แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 102

“เพียะ.....”

ไม่รอเมี่ยวชุ่ยหลานพูดเสร็จ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นอีก

บนในหน้าเมี่ยวชุ่ยหลาน มีรอยฝ่ามือเพิ่มขึ้น

ทุกคนในหมู่บ้านเมี่ยวเจีย ต่างคิดในใจ “.....” ผู้หญิงกล้าหาญมาจากไหน?

ทุกคนของหมู่บ้านต้าซิง ต่างคิดในใจ “......” กล้าหาญมาก และก็สะใจจริงๆ

หลังจากตื่นตกใจ คนหมู่บ้านเมี่ยวเจียได้สติกลับมา

คนของหมู่บ้านตนเองถูกทำร้าย ยังถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาพวกเขา ความแค้นนี้ปล่อยไว้ไม่ได้

แต่ทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่ง พวกผู้ชายไม่รู้ลงมือยังไงดี ส่วนพวกผู้หญิงหมู่บ้านเมี่ยวเจีย ล้วนถูกกันอยู่ไว้ด้านนอก เข้ามาไม่ได้ง่ายๆ

และในเวลานี้ ชุยซื่อได้สติกลับมา เดินหน้าไปกำลังจะตบลั่วเสี่ยวปิง

เพียงแต่ว่า ชุยซื่อยังไม่ทันได้ลงมือ ก็ถูกมือคู่หนึ่งคว้าจับไว้

ชุยซื่อตกตะลึง เงยหน้าขึ้นมา แล้วก็เผชิญหน้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่บนใบหน้ามีรอย

ในทันใดนั้น ชุยซื่อที่เอาแต่ใจมาตลอดก็รู้สึกกลัว จนขาอ่อน

เวลานี้ฉีเทียนเห้าปล่อยมือชุยซื่อพอดี ชุยซื่อล้มนั่งลงบนพื้นทันที

คนหมู่บ้านเมี่ยวเจียมองดูฉีเทียนเห้าอย่างนิ่งอึ้ง ยังไม่ได้สติกลับมา เมื่อกี้พวกเขาไม่ทันเห็นชัดเจนว่าฉีเทียนเห้าเข้าไปใกล้ชุยซื่อได้อย่างไร

คนหมู่บ้านต้าซิง ต่างก็เบิกตาโตมองดูฉีเทียนเห้า

ลั่วเสี่ยวปิงมองดูฉีเทียนเห้าแวบหนึ่ง แล้วก็มองดูเมี่ยวชุ่ยหลาน

“สองฝ่ามือนี้ข้าอยากตบเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว” ลั่วเสี่ยวปิงพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าตีลูกชายข้า ที่ข้าไม่ไปหาเจ้า เพราะเจ้าเป็นลูกสะใภ้สกุลจาง วันนี้เจ้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสกุลจางแล้ว แค้นเก่าแค้นใหม่ คิดรวมกันเลย”

พูดเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงมองดูเมี่ยวชุ่ยหลานแล้วก็ตบอีกสองที พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าพูดใส่ร้ายข้ากับจางเอ้อหลาง อย่าบีบบังคับให้ข้าไปตาย ตบเจ้าสองที เพื่อให้เจ้ารู้ว่า ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะสามารถพูดไปเรื่อยได้ ในเมื่อพูดแล้ว งั้นก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา”

เมี่ยวกุ้ยพ่อของเมี่ยวชุ่ยหลาน ยังมีพี่น้องสองคนมองดูลูกสาวของตนเอง (น้องสาว) ถูกรังแก ก็โกรธจัดแล้วก็เดินไปข้างหน้า

แต่ถูกสายตาของฉีเทียนเห้าข่มขู่ พวกเขาจึงไม่กล้าขยับแล้ว จึงหันไปมองคนหมู่บ้านเมี่ยวเจียอย่างโกรธจัด

คนหมู่บ้านเมี่ยวเจียได้ยินเช่นนี้ เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า กลับไม่กล้าก้าวออกมา

ไม่เพียงว่านั่นเป็นเรื่องระหว่างผู้หญิงสองคน พวกเขาไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งด้วย เพียงความผิดสองอย่างที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดขึ้นมา หากเป็นความจริง ที่เมี่ยวชุ่ยหลานถูกตบนั้นไม่น่าสงสารเลย

เพียงแต่ผู้ใหญ่บ้านเมี่ยวเต๋อ ยังคงเดินออกมา พูดกับลั่วเสี่ยวปิงด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “แม่นางคนนี้ นี่เป็นหมู่บ้านเมี่ยวเจียของพวกเรา อย่าทำเรื่องให้เกินไปขนาดนั้น”

ถึงแม้เมี่ยวชุ่ยหลานสมควรถูกตบตี แต่ตบตีในหมู่บ้านเมี่ยวเจีย ตบตีต่อหน้าเขาที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน นี่ถือเป็นการกระทำที่ไม่เห็นว่าเขาที่เป็นผู้ใหญ่บ้านอยู่ในสายตา ทำให้เขาที่เป็นผู้ใหญ่บ้านเสียหน้า อับอายอย่างที่สุด

ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง แน่นอนว่านิ่งดูดายไม่ได้

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงกลับมองดูเมี่ยวเต๋อ พร้อมพูดขึ้นอย่างประชดว่า “ข้าทำเกินไป? คนที่ทำเกินไปไม่ใช่พวกเจ้า คนหมู่บ้านเมี่ยวเจียหรือ?”

เมี่ยวเต๋อขมวดคิ้ว กำลังจะอ้าปากพูด ลั่วเสี่ยวปิงกลับไม่ให้โอกาสเขา เค้นถามทันทีว่า “พวกเจ้าแต่ละคนต่างพูดว่าเมี่ยวชุ่ยหลานถูกรังแกตอนที่อยู่สกุลจาง แต่พวกเจ้ายังจำได้ไหม ตอนที่เมี่ยวชุ่ยหลานเข้าไปอยู่ในสกุลจางนั้น สภาพเป็นยังไง? แล้วตอนนี้เป็นยังไง? สภาพแบบนี้พวกเจ้ามั่นใจว่านางถูกรังแกหรือ?”

ทันใดนั้น คนหมู่บ้านเมี่ยวเจียหันไปมองดูเมี่ยวชุ่ยหลานตามที่ลั่วเสี่ยวปิงพูด แล้วก็หวนคิดตามคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง หวนคิดถึงรูปลักษณ์ก่อนที่เมี่ยวชุ่ยหลานจะแต่งงาน

ก่อนแต่งงาน ถึงแม้เมี่ยวชุ่ยหลานจะเป็นดอกไม้งามดอกหนึ่งในบ้าน แต่ก็ผิวคล้ำผอมแห้ง เพราะตอนนั้นตระกูลเมี่ยวจนมาก

แต่ตอนนี้ ใบหน้าขาวผ่องอ่อนโยน แลดูเหมือนถูกประคบประหงมดูแลมาเป็นอย่างดี

แม้แต่บ้านเมี่ยวกุ้ย ก็มีชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่าเมื่อก่อนแล้ว

รูปลักษณ์แบบนี้ ไม่เหมือนคนที่ถูกรังแกมาจริงๆ

ทันใดนั้น แววตาของทุกคนต่างก็แฝงไปด้วยความลังเล

“ตอนที่เมี่ยวชุ่ยหลานอาศัยอยู่บ้านสกุลจาง แทบไม่ต้องทำงานอะไรเลย แล้วจะมีเหตุกระทบกระทั่งเกิดขึ้นได้อย่างไร?” ลั่วเสี่ยวปิงถามต่อ

“ใครบอกว่าข้าไม่ต้องทำงาน? ข้าไม่ต้องซักผ้าทำกับข้าวหรือ?” เมี่ยวชุ่ยหลานพูดเถียงอย่างไม่แม้แต่จะครุ่นคิด

และเมื่อพูดออกมาแล้ว เมี่ยวชุ่ยหลานก็รู้สึกได้ถึงสายตาชาวบ้านที่หันมามองอย่างผิดปกติ สายตาแต่ละคนที่มองนางเหมือนดั่งกำลังมองคนโง่

ก็ถูก เมี่ยวชุ่ยหลานพูดเช่นนี้ เท่ากับเป็นการยอมรับว่า ตอนที่ตนเองอยู่บ้านสกุลจางนั้น มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายมาก

ยังไงในตอนนี้ มีสะใภ้บ้านไหนที่ต้องทำเพียงงานซักผ้าทำกับข้าวบ้าง?นี่ไม่สบายเกินไปหรือ?

ลั่วเสี่ยวปิงเม้นริมฝีปาก แล้วก็ถามขึ้นอย่างประชดว่า “ซักผ้าทำกับข้าว เจ้าทำคนเดียวหรือ? ซิ่งฮวากับป้าไม่ทำหรือ? มีเพียงเจ้าล้ำค่าทำงานอะไรไม่ได้เลยหรือ?”

เมี่ยวชุ่ยหลานโกรธจนเบิกตาโตขึ้นมาในทันที ไม่รู้จะเถียงลั่วเสี่ยวปิงยังไง

ส่วนคนหมู่บ้านเมี่ยวเจีย ก็มองดูเมี่ยวชุ่ยหลานอย่างพูดไม่ออก นี่งานซักผ้าทำกับข้าวนางก็ไม่ได้ทำคนเดียว

“เมี่ยวชุ่ยหลานอยู่บ้านไม่เคารพพ่อแม่สามี หลังแกน้องสาวสามี ยุให้รำ ตำให้รั่ว พูดใส่ร้ายป้ายสีให้คนอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง บีบบังคับให้คนอื่นไปตาย นี่จึงเป็นสาเหตุที่แม้แต่ลูกก็ไม่สนใจ แอบหนีกลับมาบ้านตนเอง คนแบบนี้ไม่หย่าขาด จะให้เลี้ยงอยู่ที่บ้านรอฉลองปีใหม่หรือ?”

ทุกคน “.....” พวกเขาพูดอะไรไม่ออกจริงๆ

หากลั่วเสี่ยวปิงพูดความจริง ลูกสะใภ้แบบนี้หย่าแปดรอบสิบรอบยังถือว่าน้อยไป

“แต่เมี่ยวชุ่ยหลาน นางไม่เพียงฉีกหนังสือหย่า ยังสั่งให้คนที่บ้านทุบตีจนจางต้าหลางขาหัก แล้วเช้าวันนี้ก็มีการเขียนหนังสือหย่าขึ้นมาใหม่ แล้วเอาไปเยาะเย้ยคนสกุลจาง คนแบบนี้พวกเจ้ายังจะปกป้อง เป็นที่เลื่องลืออออกไป คนหมู่บ้านเมี่ยวเจียของพวกเจ้า ใครจะกล้ามาสู่ขอ?"

 ทุกคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง ทำให้คนหมู่บ้านเมี่ยวเจียตกตะลึงอย่างที่สุด

เมื่อวานคนบ้านเมี่ยวกุ้ยทุบตีจนจางต้าหลางขาหัก เรื่องนี้พวกเขารู้ แต่เรื่องที่เอาหนังสือหย่ามา พวกเขาไม่รู้จริงๆ

หากสิ่งที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดเป็นความจริง งั้นสิ่งที่คนบ้านเมี่ยวกุ้ยกระทำนั้น เกินเหตุไปแล้วจริงๆ

เหมือนอย่างที่ลั่วเสี่ยวปิงพูด หากเรื่องนี้เป็นความจริง งั้นชื่อเสียงทั้งหมู่บ้านเมี่ยวเจีย ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย

ผู้ใหญ่บ้านเมี่ยวเต๋อสีหน้าย่ำแย่มาก สายตาเฉียบคมกวาดไปมองคนบ้านเมี่ยวกุ้ย

“ที่นางพูด เป็นความไหม?” เมี่ยวเต๋อถามขึ้น

หากแม่นางคนนั้นพูดเป็นความจริงทุกอย่าง เขาก็จะเหมือนอย่างที่จางเต๋อหวั่งพูด แก่จนเลอะเลือนแล้ว

คนในหมู่บ้าน เขาสามารถปกป้องได้ แต่คนชั่วที่ทำลายชื่อเสียงของหมู่บ้าน เขาจะปกป้องไม่ได้ ไม่อย่างนั้นต่อไปวัยรุ่นในหมู่บ้านจะแต่งงานอย่างไร ผู้หญิงในหมู่บ้านจะไปหาแม่สามีที่ดีได้ที่ไหน?

เรื่องการแต่งงานถือเป็นเรื่องใหญ่ จะให้ขาดสะบั้นเพราะน้ำมือบ้านเมี่ยวกุ้ยไม่ได้

“ผู้ใหญ่บ้าน นางโกหก ที่นางพูดไม่ใช่ความจริง นางกำลังพูดใส่ความข้า” ไม่รอให้คนในบ้านของตนเองเปิดปากพูด เมี่ยวชุ่ยหลานก็ตอบขึ้นเองเสียก่อน

ปฏิกิริยาของพวกชาวบ้านนางเห็นด้วยตาตนเอง ดังนั้นนานจึงหวาดกลัวแล้ว

นางรู้ดี หากคนในหมู่บ้านไม่เข้าข้างนาง ตนเองจะต้องจบไม่สวยแน่

ความหวาดกลัวผุดขึ้นในใจ เมี่ยวชุ่ยหลานหันไปมองลั่วเสี่ยวปิงด้วยสายตาเคียดแค้น

“ผู้ใหญ่บ้าน ผู้หญิงคนนี้ นางยั่วยวนลุงของข้า ข้าเห็นด้วยตาตนเอง ไม่ใช่เรื่องเท็จแน่นอน” เมี่ยวชุ่ยหลานชี้ไปที่ลั่วเสี่ยวปิง พร้อมพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงคนนี้หน้าไม่อาย เมื่อห้าปีก่อน ก็ทำตัวเหลวไหลจนท้องมีลูกสองคน...”

“เพียะ....”

 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง