คำนึงถึงเรื่องพวกนี้ เหมิงเชียนเหยียนหายาสมุนไพรสำหรับการตัดเล็มเนื้อตายของบาดแผลมาแล้วเคี้ยวให้แหลกจากนั้นก็ใช้ทำความสะอาดบาดแผลให้เขาใหม่อย่างละเอียดหนึ่งรอบ! จากนั้นก็ฉีกชุดคลุมบนตัวของเขาลงมาพันบาดแผลเอาไว้
ทำทุกอย่างนี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว นางกลัวว่าจะมีคนไล่ตามขึ้นมา ดังนั้นจึงลากตัวผู้ชายคนนี้ไปซ่อนตรงมุมอับของกองไม้พุ่ม ซ่อนเขาเอาไว้เช่นนี้ หากมีคนไล่ตามมาน่าจะไม่ถูกพบแล้ว!
เหมิงเชียนเหยียนในเวลานี้เหนื่อยจนหอบแฮ่กๆแล้ว นางทำความสะอาดฝุ่นดินที่อยู่บนตัว หยิบเอามันเทศอันหนึ่งออกมากิน "เอาล่ะ เช่นนี้แล้วกัน หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับโชคของท่านแล้ว!"
ขณะที่กินมันเทศไป เหมิงเชียนเหยียนก็ลงจากเขาซวงเฟิงไปด้วย ตอนที่นางมาถึงเชิงเขาก็บ่ายโมงแล้ว นางนึกขึ้นได้ว่าสวีเจินกำลังรอนางอยู่ที่บ้าน ไม่รู้ว่านางจะเป็นห่วงไหม ดังนั้นจึงเร่งฝีเท้าเดินกลับบ้านไป
แต่แล้ว นางยังไม่ทันได้เหยียบเข้าไปในประตูของตระกูลเหมิง เสียงเยาะเย้ยของหญิงวัยกลางคนดังออกมาจากข้างใน
"หึๆ ตระกูลยากจนข้นแค้นอย่างตระกูลเหมิงของพวกเจ้า คงไม่ใช่ว่าไม่สามารถเอาเงินก้อนนี้ออกมาได้ เลยปล่อยให้นังเด็กเวรเหมิงเชียนเหยียนนั่นหนีออกไปหรอกใช่ไหม! คนตระกูลเหมิง! ข้าบอกเจ้าไว้เลย! หากไม่เอาเงินสี่ตำลึงนี่ออกมา! ก็เรียกตัวเหมิงเชียนเหยียนออกมาให้ข้าจับตัวนางไปขึ้นศาล!"
เสียงนี่แหลมคมสุดขีด ทันทีที่เหมิงเชียนเหยียนได้ยินก็ฟังออกเลยว่า คือนางจ้าวผู้หญิงของตระกูลซุน ซึ่งเดิมทีเป็นว่าที่แม่สามีในอนาคตของเหมิงเชียนเหยียน
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะ" สวีเจินสูดลมหายใจเข้า ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความสั่นเทา "พี่สาวของตระกูลซุน ท่านฟังข้าพูดก่อน เราไม่ได้ให้เชียนเหยียนหนีไป นางแค่ออกไปหาเงินเท่านั้น วันนี้ข้าก็เตรียมตัวจะไปหาสามีของข้ากลับมา เงินสี่ตำลึงนี้เราจะคืนให้อย่างแน่นอน ท่านก็ให้เวลาเราอีกหน่อยเถอะ"
"ไปให้พ้นเลย ยังมาเรียกข้าว่าพี่สาวอีก ก็ไม่ลองส่องกระจกดูว่าตัวเองเป็นตัวอะไรกัน!"
เสียงอู้อี้ดังขึ้นมา เหมือนว่ามีคนล้มลงไป
เหมิงเชียนเหยียนทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว พังประตูเข้าไปทันที เห็นเพียงสวีเจินล้มอยู่กับพื้น ในสายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด! นางรีบประคองสวีเจินขึ้นมา จากนั้นก็มองไปรอบๆด้วยสายตาเย็นชา
คนของตระกูลซุนกับตระกูลเหมิงส่วนใหญ่ต่างก็อยู่ที่นี่ เหมิงฝูทั้งครอบครัวกำลังยืนมองอยู่ที่หน้าประตูบ้านสามอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ มองดูภาพที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกำลังชมการแสดงอยู่
และครอบครัวสามคนตระกูลซุนก็กำลังจ้องมองสวีเจินและตัวนางราวกับเสือที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อ สายตานั่นดูเหมือนต้องการจะกินเลือดกินเนื้อของพวกนางสองคนแม่ลูก โดยเฉพาะซุนซวี่ที่ได้หมั้นหมายกับนางแล้ว ในสายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา เต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม ไม่มีความรักใดๆเลยแม้แต่น้อย
แต่ว่า สายตาของนางก็ยังหยุดอยู่ที่นางจ้าว เสียงของนางทั้งเย็นชาทั้งแข็งกร้าว "ทำไมต้องผลักแม่ข้าด้วย?!"
"ฮึ ข้าก็ไม่ได้อยากจะผลัก ใครใช้ให้นางเข้ามาใกล้ข้าล่ะ! อยากจะขอร้องให้ข้าผ่อนผันเวลาให้ ข้าบอกพวกเจ้าเอาไว้เลย ไม่มีทาง!" นางจ้าวบิดร่างกายที่อ้วนท้วน แขนหนาใหญ่สองข้างโอบกันอยู่ตรงหน้าอก กล่าวออกมาอย่างดุดัน
"ได้ ยกเลิกการแต่งงาน บ้านข้าก็สมควรที่จะชดใช้เงินสี่ตำลึงนั่นอยู่แล้ว แต่ว่า การชดใช้เงินเป็นเรื่องหนึ่ง แล้วเจ้าผลักแม่ข้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง!"
เหมิงเชียนเหยียนประคองให้สวีเจินยืนมั่นคงแล้ว จากนั้นก็เดินเข้าไปใกล้นางจ้าวทีละก้าว
นางจ้าวสะดุ้งตกใจกับเหมิงเชียนเหยียนที่กล้าหาญเช่นนี้ นางรู้มานานแล้วว่าเหมิงเชียนเหยียน เป็นเด็กน้อยอ่อนแอที่ขี้ขลาดตาขาวไม่ว่าใครก็สามารถรังแกได้ทุกคน วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น? จู่ๆทำไมดูเหมือนจะร้ายกาจขึ้นมาอย่างมาก
เหมิงเชียนเหยียนยิ้มมุมปากและมองดูนางด้วยสายตาเย็นชา มองจนนางรู้สึกขนลุกในใจจนต้องถอยหลังออกไป และในเวลานี้ หางตาของเหมิงเชียนเหยียนกวาดมองไปเล็กน้อย จากนั้นขาข้างหนึ่งก็เหยียดไปด้านหลังของนางจ้าว
เสียงพรุบดังขึ้นมา นางจ้าวนั่นก็ล้มหงายหลังลงไปแขนขาอ้าออกตรงนั้นเลย
"โอ้ย!" นางจ้าวเจ็บจนร้องออกมา "เหมิงเชียนเหยียนเจ้านังเด็กแพศยา เจ้าบังอาจทำให้ข้าสะดุดล้มได้! ข้าไม่จบไม่สิ้นกับเจ้า!" ขณะที่ตะโกนไป นางลุกขึ้นมาก็จะกระโจนไปทางตัวของเหมิงเชียนเหยียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หนูชาวนาจอมแสบ
เรื่องนี้จะมีตอนใหม่มาเมื่อไหร่หรออะคะ...