สายตาของนางหวางมองมาที่เหมิงเชียนเหยียนอย่างเย็นชา เต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เชียนเหยียน ขอโทษอาสะใภ้สามเจ้าซะ! จากนั้นก็กลับตระกูลซุนไป!"
"ท่านให้ข้ากลับไปข้าก็กลับไปหรือ? ถือสิทธิอะไร?" เหมิงเชียนเหยียนกะพริบตาปริบๆ ท่าทีเป็นกันเองมาก "ที่นี่เป็นสถานที่ของพ่อแม่ข้า ก็คือสถานที่ของข้า ข้าอยากอยู่ที่ไหนก็อยู่ที่นั่น"
"เหมิงเชียนเหยียน!" นางหวางได้ยินดังนั้น โกรธจนกระทืบเท้า ขณะเดียวกัน นัยน์ตาก็มีความประหลาดใจเล็กน้อยแวบผ่านไป
น่าแปลกมาก! เหมิงเชียนเหยียนในอดีตอ่อนแอขี้ขลาดจนไม่เคยกล้าโต้แย้งกับใครเลยสักคำไม่ใช่หรือ? ทำไมวันนี้? จู่ๆถึงเปลี่ยนเป็นร้ายกาจได้ขนาดนี้? แม้แต่นางที่เป็นย่าคนนี้ก็ยังไม่เห็นอยู่ในสายตาแล้ว!
เหมิงเชียนเหยียนไม่สนใจหรอกว่าพวกนางหวางจะคิดอย่างไร อย่างไรเสียนางก็ใช้ชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบันมานานหลายปีขนาดนี้ ก็ไม่เคยต้องถูกรังแกเลย! แม้แต่ผู้ชายสารเลวที่รักมาสามปีคนนั้น ทรยศต่อนางไม่ใช่หรือ! เช่นนั้นก็ให้เขาไปลงนรกซะ!
วันนี้ก็เหมือนกัน ร่างเดิมคนนี้ตอนอยู่ที่ตระกูลซุนไม่มีความผิดแท้ๆ ก็แค่กินข้าวเยอะไปเพียงไม่กี่คำเท่านั้น ก็ถูกหญิงชราตระกูลซุนด่าว่าเป็นหมู! ร่างเดิมก็แค่โต้แย้งกลับไปเบาๆคำหนึ่ง ผลก็คือถูกตราหน้าว่ามีความผิดฐานเถียงพ่อแม่สามี
จากนั้นตระกูลซุนก็ส่งนางกลับมาตระกูลเหมิง แต่แล้วนางหวางกับจ้าวฮัวจือของตระกูลเหมิงก็กลัวว่านางจะถูกถอนหมั้นจริงๆแล้วจะต้องคืนเงินสี่ตำลึงให้คนอื่นเขา จากนั้นก็ด่านางอย่างหยาบคายรุนแรงแล้วก็ใช้ไม้กวาดฟาดหัวของนางอย่างแรง!
เหอะๆ ความโกรธเคืองในครั้งนี้ เหมิงเชียนเหยียนไม่สามารถอดทนได้อย่างแน่นอน! สายตาแข็งกร้าวของนางมองผ่านนางหวางแล้วก็มองผ่านจ้าวฮัวจือไปอีก ไม่มีความเกรงกลัวใดๆเลย
สายตาเช่นนี้ จ้าวฮัวจือก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเช่นกัน ชั่วครู่ชั่วยามก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรดี
เหมิงเชียนเหยียนถึงได้เก็บสายตากลับมา หยุดอยู่ที่สวีเจินแม่ผู้อ่อนแอคนนี้ของตนเอง เบ้ปากลงมาแล้วกล่าวว่า: "ท่านแม่ ตระกูลซุนปฏิบัติต่อข้าไม่ดี ข้าไม่อยากอยู่ที่ตระกูลซุนอีกแล้ว"
ทีนี้นางเสียงอ่อนเสียงหวาน ทำให้สวีเจินใจอ่อนลงมาทันที มือที่เต็มไปด้วยผิวหนังหนาด้านของสวีเจินลูบผ่านใบหน้าที่ยังมีรอยเลือดติดอยู่ของเหมิงเชียนเหยียน แล้วก็สูดจมูกขึ้นมา "อืม หากคนอื่นเขาปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดี เช่นนั้นเจ้าก็กลับมาเถอะ!"
"อืมๆ ท่านแม่ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านดีต่อข้า" เหมิงเชียนเหยียนยิ้มหวานให้กับสวีเจิน
"เพียงแต่ว่า----" ไม่ช้าสวีเจินก็ถอนหายใจออกมาอีก "เชียนเหยียน ตอนที่หมั้นหมายกันบ้านเรารับเงินของตระกูลซุนมาสี่ตำลึง หากว่าเราเป็นฝ่ายเอ่ยยกเลิกการแต่งงาน เงินสี่ตำลึงนั้นต้องคืนให้คนอื่นเขา ตอนนี้ ที่บ้านเราไม่ได้มีเงินเยอะมากขนาดนั้น! ข้าต้องไปหาพ่อเจ้ากับพี่สาวเจ้าที่เมือง ลองคิดหาวิธีดูถึงจะได้"
คำพูดที่อ่อนโยนของสวีเจิน เหมิงเชียนเหยียนฟังแล้วรู้สึกอัดอั้นนัก ความทรงจำของร่างเดิมยังอยู่นะ เงินสี่ตำลึงนั่นไปอยู่ในมือของอาสามอาสะใภ้สามนานแล้ว
ดังนั้น นางเลยมองไปทางจ้าวฮัวจืออย่างเย็นชา
จ้าวฮัวจือถูกมองด้วยสายตาเช่นนี้ อดรู้สึกสั่นสะท้านในใจไม่ได้ นางอยากจะเดินออกไปข้างนอกโดยสัญชาตญาณ
เหมิงเชียนเหยียนกลับกระโดดลงมาจากเตียงทันที ตะโกนเรียกจ้าวฮัวจือเอาไว้ "อาสะใภ้สาม ท่านจะไปทำอะไร!"
"ข้า เจ้า อาสามเจ้าจะกลับมาแล้ว! ข้าต้องกลับไปทำอาหารแล้ว!"
"ทำอาหารหรือ! ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืดเลย น่าจะไม่ต้องรีบร้อน! อีกอย่างฟ้าครึ้มฝนตกเช่นนี้ ฟืนไฟน่าจะจุดได้ยาก" หางตาของเหมิงเชียนเหยียนกวาดมองไปทางนอกหน้าต่าง ก้าวเดินไปยังหน้าประตูอย่างเร็ว ขวางทางไปของจ้าวฮัวจือเอาไว้
จ้าวฮัวจือตะลึงงัน "นี่เจ้าก็จะทำอะไร?"
"ไม่มีอะไร! ก็แค่หวังว่าอาสะใภ้สามจะคืนสามตำลึงที่เอาไปจากบ้านข้ากลับมาเท่านั้น!" เหมิงเชียนเหยียนเอ่ยปาก ตรงไปตรงมา ขณะเดียวกัน มือข้างหนึ่งก็ยื่นไปถึงตรงหน้าจ้าวฮัวจือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หนูชาวนาจอมแสบ
เรื่องนี้จะมีตอนใหม่มาเมื่อไหร่หรออะคะ...