บทที่ 638 ผมจะไม่ยกโทษให้คุณเด็ดขาด
“เป็นอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ปัญญ์เห็นนรมนหน้าซีดลงหลังจากตรวจสอบบัญชีธนาคาร จึงอดไม่ได้ที่จะถาม
นรมนทำท่าทางบอก “ฝ่ายการเงินของบริษัทไม่ได้โอนเงินให้ฉัน”
“ทำไม?”
“ไม่รู้”
วันนี้เป็นเงินเดือนออก แต่ยอดเงินในบัญชีของนรมนยังคงเป็นศูนย์
สถานการณ์ของกิจจาหลังจากผ่านการหนึ่งเดือนก็ดีขึ้นเล็กน้อย นรมนวางแผนหลังจากเงินเดือนนี้ออกแล้วจะพากิจจาไปตรวจที่สถาบันเฉพาะทาง
เด็กดีขนาดนี้ เธอไม่อยากให้กิจจาปิดกั้นตัวเองต่อไป แต่วันนี้เงินกลับไม่เข้าบัญชี เกิดอะไรขึ้นกัน?
นรมนเปิดโน้ตบุกขึ้นมาหาคนที่รับผิดชอบดูแลแล้วสอบถามถึงปัญหานี้
คนดูแลให้คำตอบว่าฝ่ายการเงินคำนวณเงินเดือนผิดดังนั้นจึงไม่ได้ทำการโอนเงิน ความหมายของคนดูแลคือต้องการให้นรมนใบเสร็จค่าแปลของเดือนนี้ไปที่บริษัท เพื่อตรวจสอบบัญชีจากนั้นจึงจะชำระเป็นเงินสดให้
นรมนกลับคิดว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยปกติ
ทำไมฝ่ายการเงินถึงได้เกิดความผิดพลาดได้ง่ายแบบนี้?
แต่ถ้าไม่ไป เงินเดือนนี้ก็เท่ากับว่าคว้าน้ำเหลว?
แม้ว่าจะรายได้ไม่เท่าเมื่อก่อน แต่ก็เป็นผลของความพยายามของเธอ เป็นพื้นฐานให้เธอกับกิจจาอยู่รอด
เธอเกรงใจที่จะอยู่กินฟรีไปวันๆ ที่ตระกูลเจริญไชยต่อไปแล้ว
ปัญญ์พูดพลางขมวดคิ้ว “เป็นแบบนี้ได้อย่างไร? จะเป็นกับดักอะไรหรือเปล่า? พี่นรมน พี่อย่าไปคนเดียว พี่รอก่อนผมไปขับรถ แล้วพาพี่ไปเอง ถ้าอีกฝ่ายรังแก ผมจะสั่งสอนเธอเอง?”
นรมนยิ้มออกมาทันที
ปัญญ์นั้นอบอุ่นมากจริงๆ
ตั้งแต่ใช้เวลาร่วมกับเขามาหนึ่งเดือน นรมนรู้สึกอิจฉาคมทิพย์ที่มีน้องชายแสนดีขนาดนี้
คมทิพย์พิงอยู่ที่ประตู พูดขึ้นอย่างอิจฉาเล็กน้อย “โอ้ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอเหมือนเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเขามากกว่าฉันกัน?”
“พี่ อย่างหึงเลย เดี๋ยวซื้อของอร่อยกลับมาฝาก”
ปัญญ์เลิกคิ้วให้คมทิพย์ ด้วยท่าทางร้ายมาก
“ไปเถอะ อย่ามาแหย่ฉัน เอาท่าทางแบบนี้ไปทำร้ายสาวๆ ข้างนอกนู่น”
คมทิพย์กับปัญญ์ปะทะคารมกันต่อ นรมนมองพวกเขา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าในใจ
เธอเคยปรารถนาที่จะใช้ชีวิตร่วมกันบุริศร์แบบนี้ตลอดไปเหมือนกัน
ทำไมถึงคิดถึงเขาอีกแล้ว?
ตัดสินใจที่จะลืมเขาแล้วไม่ใช่เหรอ?
นรมนรู้สึกว่าการลืมคนคนหนึ่งนั้นยากมาก
ปัญญ์กับคมทิพย์เห็นนรมนใจลอยอีกแล้ว ก็ส่ายหน้าอย่างระอาใจ
“พี่นรมน พี่เก็บของก่อน เดี๋ยวผมพาพี่ไปที่บริษัท”
ปัญญ์ตบลงบนไหล่เธอ ทำให้เธอได้สติกลับมา
เธอพยักหน้า หาใบเสร็จค่าแปลของเดือนนี้ออกมา
คมทิพย์เห็นนรมนเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่เรียบร้อย
นรมนบอกกับกิจจาว่าต้องออกไปข้างนอกสักครู่ ให้กิจจาอยู่ที่บ้านคนเดียวดีๆ กิจจาจึงพยักหน้า
ปัญญ์พานรมนขับรถไปถึงบริษัทTENกรุ๊ป
มองอาคารสูงใหญ่ตรงหน้า นรมนก็มีความรู้สึกไม่แน่ใจบางอย่าง
เธอเองก็เคยนั่งทำงานในตึกสูงใหญ่แบบนี้มาก่อน ตอนนี้กลับกลายเป็นอยู่ในระดับต่ำสุด
ไม่ว่าอย่างไร เธอจะต้องพยายามกลับมายืนที่ตำแหน่งเดิมให้ได้ ให้ชีวิตที่ดีแก่กิจจา
ปัญญ์เห็นสายตานรมนที่อ่านอารมณ์ไม่ออก รู้สึกว่าทั้งตัวนรมนเต็มไปด้วยเรื่องราว ทำให้รู้สึกอยากเข้าไปค้นหาเป็นอย่างมาก
นรมนสังเกตได้ถึงสายตาที่มองมาที่ตนเองอย่างตั้งใจ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปแล้วสบตากับปัญญ์โดยตรง
ปัญญ์มีความรู้สึกลำบากใจที่ถูกจับได้ว่าแอบมอง ใบหน้าแดงเรื่อลามมาจนถึงลำคอ ท่าทางน่ารักนั้นทำให้นรมนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“อะแฮ่ม พี่นรมน พวกเราไปกันเถอะ”
ปัญญ์รู้สึกอายมากจึงเดินไปข้างหน้าก่อน
นรมนเดินตามหลัง ยิ้มอย่างสบายใจ
ในชีวิตมีน้องชายแบบนี้ก็ไม่เลวใช่ไหม?
นรมนกับปัญญ์เดินตามกัน ปัญญ์กับให้ความสนใจกับนรมนที่ตามหลังมาตลอดมาว่าเธอจะเดินไปผิดทางหรือไม่ แต่เขากลับพบว่าหลังจากเข้ามาแล้วนรมนไม่ได้ประหม่าแม้แต่น้อย แม้ว่าบรรยากาศจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองอีกครั้ง
พนักงานสาวที่แผนกต้อนรับหยุดพวกเขาได้ถูกเวลาพอดี
“ขออนุญาตสอบถามค่ะ พวกคุณมาพบใคร?”
ปัญญ์หยิบสมุดบัญชีค่าแปลออกมาแล้วโยนไปตรงหน้าพนักงานต้อนรับพร้อมกับเอ่ย “พวกเรามาหาคนที่รับผิดชอบที่ดูแลเรื่องนี้”
พนักงานต้อนรับดูแล้วโทรหาคนที่รับผิดชอบดูแล
“เจ้าหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้ให้พวกคุณขึ้นไป ตรงนี้คือลิฟต์โดยสารไปที่ชั้น12 แล้วเลี้ยวขวาก็จะเป็นสำนักงาน”
“ขอบคุณครับ คนสวย”
ปัญญ์ยิ้ม ยิ้มสมุดบัญชีนั้นแล้วจูงมือนรมนเข้าลิฟต์ไป
มือของนรมนนั้นบอบบาง และนุ่มมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...