สวีเจินทำงานมือเท้าว่องไว ไม่ช้ามันเทศก็ต้มสุกแล้ว เหมิงเชียนเหยียนก็หิวจะแย่แล้วเช่นกัน กินอย่างตะกละตะกลามไปสองสามชิ้นก่อนที่จะหยุดลงมา
"โธ่ ลูกที่น่าสงสารของข้า ทำไมเจ้าถึงหิวได้ถึงขนาดนี้ล่ะ" ในสายตาของสวีเจินเต็มไปด้วยความรักและสงสาร แล้วก็ไปเอาผ้าขนหนูเปียกมาเช็ดรอยเลือดที่ยังหลงเหลืออยู่บนใบหน้าของนางอีก
เวลานี้ เหมิงเชียนเหยียนก็แอบวิเคราะห์สถานการณ์ของตระกลูเหมิงขึ้นมา
ตระกูลเหมิง ครอบครัวชาวนาธรรมดาๆของหมู่บ้านหลี่ฮวา ท่านย่าหวางกุ้ยเซียงให้กำเนิดลูกทั้งหมดสี่คน หนึ่งในลูกสาวคนโตที่สุดเหมิงเฟิ่งซีแต่งงานไปหลายปีแล้ว เหมิงกุ้ยลูกชายคนโตที่สุดก็แต่งเข้าไปในตระกูลเหอที่อยู่ในเมืองไปเป็นเขยที่แต่งเข้าบ้าน ส่วนที่เหลือ ก็คือเหมิงฉวนพ่อแท้ๆของเหมิงเชียนเหยียนกับอาสามเหมิงฝู
เหมิงฉวนกับสวีเจินทั้งสองคนล้วนมีนิสัยอ่อนแอ ไม่ถนัดการแก่งแย่งชิงดี ดังนั้นที่ดินส่วนใหญ่ของตระกูลเหมิงล้วนเป็นของเหมิงฝูแล้ว เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว เหมิงฉวนก็เลยพาลูกสาวคนโตเหมิงเชียนเถาไปเป็นยามเฝ้าประตูและเป็นสาวใช้ในเมือง
ในวันปกติธรรมดา คนที่อยู่บ้านก็เหลือเพียงสวีเจินกับเหมิงเชียนเหยียนสองคนเท่านั้น
เหมิงฝูเป็นคนพาลและขี้โกงมาก บวกกับลูกชายสองคนของตัวเองก็สารเลวมากเช่นกัน ดังนั้นสวีเจินกับเหมิงเชียนเหยียนไม่เคยได้อยู่ดีมีสุขเลยสักวัน
เหมิงเชียนเหยียนเรียบเรียงความทรงจำพวกนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งอัดอั้นตันใจ หากเป็นไปตามนิสัยของนาง เกรงว่าหลายปีก่อนหน้านี้คงจะแตกหักกับเหมิงฝูทั้งครอบครัวไปนานแล้วล่ะ!
สวีเจินที่คนช่างสังเกตมองออกว่าเหมิงเชียนเหยียนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ กล่าวถามขึ้นมาอย่างอ่อนโยน: "เชียนเหยียน นี่เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่น่ะ?"
"ไม่มีอะไร ข้าก็แค่กำลังคิดอยู่ว่า วันนี้ข้าทุบทำลายข้าวของในบ้านของอาสามอาสะใภ้สามไปหมดแล้ว เดาว่า ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะคืนเงินให้เราแล้ว"
"ใช่น่ะสิ ใครว่าไม่ใช่ล่ะ" สวีเจินรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย "เอาอย่างนี้แล้วกัน พรุ่งนี้เช้าแม่ตื่นเช้าหน่อย เข้าไปเมืองขอให้พ่อเจ้าลาวันหนึ่ง กลับมาพูดคุยกับอาสามเจ้า"
"พูดกับเขามีประโยชน์หรือ รอให้ข้าจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วค่อยไปเยี่ยมท่านพ่อกับพี่สาวแล้วกัน"
เหมิงเชียนเหยียนพูดไป ก็ล้มตัวลงไปบนเตียง
"เจ้าจะจัดการให้เรียบร้อย?" สวีเจินขมวดคิ้ว ไม่เชื่อเลย "เจ้าจะจัดการอย่างไร? เจ้าเป็นแค่เด็กผู้หญิงอายุสิบห้าคนหนึ่งเท่านั้น"
"เอาล่ะ ท่านแม่ท่านไม่ต้องบ่นแล้ว หัวข้ายังเจ็บอยู่เลย ข้าขอนอนก่อนแล้วนะ!"
เหมิงเชียนเหยียนคลุมผ้าห่ม กลิ้งตัวเข้าในเตียงก็นอนหลับไปเลย สวีเจินไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ปล่อยนางทำตามใจ
"สวีเจิน สวีเจิน! เจ้าออกมาเลยนะ!"
ฟ้ายังไม่ทันสว่างเต็มที่ มีเพียงแสงสว่างเล็กน้อยปรากฏขึ้นมาบนขอบฟ้า ข้างนอกมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาพร้อมด้วยเสียงตะโกนของชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ความทรงจำของเหมิงเชียนเหยียนบอกกับนางว่า ถูกต้อง นั่นคือเหมิงฝูไม่ผิดแน่
นางพลิกตัวกลับมา ลุกขึ้นมาจากบนเตียง เวลานี้ สวีเจินก็ตื่นขึ้นมาแล้วเช่นกัน ในสายตาเต็มไปด้วยความลังเลและไม่สบายใจ ท่าทางไม่รู้จะทำเช่นไรดี
"ไม่เป็นไร ท่านแม่ ข้าไปเปิดประตูเอง"
เหมิงเชียนเหยียนจัดระเบียบทรงผมให้เรียบร้อย และก็ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า อย่างไรเสีย นางก็ไม่ได้เสื้อผ้าสวยๆอะไรให้เปลี่ยนอยู่แล้ว นางเปิดประตูออกโดยตรง มองไปที่เหมิงฝูที่อยู่ตรงหน้าอย่างเย็นชา
เหมิงฝูมีรูปร่างเตี้ยอ้วนดำ หนวดเครารุงรัง สวมเสื้อคลุมผ้าชั้นนอกที่ไม่พอดีตัว แม้แต่พุงที่มีขนาดใหญ่ก็ยังโผล่ออกมา เวลานี้ เขากำลังเอามือเท้าเอวอยู่ จ้องมองไปที่เหมิงเชียนเหยียนด้วยใบหน้าดุดัน และด้านหลังของเขายังมีลูกชายสองคนของบ้านเหมิงฝู คนโตเหมิงต้าหลิน คนรองเหมิงต้าเฉิง
"เหมิงเชียนเหยียน เจ้านังเด็กแพศยา! เจ้าบ้าไปแล้วใช่ไหม! ถึงได้ทุบทำลายบ้านข้าจนกลายสภาพเป็นเช่นนี้ได้!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หนูชาวนาจอมแสบ
เรื่องนี้จะมีตอนใหม่มาเมื่อไหร่หรออะคะ...