บทที่ 91 หม่ามี้มีแฟนแล้วหรือครับ
แค่เพียงฝ่าเท้าที่รวดเร็วและรุนแรงนี้ เหมือนกับอยากจะเตะอีกฝ่ายจริงๆทันที
อีกฝ่ายก็ไม่กล้าประมาทอีกครั้ง รีบเปิดเผยชื่อของตนเองออกมา
“ฉันฉันฉัน! เจตต์! ปราณีฉันเถอะสาวสวย! ฉันยังไม่มีลูกชายเลยนะ”
เจตต์ตกใจจนเหงื่อซึมไปทั้งร่างกาย
พละกำลังของผู้หญิงคนนี้ปะทุขึ้นมาอย่างฉับพลันจนทำให้เขาตกใจ ถ้าเขายังไม่ยอมบอกว่าตนเองเป็นใคร รอให้เธอรู้ด้วยตัวเอง คิดว่าตลอดชีวิตนี้เขาคงจะใช้การไม่ได้แล้วจริงๆ
เจตต์เหงื่อชุ่มไปทั่วทั้งร่าง
เท้าของนรมนห่างจากส่วนนั้นของเขาไม่ถึงสามเซนติเมตร
ได้ยินเจตต์แนะนำตัวออกมา นรมนก็เก็บเท้าอย่างหวุดหวิด แต่กลับยืนได้ไม่มั่นคงสักเท่าไหร่ โชคดีที่ด้านข้างมีโต๊ะตัวหนึ่ง ทำให้เธอประคองไว้ได้ชั่วคราว
“เป็นคุณได้อย่างไร?”
นรมนคาดไม่ถึงอยู่เล็กน้อย แล้วก็ใจหายอยู่นิดหน่อย
แต่เหงื่อของเจตต์กำลังไหลลงมาจากหน้าผาก มองตนเองที่เพิ่งจะรักษาความเป็นชายที่น่าเกรงขามเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด ฝืนยิ้มพูดขึ้น: “ไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใครได้ล่ะ?สาวสวย คุณทำร้ายจิตใจฉันเกินไปจริงๆ เสียงของฉันคุณก็ฟังไม่ออกหรือ? ถ้านี่ล่อให้คนของบุริศร์มาล่ะก็ ฉันต้องตายแน่ๆเลย”
พูดเสร็จ เจตต์ก็นั่งลงไปบนพื้นทันที อ้าปากค้างพักหายใจ
นรมนค่อนข้างรู้สึกผิดอยู่นิดหน่อย
“ฉันไม่รู้ว่าเป็นคุณ คุณออกไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
“ฉันจะไปไหนล่ะ? ไม่ใช่ง่ายๆเลยที่ฉันจะได้มากองบัญชาการของบุริศร์สักครั้ง จะกลับไปอย่างนี้ก็คงจะทำผิดต่อตนเองมากเกินไปไหม? นายบุริศร์ที่น่ารังเกียจคนนั้น ไม่นึกว่าจะไปบอกกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาว่าความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่ที่ฉัน แม้ว่าจะต้องเป็นแพะรับบาปเพื่อสาวสวยอย่างคุณฉันก็ยินยอมด้วยความสมัครใจ แต่โดนบุริศร์คิดบัญชีอย่างนี้ ฉันไม่ค่อยพอใจจริงๆ”
เจตต์กำลังพูดอย่างโกรธเคือง
สีหน้าของนรมนเปลี่ยนไปทันที
ถ้าบอกว่าเธอกับคมทิพย์สงสัยในตัวของบุริศร์ตั้งแต่แรก ด้วยข้อมูลของตอนนี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าเรื่องนี้ บุริศร์เป็นคนทำอย่างแน่นอน
ผู้ชายคนนี้ต่ำทรามอย่างที่คิดเอาไว้!
เธอเกือบจะโดนวีรบุรุษที่ช่วยสาวงามหลอกเข้าเสียแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเจตต์ เธอก็คงจะสำนึกผิดต่อบุริศร์แล้วจริงๆ
นึกถึงที่ตนเองทำให้เจตต์เดือดร้อนแล้ว นรมนก็รู้สึกผิดมาก
“ขอโทษด้วย ที่ทำให้คุณเดือดร้อนแล้ว”
“เฮ้ เดือดร้อนอะไรกัน ฉันเต็มใจ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะเก่งกาจ แต่คิดจะจัดการฉันเจตต์ ก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น วางใจเถอะ เรื่องนี้คุณอย่าสนใจเลย แต่ฉันไม่อยากให้บุริศร์อยู่อย่างสงบอีกแล้ว สาวสวย ช่วยฉันสักเรื่องนะ”
เจตต์แสดงความรู้สึกทางแววตาแล้วพูดออกมา
นรมนรู้ว่าเขาจะต้องเข้ามาที่กองบัญชาการฝึกซ้อมของบุริศร์แน่นอน แต่พอคิดว่าบุริศร์เลวทรามอย่างนั้น ถึงแม้เจตต์จะทำอะไรนิดหน่อย ก็เป็นเพียงการเอาคืน เธอไม่มีอะไรต้องรู้สึกผิด
“บอกมาสิ อยากให้ฉันช่วยอะไรคุณ?”
นรมนหาม้านั่งมานั่งลงไป แล้วยังมองไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงเอ่ยปาก
เจตต์เห็นเธอระมัดระวังเช่นนี้ ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น: “วางใจเถอะ เวลานี้พวกเขาล้วนแต่อยู่ที่สนามฝึกซ้อม ไม่เห็นพวกเราหรอก แม้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะดีมาก แต่สำหรับฉันแล้ว ไม่มีประโยชน์”
เขาพูดอย่างภาคภูมิใจ
นรมนเห็นเขาอย่างนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ใช่ คุณเก่งที่สุดเลย”
“ใช่สิ!”
เจตต์เหมือนกับเด็กที่โอ้อวด ทำให้นรมนคิดถึงกานต์ขึ้นมาเลย
ทำไมอยู่ๆเธอถึงรู้สึกว่าสองคนนี้เหมือนกันอย่างนั้นล่ะ?
แค่คิดว่าถ้าเจตต์รู้ว่าเธอเปรียบเทียบเขากับลูกชายของตนเอง ใบหน้าที่หมดคำพูดของเจตต์นั้น ก็ยิ่งทำให้นรมนยิ้มอย่างสดใสเปล่งประกาย
เจตต์เห็นรอยยิ้มของเธอก็อดไม่ได้ที่จะเคลิบเคลิ้มไปครู่หนึ่ง
ในชีวิตของเขาก็เหมือนกับเคยได้พบรอยยิ้มอย่างนี้มาก่อน แต่น่าเสียดายที่คนๆนั้นคงไม่ปรากฏตัวออกมาแล้ว
สายตาของเขาเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ: “ฉันต้องการแผนผังของที่นี่ ทั้งหมด อยู่ที่นี่ฉันไม่มีอิสระในการเข้าออก ดังนั้นจึงต้องรบกวนคุณ”
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา แต่ฉันอยากให้คุณรับประกันความปลอดภัยของเด็กๆและครูทั้งหมดของที่นี่ พวกเขาไม่มีความผิด ไม่ควรโดนคุณดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับบุญคุณและความแค้นระหว่างคุณกับบุริศร์”
นรมนพูดออกมาก่อน
“แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าพวกเขายังอยู่ ฉันก็จะไม่ดำเนินการกับกองบัญชาการนี้ สบายใจได้”
คำพูดของเจตต์ทำให้นรมนปลื้มใจมาก
เพียงแต่แค่ครู่เดียวเธอก็พบกับอีกหนึ่งปัญหา
“คุณคงไม่ได้คิดจะซ่อนอยู่ในห้องของฉันตลอดใช่ไหม?”
“นั่นก็แน่นอนสิ! ที่นี่มีทหารลาดตระเวนอยู่ตลอดมากมายขนาดนั้น มีเพียงที่ห้องของคุณที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว”
เจตต์น้ำเสียงแน่วแน่
“ไม่ได้!”
นรมนปฏิเสธทันที
“ทำไมไม่ได้ล่ะ?สาวสวย คุณไม่รักฉันแล้วหรือ?”
เจตต์เปลี่ยนท่าทีเป็นโดนทอดทิ้งอย่างฉับพลัน ดูแล้วน่าสงสารขนาดไหนกันนะ
นรมนรู้สึกว่าสีหน้าอย่างนี้ตนเองเคยพบที่ไหนมาก่อน แต่ในเวลาอันสั้นนี้ทำให้คิดไม่ออก เธอส่ายหัวแล้วพูดขึ้น: “ชายโสดหญิงโสดอย่างพวกเราอยู่ในห้องเดียวกันไม่เหมาะสม”
“ไม่เป็นไร ฉันจะรับผิดชอบคุณเอง!”
เจตต์กำลังพูดด้วยความจริงใจ
นรมนกระวนกระวายใจจนพูดไม่ออกแล้ว
“ฉันไม่ต้องให้คุณรับผิดชอบ!”
“อย่างนั้นคุณจะรับผิดชอบฉัน?”
ใบหน้าที่คาดหวังของเจตต์กำลังมองนรมนอยู่
นรมนรู้สึกว่าพวกเราคุยกันไม่รู้เรื่อง
“เจตต์!”
“ครับ!”
“จริงจังหน่อย!”
นรมนไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรดีแล้ว
ผู้ชายคนนี้ช่างคุยด้วยยากจริงๆเลย
“คุณดุฉัน!”
เจตต์ทำตัวน่าสงสารมองไปที่นรมน สายตาเศร้ารันทดที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
จู่ๆนรมนก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ทำไมเธอถึงหาเรื่องใส่ตัวกับผู้ชายที่ไม่มีเหตุผลอย่างนี้นะ
“เจตต์ ถ้ายังเป็นอย่างนี้ฉันจะไม่สนใจคุณแล้ว”
“อย่าทำอย่างนั้น! ฉันจริงจังแล้ว”
เจตต์ยอมแพ้ทันที ท่าทางเชื่อฟังเหมือนเด็กน้อย
ในที่สุดนรมนก็เป่าปากอย่างผ่อนคลายลงแล้ว
“เมื่อครู่ฉันพูดถึงไหนแล้ว?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...