ตอนที่ท้องฟ้าใกล้จะมืดลง ด้านนอกประตูมีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา เหมิงเชียนเหยียนคำนวณเวลาแล้ว น่าจะเป็นสวีเจินกลับมา นางกระโดดลงจากขั้นบันไดไปยังหน้าประตูโดยตรง นางยังไม่ได้ลืมว่า ร่างกายในตอนนี้ยังเป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้น นางต้องรักษาท่าทางความเป็นเด็กสาวเอาไว้ถึงจะถูก
ประตูเปิดออก สวีเจินก็เข้ามาก่อนจริงๆ จากนั้นผู้ชายที่สวมชุดคลุมผ้าหยาบคนหนึ่งกับหญิงสาวที่มีรูปร่างผอมเพรียวคนหนึ่งก็ตามเข้ามา เหมิงเชียนเหยียนย่อมรู้จักอยู่แล้ว เรียกออกมาด้วยเสียงที่อ่อนหวาน "ท่านพ่อ พี่ใหญ่ พวกท่านกลับมาแล้ว!"
"ใช่แล้ว!" เหมิงเชียนเถาแต่งกายในชุดสาวใช้ มองเห็นนาง ก็รีบจับมือนางอย่างเป็นกังวลมากทันที แล้วก็มองดูบาดแผลบนศีรษะของนาง "เชียนเหยียน เจ้าไม่ต้องกลัวนะ เจ้าวางใจได้ ท่านแม่เล่าเรื่องให้เราฟังหมดแล้ว เราจะต้องช่วยเจ้าคิดหาวิธีแน่นอน"
"เฮ้อ จริงๆเลย คิดไม่ถึงเลยว่าคนของตระกูลซุนจะมีโฉมหน้าที่น่ารังเกียจเช่นนี้ได้" เหมิงฉวนทั้งโกรธทั้งกังวล "ตอนที่มาขอหมั้นในตอนนั้น ก็พูดเอาไว้อย่างไพเราะเสนาะหู คิดไม่ถึงว่านี้กลับ----"
"ไม่มีอะไรแล้ว ท่านพ่อ อย่างไรเสียก็ยังไม่ได้แต่งงาน ตอนนี้ก็ได้เห็นนิสัยของตระกูลซุนอย่างชัดเจนก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือ?" เหมิงเชียนเหยียนเข้ามาปลอบใจเหมิงฉวนขึ้นมาก่อน
เหมิงฉวนพยักหน้า กล่าวกับสวีเจินว่า: "ที่ลูกสาวเราพูดมาก็มีเหตุผล แต่ว่าเงินค่าสินสอดให้แม่ข้าไปแล้ว เฮ้อ ถ้าอย่างไร ข้าลองไปหารือกับท่านแม่ดู"
"ไม่ต้องไปแล้วมั้ง!" ได้ยินคำพูดนี้ เหมิงเชียนเหยียนรีบดึงตัวเหมิงฉวนทันที จากนั้นก็ลดเสียงให้ต่ำลง "ท่านพ่อ พวกท่านไปบนเขาพร้อมกับข้ารอบหนึ่ง ข้ามีวิธีแล้ว"
"เจ้ามีวิธีอะไร?" เห็นได้ชัดว่าเหมิงฉวนไม่เชื่อ
"โธ่ ท่านพ่อ หรือท่านคิดว่าข้าจะโกหกท่านหรืออย่างไร! แม้แต่อุปกรณ์ข้าก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วนะ!" เหมิงเชียนเหยียนยิ้มระรื่น หยิบเชือกป่านมัดใหญ่ยัดเข้าไปในมือของเหมิงฉวน "ไป ท่านพ่อ พวกท่านรีบตามข้าไปดูกันเถอะ"
เหมิงเชียนเหยียนมีทัศนคติในด้านบวกมาก ดึงตัวคนในครอบครัวก็ออกไปข้างนอกเลย เหมิงฉวนก็ตามนางไปด้วยเช่นกัน พอดีเลย จะได้ไปดูว่าสิ่งที่เหมิงเชียนเหยียนพูดถึงคืออะไรกันแน่
ถนนบนภูเขาขรุขระ ในที่สุดทั้งครอบครัวก็ถึงยอดเขาจนได้ เวลานี้สวีเจินเหนื่อยจนเดินไม่ไหวแล้ว เหมิงฉวนเลยประคองนางชะลอฝีเท้าลง
เหมิงเชียนเหยียนร้อนใจ คว้ามือเหมิงเชียนเถา "พี่ พวกเราเดินอยู่ข้างหน้าเถอะ!"
"ดูสิ ที่นี่แหละ!"
"นี่คืออะไร?" เหมิงเชียนเถามองด้วยความสับสนมึนงง ข้างหน้านี่ดูเหมือนเป็นกองวัชพืชขนาดใหญ่นี่นา ดูเหมือน ดูเหมือนจะยังคลุมอะไรบางอย่างเอาไว้ด้วย
เหมิงเชียนเหยียนแสร้งทำเป็นลึกลับ "ฮิๆ พี่ ท่านลองเปิดกองหญ้าแห้งออกดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ?"
"ออ" เหมิงเชียนเถาดูแล้วไม่ค่อยมีความกล้าเท่าไหร่นัก นางพยายามดิ้นรนแล้วดิ้นรนอีก ถึงได้ค่อยๆเปิดกองหญ้าแห้งพวกนั้นออก
และเมื่อกองหญ้าแห้งถูกเปิดออกไปข้างหลังมากขึ้นเท่าไหร่ ดวงตาของเหมิงเชียนเถาก็ยิ่งเบิกกว้างมากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งทั้งตัวของหมูป่าตัวหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าของนางอย่างสมบูรณ์ นางร้องกรี๊ดขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ "ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านรีบมาดูนี่เร็ว หมูป่าตัวใหญ่มากเลย!"
"อะไรนะ? หมูป่า!" เหมิงฉวนตกตะลึง ก้าวเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว กอดลูกสาวสองคนเข้าไปในอ้อมแขนซ้ายคนหนึ่งขวาคนหนึ่ง ราวกับกลัวว่าพวกนางจะได้ถูกทำร้ายอย่างนั้นแหละ
จนกระทั่งเขาสังเกตว่าหมูป่าตัวนี้ได้ตายไปแล้ว ถึงได้ปล่อยมือออก
"นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?" สวีเจินก็มองมาเช่นกัน มองอย่างตะลึงงัน หมูป่านางก็เคยเห็นอยู่ หมู่ป่าตัวใหญ่ขนาดนี้ล้มตัวอยู่ตรงหน้าของนางนี่ถือเป็นครั้งแรกเลย
เหมิงฉวนนั่งยองๆลงไป แตะไปที่คอของหมูป่า อดที่จะรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ "ตัวมันยังอุ่นอยู่เลย ดูท่าหมูป่าตัวนี้เพิ่งตายไปไม่นาน แล้วก็ไปดูบาดแผลบนตัวมันอีก น่าจะถูกคนฆ่าตายถึงจะถูก"
หมูป่าเป็นอาหารป่าที่หาได้ยาก ภัตตาคารหรูบางร้านก็ชอบซื้อของพวกนี้ ดังนั้นเหมิงเชียนเหยียนจึงใช้หมูป่าตัวนี้แลกเงินมาแปดตำลึงอย่างง่ายดาย
เงินแปดตำลึงมาอยู่ในมือ รู้สึกว่ามันหนักๆ ใต้แสงจันทร์มีแสงสีเงินจางๆเปล่งแสงออกมา เหมิงฉวนมองดูมัน แล้วยื่นให้กับสวีเจิน "มา สวีเจิน เจ้าเป็นคนเก็บเอาไว้"
"นี่ ข้าเก็บเอาไว้หรือ----" สวีเจินประหลาดใจมาก และก็รู้สึกลังเลเล็กน้อย มองไปทางเหมิงเชียนเหยียน "เงินแปดตำลึงนี้ล้วนเป็นความชอบของเชียนเหยียนทั้งนั้นเลยนะ"
"โธ่ ความชอบของข้าแล้วมันอย่างไร ใครใช้ให้เราเป็นครอบครัวเดียวกันล่ะ" เหมิงเชียนเหยียนยิ้มระรื่น "ท่านแม่เอาไปเถอะ แต่อย่าเอามันไปให้คนอื่นเปล่าๆอีกก็พอ!"
คำพูดนี้นางพูดได้อย่างตรงไปตรงมา ย่อมหมายถึงหญิงชรานางหวางและครอบครัวจ้าวฮัวจือนั่นอยู่แล้ว เรื่องในครั้งนี้เกือบจะทำลายลูกสาวของตนเอง เหมิงฉวนจึงไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
"เช่นนั้นเราจะกลับบ้านกันใช่ไหม?" สวีเจินเก็บเงินแล้วกล่าวถาม
"ไม่ล่ะ ข้ากับเชียนเถายังทำงานให้คนอื่นเขาอยู่เลย นี่ถ้าขาดงานอยู่บ่อยๆ ข้ากลัวว่าคนอื่นเขาจะเปลี่ยนคน สวีเจิน เจ้าพาเชียนเหยียนกลับไปเถอะ แล้วก็คืนเงินให้ตระกูลซุนไปก่อน"
สวีเจินคิดดูแล้วก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผลดี "ก็ได้ หลังจากคืนเงินแล้ว ข้าค่อยพาเชียนเหยียนมาเยี่ยมพวกท่านสองคนพ่อลูก"
เมื่อแยกทางกับเหมิงฉวนในเมืองแล้ว เหมิงเชียนเหยียนกับสวีเจินก็กลับเข้าไปในบ้านที่หมู่บ้านหลี่ฮวาพร้อมกัน จากนั้นก็นอนกันแต่เช้า เพราะเหมิงเชียนเหยียนคิดอยู่ว่า พรุ่งนี้ยังต้องตื่นแต่เช้ามารอคนตระกูลซุนมาขอเงิน!
วันรุ่งขึ้น ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยอากาศที่สดใส เหมิงเชียนเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กตั้งแต่เช้า กินหมั่นโถวขาวที่สวีเจินทำให้ไป ก็นั่งแอบแดดอย่างเกียจคร้านไปด้วย ต้องรู้ว่า การอาบแดดนั้นเป็นวิธีเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หนูชาวนาจอมแสบ
เรื่องนี้จะมีตอนใหม่มาเมื่อไหร่หรออะคะ...