แม่หนูชาวนาจอมแสบ นิยาย บท 1

"เจ้านังเด็กแพศยา! ตัวซวย! จะตีเจ้าให้ตายแน่!"

"ถึงกับกล้าเถียงพ่อแม่สามี เจ้าอยากตายนักใช่ไหม! ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ! ทั้งตระกูลเหมิงถูกเจ้าทำให้อับอายขายขี้หน้าไปหมดแล้ว!"

ในลานเล็กเก่าทรุดโทรมแห่งหนึ่ง หญิงที่แต่งงานแล้วสองคนกำลังไล่ตามด่าว่าสาวน้อยที่อ่อนแอคนหนึ่ง

เพียะๆๆ!

ขณะเดียวกัน ไม้กวาดสองอันก็ผลัดกันตีลงมาบนร่างกายของนาง สาวน้อยกุมศีรษะเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด ซุกตัวอยู่ในมุมกำแพง น้ำตาหลั่งไหลลงมาอย่างควบคุมไม่อยู่ "ท่านย่า ท่านอาสะใภ้ อย่าตีข้าอีกเลย ข้าผิดไปแล้ว! ต่อไปข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีก!"

"ตอนนี้รู้ตัวว่าผิดแล้ว ข้าบอกเจ้าเอาไว้เลย มันสายไปแล้ว!" หญิงรูปร่างอ้วนเตี้ย ยกไม้กวาดตีลงไปอย่างแรงอีก ตีอยู่บนหัวนางตลอด ตีจนนางหน้ามืดวิงเวียน ทันทีหลังจากนั้น เหนือศีรษะก็มีของเหลวอุ่นที่มีกลิ่นคาวเลือดไหลลงมา

นางพยายามยืนหยัดเอาไว้ แต่ก็ยืนหยัดเอาไว้ไม่ไหวจริงๆ ล้มฟาดลงไปในดินโคลนโดยตรง

"เชียนเหยียน!เชียนเหยียน!" สวีเจินแบกฟืนกลับมาจากข้างนอก ก็เห็นลูกสาวของตัวเองถูกแม่สามีกับน้องสะใภ้ทุบตีทำร้าย นางกระโจนเข้าไปบนตัวของเหมิงเชียนเหยียน ปกป้องลูกเอาไว้ "ท่านแม่ น้องสะใภ้ นี่พวกท่านกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย?"

จ้าวฮัวจือโยนไม้กวาดทิ้งไป มือกอดอกแล้วฮึออกมาคำหนึ่ง "พี่สะใภ้รอง ท่านยังไม่รู้น่ะสิ! เชียนเหยียนบ้านท่านอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลซุน ไปเถียงกับว่าที่พ่อแม่สามีเข้าน่ะสิ! ตอนนี้ตระกูลซุนต้องการจะยกเลิกการแต่งงานกับเรา! ยังต้องการขอเงินค่าสินสอดคืนจากเราอีกด้วย! ท่านว่ามา นี่ควรจะทำอย่างไรดีล่ะ?"

"ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?" สวีเจินผู้อ่อนแอมองดูเหมิงเชียนเหยียนในอ้อมแขนที่หมดสติไปแล้ว ไม่อยากจะเชื่อ "น้องสะใภ้ นิสัยของเชียนเหยียนอ่อนโยน เจ้าก็รู้อยู่ นางน่าจะไม่เถียงพ่อแม่สามีหรอก ตั้งแต่เล็กจนโต นางเป็นคนที่ไม่มีอารมณ์ร้ายที่สุดในบ้านเราแล้ว"

"โอ๊ะ! พี่สะใภ้รอง ความหมายของท่านคือตระกูลซุนเขากำลังโกหกอยู่หรือไง?" ลูกตาของจ้าวฮัวจือจ้องเขม็ง ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยการเย้ยหยันเฉียบขาดรุนแรงที่อธิบายไม่ถูก

จ้าวฮัวจือดูถูกสวีเจินมาโดยตลอด เพราะสวีเจินเป็นเพียงหญิงอ่อนแอหัวเดียวกระเทียมลีบคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีบ้านแม่ อีกทั้ง แต่งเข้าตระกูลมาสิบกว่าปีเหมือนกัน จ้าวฮัวจือให้กำเนิดลูกชายอ้วนท้วนสองคน แต่สวีเจินกลับให้กำเนิดเพียงลูกสาวสองคนเท่านั้น

ฐานะของทั้งสองคนในตระกูลเหมิงถูกแยกออกเป็นสูงต่ำนานแล้ว

"ข้าไม่ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น" สวีเจินอธิบายเสียงเบา มองดูเหมิงเชียนเหยียนด้วยความเอ็นดูสงสาร "เชียนเหยียนหมดสติไปแล้ว ข้าอุ้มนางเข้าไปพักผ่อนครู่หนึ่งก่อน"

นางสวีอุ้มเหมิงเชียนเหยียนเข้าไปในบ้าน

สายตาของจ้าวฮัวจือค่อยๆเลื่อนมาทางแม่สามีนางหวางที่อยู่ข้างกาย นางหวางอายุหกสิบกว่าแล้ว ในแววตาที่ขุ่นมัวเต็มไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิดขวางหูขวางตา

"ท่านแม่ ท่านดูสิ พี่สะใภ้รองผู้ที่ชอบให้ท้ายลูกตัวเองคนนี้ เชียนเหยียนก่อเรื่องใหญ่เอาไว้ขนาดนี้! ต้องรีบแก้ไขถึงจะถูก! มิเช่นนั้น หากคนอื่นเขาจะยกเลิกการแต่งงานกับเราจริงๆ นั่นเป็นเงินสี่ตำลึงเต็มๆเลยนะ ใครมันจะสามารถเอาออกมาได้ล่ะ!"

ชั่วชีวิตของนางหวางนั้นตระหนี่และโลภมากที่สุด นางเห็นด้วยกับความเห็นของจ้าวฮัวจืออย่างมาก ดังนั้นจึงเดินตึกๆๆไปถึงหน้าประตูของบ้านสอง "สะใภ้บ้านสอง เจ้าออกมา ข้ามีธุระจะคุยกับเจ้า!"

ทางด้านสวีเจินกำลังใช้ขี้เถ้าพืชห้ามเลือดให้กับเหมิงเชียนเหยียนอยู่ จากนั้นก็วิ่งเหยาะๆไปถึงหน้านางหวาง "ท่านแม่ มีเรื่องอะไร?"

"จะเป็นเรื่องอะไรได้อีก! ในเมื่อนังเด็กเวรนั่นหมั้นหมายกับตระกูลซุนไปแล้ว เช่นนั้นมีชีวิตอยู่ก็เป็นคนของตระกูลซุน ตายก็เป็นผีของตระกูลซุน เจ้ารีบไปลากตัวนางขึ้นมา เราส่งนางกลับไป!"

"ส่งกลับไป?" ดวงตาของสวีเจินเบิกกว้างในทันใด "ท่านแม่ ทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด! ตระกูลซุนไม่ชอบเชียนเหยียนไม่ใช่หรือ หากเราส่งกลับไป เชียนเหยียนต้องถูกรังแกแน่นอนอยู่แล้ว!"

"รังแกก็รังแกไปสิ! ลูกสะใภ้คนไหนไม่ต้องรองรับอารมณ์กัน! ล้วนเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปอยู่แล้ว! ไป รีบไปเลย! ไปบอกว่าเราสั่งสอนนางแล้ว หวังว่าชิงเกจะไม่ถือโทษโกรธกัน!"

นี่ไง ร่างเดิมเพิ่งถูกส่งกลับมาที่บ้านแม่หลังจากถูกรังแกที่บ้านว่าที่สามีในอนาคต ย่ากับอาสะใภ้ของบ้านแม่กลับไม่ถามไม่แยกแยะถูกผิดก็ทุบตีนางแล้ว! สองสามทีที่ทุบตีลงมาที่ศีรษะมันแรงมากเกินไปจริงๆ เป็นผลให้วิญญาณของเธอที่มีชื่อและนามสกุลเดียวกันว่าเหมิงเชียนเหยียนคนนี้ทะลุมิติเข้ามาด้วย

คิดถึงตรงนี้ เหมิงเชียนเหยียนก็เต็มไปด้วยความโกรธ! นี่มันเป็นสารเลวที่เลวร้ายอะไรกัน! ล้วนวอนหาเรื่องให้อบรมสั่งสอนดีๆทั้งนั้น!

เวลานี้ สวีเจินขวางนางหวางกับจ้าวฮัวจือสองคนนี้ไม่อยู่แล้ว พวกเขาสองคนผลักนางสวีออก แล้วพุ่งเข้ามาในบ้าน

เป็นเพราะจ้าวฮัวจือใช้แรงพุ่งตัวออกไปมากเกินไป สะดุดโซเซ เกือบจะล้มลงไปบนพื้น

เหมิงเชียนเหยียนมองดูนาง เผยรอยยิ้มที่เยาะเย้ยออกมา "เอ๋? อาสะใภ้สาม นี่ยังไม่ตรุษจีนเลย นี่ท่านจะทำอะไร? จะคารวะข้าหรือ?"

จ้าวฮัวจือได้ยินเสียงของนาง ก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างประหลาดใจ เห็นเพียงเหมิงเชียนเหยียนนั่งไขว่ห้างอยู่ข้างเตียง ในสายตาคือรอยยิ้มที่สบายอารมณ์ มองดูนางเหมือนมองตัวตลกคนหนึ่ง

นางอดที่จะโมโหขึ้นมาไม่ได้ เอ่ยปากกล่าวตำหนิ: "นังเด็กเวร พูดอะไรส่งเดช! ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่!"

"คนที่ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่เกรงว่าน่าจะเป็นอาสะใภ้สามท่านเองมากกว่ามั้ง?" เหมิงเชียนเหยียนกลอกตา มองไปทางสวีเจินที่ทำหน้ากลัดกลุ้มอยู่หน้าประตู "ท่านแม่ข้า นางก็เป็นพี่สะใภ้ท่าน ก็ไม่เห็นว่าท่านจะเคารพเท่าไหร่เลยนี่นา!"

"เชียนเหยียน อย่าพูดเช่นนี้กับอาสะใภ้สามเจ้านะ" สวีเจินขี้ขลาด รีบวิ่งมาปิดปากของเหมิงเชียนเหยียนเอาไว้

เหมิงเชียนเหยียนกลับโยกหัวหลบออกไป จากนั้นก็ฮึเสียงเบาออกมา "อาสะใภ้สาม? หึๆ ข้าไม่มีอาสะใภ้สามที่โหดเหี้ยมเช่นนี้มั้ง!"

"เจ้า----" จ้าวฮัวจือหายใจหอบ คิดไม่ถึงว่านังเด็กที่อ่อนแอมาตลอดคนนี้วันนี้จะกล้าปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ได้ นางรีบดึงแขนของนางหวางทันที "ท่านแม่ ท่านดูเชียนเหยียนสิ นี่มันท่าทีอะไรกัน!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หนูชาวนาจอมแสบ