไหร่?”
“กล่องเสียงสามารถฟื้นคืนสภาพได้ แต่เทคโนโลยีทางการแพทย์ของพวกเราไม่ดี ถ้าหากต้องการผ่าตัด พวกเราแนะนำให้ไปต่างประเทศ อีกอย่างเด็กที่เธอพามาด้วยกีดกันพวกเราจากโลกของเขา ออทิสติกนี้ รักษายากแล้ว ต้องการความร่วมมือจากครอบครัว ถ้าตอนนี้คนในครอบครัวเขาอยู่ในสภาพนี้แล้ว ผมคิดว่าตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือรักษาผู้ใหญ่ให้ดีขึ้นก่อน ส่วนเด็กทำได้แค่ยืดเวลาออกไป”
ได้ยินหมอพูดแบบนี้ คมทิพย์จงเอ่ยอย่างร้อนใจ “เด็กน้อยพึ่งสี่ขวบ น้อยมากที่จะเป็นออทิสติก มันจะทำลายเขา เขาเคยเป็นที่ร่าเริงมาก”
“พวกเราไม่มีวิธีจริงๆ พูดตามตรงคุณคมทิพย์ พวกเราที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ไม่ใช่เมืองใหญ่ ดังนั้น......”
“เข้าใจแล้ว หมอ ให้ยาพวกเขาก่อนเถอะ เรื่องผ่าตัดพวกเราตระกูลเจริญไชยจะวางแผนเอง”
คำพูดของปัญญ์ทำให้คมทิพย์ชะงักไป
““ตระกูลเจริญไชยวางแผนเอง?”
ปัญญ์แตะไหล่ของคมทิพย์ เอ่ยยิ้มๆ “พี่ พวกเราตระกูลเจริญไชยทำได้หลายอย่างจริงๆ อย่าทำเหมือนตัวเองเป็นคนนอก ผมบอกแล้ว คนมีบุญคุณกับพี่ก็เท่ากับมีกับผม เพื่อนของพี่ก็คือเพื่อนของผม ในเมื่อเธอมีบุญคุณกับพี่ ตอนนี้พวกเราตระกูลเจริญไชยจะไม่สนใจเธอไม่ได้ พี่ฟังผม ตอนนี้รักษาภายนอกให้เธอก่อน ส่วนเรื่องกล่องเสียง ผมจะให้พ่อเราหาผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมา”
“ได้ไหม?”
นัยน์ตาของคมทิพย์มีเศษเสี้ยวของความหวัง
“ดูพี่ถามสิ อะไรคือได้ไหม? วางใจเถอะ เรื่องนี้ส่งให้ผม พี่ต้องการอยู่ดูแลเธอผมไม่ขัด แต่ต้องกินข้าวก่อน”
ปัญญ์ส่งกล่องข้าวในมือให้คมทิพย์
คราวนี้ คมทิพย์ไม่ได้ปฏิเสธ ขอแค่สามารถรักษานรมนให้หายได้ ให้เธอทำอะไรก็ได้
เห็นคมทิพย์ทานข้าวแล้ว แม้จะกินอย่างมูมมาม ราวกับไม่ลิ้มรสอาหาร แต่ปัญญ์ก็พอใจแล้วเอ่ยกลั้วหัวเราะ “ต้องการซุปบำรุงอะไร ก็โทรหาผมได้ตลอดเวลา จะให้พ่อบ้านจัดคนไปทำให้”
คมทิพย์พยักหน้า
ปัญญ์พูดอย่างไม่วางใจเล็กน้อย “จำเบอร์ผมได้ใช่ไหม?”
“ในโทรศัพท์มี”
ตอนแรกคมทิพย์ไม่ได้กะจะจำไว้ แต่ปัญญ์กลับบันทึกไว้เอง
ปัญญ์พูดยิ้มๆ “อย่างนั้นก็ได้ ผมกลับก่อนก็แล้วกัน จะได้ให้พ่อหาผู้เชี่ยวชาญ พี่ก็อย่าเหนื่อยเกินไป ถ้าไม่ไหวจริงๆ ตอนกลางคืนผมให้พยาบาลมาดูแทนพี่”
“ไม่ต้องแล้ว ฉันอยากเฝ้าเธอคนเดียว”
คมทิพย์ไม่รู้ว่านรมนนั้นเจอกับอะไรมาบ้าง แต่ในตอนนี้เธออยากอยู่กับนรมนจริงๆ
หลังจากเห็นนรมนบาดเจ็บจนกลายเป็นแบบนี้ คมทิพย์คิดอยากไปขอความช่วยเหลือจากโพนี่ แต่ถ้าไปหาโพนี่ป้องก็ต้องรู้อย่างแน่นอน ถ้าป้องรู้แล้ว บุริศร์ก็อาจจะรู้ ถึงตอนนั้นบุริศร์มา เธอก็ไม่อยากให้นรมนอยู่กับบุริศร์แล้ว
คมทิพย์เดินไปพร้อมกับหมอพานรมนกลับไปที่ห้องผู้ป่วย กิจจาก็ตามมาด้วย มองคมทิพย์ไม่ได้ แต่กีดกันเธอ ทำให้คมทิพย์ดีใจเล็กน้อย
“กิจจา หนูอยากทานอะไร? ดูสิ ป้าคมทิพย์เหลืออันนี้ให้หนู”
คมทิพย์ส่งชาหมูน้ำแดงที่ตั้งใจเหลือไว้ให้โดยเฉพาะมาตรงหน้ากิจจา
กิจจามองแล้ว หยิบขาหมูน้ำแดงยื่นไปที่ปากของนรมน ท่าทางนั้นคือหวังว่านรมนจะกินไปสักหน่อย
คมทิพย์เห็นแบบนั้นหัวใจก็เจ็บแปลบ
เธอพูดเสียงเบา “กิจจาเด็กดี หม่ามี้ยังไม่ฟื้น ยังกินอะไรไม่ได้ชั่วคราว”
พูดจบ กิจจาก็วางขาหมูน้ำแดงลงที่เดิมทันที แล้วหาอะไรมาปิดไว้ ท่าทางราวกับต้องการรักษาความอุ่นไว้
คมทิพย์มองเขาแล้วเอ่ยถาม “หนูอยากรอให้นรมนฟื้นแล้วให้เธอกินก่อนใช่ไหม?”
กิจจาพยักหน้า
คมทิพย์รู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที
“หม่ามี้ของหนูยังกินอะไรไม่ได้ เธอบาดเจ็บ เป็นไข้ กินได้แค่อาหารรสชาติอ่อนๆ เด็กดี หนูกินเถอะ รอหม่ามี้ตื่นแล้ว พวกเราหาคนมาทำให้เธอโดยเฉพาะ หนูวางใจเถอะ ตอนนี้มาถึงป้าคมทิพย์แล้ว หนูกับหม่ามี้วางใจได้แล้ว ฉันจะปกป้องพวกเธอเอง”
คมทิพย์ส่งขาหมูน้ำแดงให้กิจจาอีกครั้ง
ครั้งนี้กิจจานิ่งไปสักพัก ก็หยิบขาหมูน้ำแดงขึ้นมากิน เขากินอย่างรีบร้อนเล็กน้อย ดูแล้วคงหิวมาก
คมทิพย์ให้คนไปซื้อเสื้อผ้ามาให้กิจจาเปลี่ยน เตรียมเสื้อผ้าให้นรมน แต่น่าเสียดายที่หมอไม่ให้ใส่
นรมนไม่รู้ว่าตนเองหลับไปนานแค่ไหน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็มองเห็นเพดานสีขาว และกลิ่นน้ำโซดาที่ไม่คุ้นเคย
เธอเข้าใจแล้ว ตัวเองถูกช่วยแล้ว!
“นรมน เธอฟื้นแล้ว?”
คมทิพย์รีบเข้าไปเอ่ยถาม
นรมนมองใบหน้าที่คุ้นเคยตรงหน้า มองสายตาที่เป็นห่วงของคมทิพย์ ก็รู้สึกแย่และกล้ำกลืนในใจจนพูดไม่ออก
คมทิพย์เห็นนรมนไม่มีท่าทีตอบสนองอะไรเลย ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “เธอคงไม่ได้ไข้ขึ้นจนโง่ไปแล้วใช่ไหม? หรือไข้ขึ้นจนจำอะไรไม่ได้แล้ว”
นรมนเห็นเธอคิดไปต่างๆ นานา ขนาดนี้ก็ต้องยื่นมือไปตบลงบนหลังมือเธอเบาๆ อย่างช่วยไม่ได้ เพื่อบอกว่าตนเองไม่เป็นไรแล้ว
คมทิพย์เห็นท่าทางนี้ของเธอ น้ำตาก็ร่วงลงมาอย่างห้ามไม่ได้
“เธอบอกฉันมา บุริศร์สั่งให้คนทำเธอจนกลายเป็นแบบนี้ใช่หรือเปล่า? ใช่ไหม? ถ้าหากใช่ฉันจะฆ่าเขา”
ท่าทางกังวลของคมทิพย์ทำให้นรมนนึกถึงชีวิตที่ขมขื่นของตนเอง
อาการบาดเจ็บบนตัวเธอตอนนี้คมทิพย์น่าจะรู้แล้ว?
เธอควรพูดอย่างไรดี
นรมนส่ายหน้าด้วยสีหน้ายุ่งยาก
“โอเคโอเค ไม่พูดถึงพวกนี้ ฉันไม่ได้บอกใครเลยว่าเธออยู่ที่นี่ ถ้าเธออยากหาบุริศร์ ฉันจะโทรหาพฤกษ์ ถ้าเธอไม่อยากเจอบุริศร์ ก็อยู่ที่นี่ ฉันจะปกป้องเธอเอง ฉันรับรองว่าแม้แต่พฤกษ์ก็หาที่นี่ไม่เจอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...