นางต้องสร้างเสริมสมรรถภาพทางร่างกายของร่างเดิมนี้ให้ดี
เวลานี้ เหมิงต้าเฉิงของบ้านสามก็ตื่นขึ้นมาแล้ว เดินหาวออกมาจากหน้าประตู เขาเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นหมั่นโถวขาวที่อยู่ในมือของเหมิงเชียนเหยียน ต้องรู้ว่า ในหมู่บ้านห่างไกลที่ยากไร้แห่งนี้ หมั่นโถวขาวเป็นของที่จะได้กินเฉพาะช่วงเทศกาลและตรุษจีนเท่านั้น ในเวลาธรรมดาทุกคน
ล้วนแต่กินแต่พวกธัญพืชทั้งนั้น
เหมิงต้าเฉิงไม่พอใจ ยิ้มเย้ยหยันอย่างเหยียดหยาม "พี่เชียนเหยียน พี่คงไม่ได้รู้ว่าตัวเองจะต้องไปติดคุกแล้ว ดังนั้นเลยกินของดีๆมื้อหนึ่งหรอกใช่ไหม?"
เดิมทีอารมณ์ของเหมิงเชียนเหยียนกำลังดีมาก เสียงของเหมิงต้าเฉิงดังขึ้นมาไม่ใช่เวลาจริงๆ ดังนั้น นางเลยลืมตาขึ้นมาก็เยาะเย้ยกลับไป "ทำไม? หมั่นโถวขาวก็เป็นของดีแล้วหรือ? หรือว่าน้องต้าเฉิงโตขนาดนี้แล้ว แม้แต่หมั่นโถวขาวก็ยังไม่ค่อยได้กิน จิ๊จิ๊ เจ้านี่มันช่างน่าสงสารจริงๆ"
"เจ้า----" เหมิงต้าเฉิงหายใจหอบ นานพักใหญ่ ถึงได้กล่าวตำหนิออกมาอย่างดุดัน: "ฮึ นักเด็กเวร เรียนรู้อะไรไม่ดี ดันจะไปเรียนรู้การพูดจาเสียดสีจิกกัดตามคนอื่น เรารอไปก่อนเถอะ! รอให้คนของตระกูลซุนมาก่อนเถอะ! ดูว่าเจ้ายังจะสามารถโอหังได้อย่างไร!"
"อืม!" เหมิงเชียนเหยียนพยักหน้าตาม จากนั้นก็เอียงศีรษะ "เช่นนั้นเจ้าก็รออยู่ที่นี่ไป ดูว่าข้าจะโอหังอย่างไรแล้วกัน"
ในระหว่างการสนทนานี้ จู่ๆหน้าประตูใหญ่ก็ถูกคนผลักออก นางจ้าวของตระกูลซุนก็พุ่งเข้ามาอย่างกราดเกรี้ยว ครั้งนี้นางไม่เพียงแค่พาผู้ชายของนางกับซุนซวี่มาด้วยเท่านั้น ยังพาเจ้าหน้าที่ทางการมาด้วยสองคน
"ใต้เท้า นังเด็กคนนี้แหละ ติดหนี้บ้านเราสี่ตำลึง ตอนนี้ยังไม่คืน ใต้เท้า! รีบจับนางเอาไว้เลย ให้ใต้เท้าผู้เที่ยงธรรมให้ความเป็นธรรมกับบ้านเราด้วย!"
ท่าทางนั่นของนางจ้าว ดูเหมือนได้รับความไม่เป็นธรรมที่ใหญ่หลวงมาก และเมื่อหันมามองทางเหมิงเชียนเหยียนอีกครั้ง ก็เปลี่ยนมาเป็นท่าทีดุร้าย
เหมิงเชียนเหยียนก็ยังอดที่จะอยากหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ การแสดงของนางจ้าวคนนี้ดีขนาดนี้ ไม่ไปหาคณะละครร้องงิ้วก็น่าเสียดายเล็กน้อยจริงๆ นางก็ไม่ขยับเขยื้อน นั่งแอบแดดอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กเงียบๆอยู่อย่างนั้น
เวลานี้เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมาพร้อมกัน หน้าต่างบ้านของบ้านเหมิงฝูเปิดออก เหมิงฝูทั้งครอบครัวล้วนออกมามองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอก โดยเฉพาะเหมิงฝู นั่นคือใบหน้าเต็มไปด้วยความได้ใจ
"เหมิงเชียนเหยียน นังเด็กเวรคนนี้นี่ เจ้ายังนั่งอยู่ตรงนั้นอีก ไป ไปขึ้นศาลกับข้าไป!"
"ขึ้นศาลอะไรกัน? ทำไมข้าต้องไปขึ้นศาลด้วย?" นางจ้าวพุ่งไปตรงหน้าของนาง นางถึงยืนขึ้นมาอย่างช้าๆ กล่าวถามด้วยใบหน้างุนงงสับสน
"เจ้า เจ้ายังจะแสร้งทำเป็นโง่อีก เจ้าติดเงินบ้านข้าสี่ตำลึงใช่หรือไม่? ยกเลิกการแต่งงานแล้ว ก็ควรจะคืนเงินค่าสินสอดนี้มาสิ!"
"อ้อ!" เหมิงเชียนเหยียนเข้าใจในทันที "เหอะๆ ที่แท้ท่านป้าตระกูลซุนก็มาขอเงินค่าสินสอดนี่เอง"
นางจ้าวฮึออกมาอย่างเย็นชา "ถูกต้อง วันนี้เราตระกูลซุนต้องการจะมาเอาเงินค่าสินสอด ถ้าหากว่าเจ้ามีก็เอาออกมาคืนให้ข้า หากว่าไม่มีก็รีบตามใต้เท้าไปยังที่ว่าการอำเภอ!"
"วู๊ ท่านก็พูดแต่แรกสิ ก็แค่เงินสี่ตำลึงเอง ข้าเอาให้ท่านก็พอไม่ใช่หรือ" เหมิงเชียนเหยียนกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบาคำหนึ่ง จากนั้นก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมา: "ท่านแม่ คนขอเงินมาแล้ว ท่านรีบเอาเงินออกมาเลย"
ขอ----ขอเงิน! นางจ้าวโกรธจนมุมปากกระตุก นังเด็กเวรนี่ถึงขนาดใช้คำที่ต่ำต้อยเช่นนี้มาพรรณนาตระกูลซุน
"มาแล้ว อาซ้อตระกูลซุน นี่คือเงินสี่ตำลึง" สวีเจินเดินออกมาจากประตู ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เงินสี่ตำลึงเต็มๆก็เอามาถึงหน้าของนางจ้าว
นางจ้าวมองดูเงินพวกนั้น ตะลึงงันไปในทันที นี่ นี่มันเงินสี่ตำลึงจริงๆหรือ! นางรีบแย่งไปอย่างรวดเร็ว ใช้ฟันกัดลงไปอย่างแรง
"โอ้ย" เจ็บเสียวรากฟัน นางอดที่จะร้องเสียงหลงแล้วกุมปากเอาไว้ไม่ได้
เหมิงเชียนเหชียนเข้าไปในบ้าน แล้วปิดประตูลง นั่งลงไปตรงหน้าโต๊ะอาหาร ตักโจ๊กกินทีละช้อนทีละช้อน สวีเจินก็ยื่นผักดองให้นางทีละชิ้นทีละชิ้น เปี่ยมไปด้วยความรักและอ่อนโยน
เหมิงเชียนเหยียนอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ "ท่านแม่ ถึงแม้นิสัยท่านจะอ่อนแอ แต่ก็ดีต่อข้ามากจริงๆ"
"เจ้าเด็กคนนี้นี่ ข้าเป็นแม่ของเจ้า ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดีได้อย่างไรกันล่ะ"
"แล้วเมื่อไหร่ท่านพ่อกับพี่สาวของข้าจะได้หยุดพักผ่อน กลับบ้านมาหนึ่งวัน พวกเราทั้งครอบครัวกินอะไรอร่อยๆสักมื้อหนึ่งเถอะ? อย่างไรเสียในกระเป๋าของท่านก็ยังมีเงินอีกสี่ตำลึงไม่ใช่หรือ?"
"นี่----" สวีเจินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "มีสี่ตำลึงก็จริง แต่ว่าเชียนเหยียน ถ้าหากใช้หมดแล้ว เช่นนั้นต่อไปเราจะทำอย่างไรดีล่ะ!"
เหมิงเชียนเหยียนรู้อยู่แล้ว สวีเจินต้องพูดเช่นนี้ นางทำแก้มป่อง ทำน้ำเสียงออดอ้อน "ต่อไปก็ค่อยไปหาอีกไง ไม่แน่ว่า เรายังจะสามารถล่าหมูป่าได้อีกล่ะ!"
"ล่าอย่างไร? หมูป่านั่นล่ายากมากเลยนะ!เอาอย่างนี้ เจ้าได้รับความไม่เป็นธรรมมา อีกเดี๋ยวแม่ออกไปซื้อเนื้อหมูมาให้เจ้า กลับมาทำหมูตุ๋นน้ำแดงให้เจ้ากิน เจ้าคิดเห็นอย่างไร"
ได้ยินคำพูดประโยคนี้ สายตาของเหมิงเชียนเหยียนเป็นประกายขึ้นมา "งั้นก็ได้ ท่านแม่ท่านไปซื้อเนื้อมาก่อนเถอะ! ฮิๆ ข้าไม่ได้กินเนื้อมานานมากๆแล้ว!"
"ได้ แม่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ ตอนเที่ยงก็ให้เจ้าได้กินหมูตุ๋นน้ำแดง"
สวีเจินกัดฟัน ตัดสินใจเด็ดขาดเช่นกัน หยิบเศษเงินเล็กน้อยก็ออกจากประตูไป เหมิงเชียนเหยียนนั่งไขว่ห้างตื่นเต้นขึ้นมา
อืม ชีวิตจะดียิ่งขึ้นเรื่อยๆในไม่ช้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หนูชาวนาจอมแสบ
เรื่องนี้จะมีตอนใหม่มาเมื่อไหร่หรออะคะ...